Thailand Web Stat
    








(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  ปัญหาเรื่องการทำดีไม่ได้ดี (อาจารย์วศิน อินทสระ) + clip วิ่งตามโลกไม่ทัน + 12 ข้อ Do 's & Don 'ts ยามโกรธ  
 
สวัสดีครับทุกท่าน อนุโมทนาครับ


rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:05:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 1  
 
คติธรรม ๑๐๘ : ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


๑๖. คนในโลกมี ๔ จำพวก คือ

๑. คนพาล ชอบทำชั่ว โทษของตัวมองไม่เห็น

๒. กัลยาณชน คนดีทำตนให้มีค่า ทำเวลาไม่ให้สูญ

๓. บัณฑิต ผู้ฉลาด เลือกการงานสิ่งคู่ควร คบคนรู้จักเลือก ทำความดีให้เกิดได้

๔. มหาบัณฑิต ไม่รัก ไม่เกลียด ไม่เบียดเบียนใคร ประโยชน์ใหญ่จักเกิดมี


http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=25776&sid=0474164fd961c1e20c80d778b0242f03

   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:09:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 2  
 
ปัญหาเรื่องการทำดีไม่ได้ดี (อาจารย์วศิน อินทสระ)


เรื่องนี้เป็นปัญหาค้างใจของคนส่วนมากอยู่ หรืออย่างน้อยก็ลังเลสงสัยว่าทำดีได้ดีจริงหรือไม่ ? จนถึงกับบางคนพูดว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" ดังนี้เป็นต้น ที่มีความรู้สึกเช่นนี้ อาจเป็นด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

๑. ทำความดีเพียงเล็กน้อย แต่ต้องการผลมาก
คือ ต้องการผลเกินเหตุที่ทำ จึงทำให้รู้สึก ทำดีไม่ได้ดี หรือได้ดีน้อยไป ตามธรรมดา คนที่มีความต้องการมาก สิ่งใดที่ได้มาแม้มาก ก็รู้สึกว่าน้อย ส่วนคนที่ต้องการน้อย แม้ได้ของน้อย ก็รู้สึกว่าได้มาก ความมากความน้อย จึงขึ้นอยู่กับความต้องการ และความจำเป็นของคนซึ่งมีอยู่ไม่เท่ากัน

๒. ไม่รู้จักรอคอยผลแห่งความดีที่ตัวทำ
อยากได้ผลเร็ว ๆ เมื่อความดีที่ทำให้ผลช้า ก็ไม่ทันใจ จึงทึกทักเอาว่า ทำดีไม่ได้ดี ตามที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า การให้ผลของกรรมมีลักษณะซับซ้อนมาก และกรรมจะให้ผลเมื่อสุกงอมเต็มที่แล้วเท่านั้น

กรรมที่ทำพร้อมกัน อาจให้ผลก่อนบ้างหลังบ้าง เหมือนต้นไม้ต่างชนิดกัน เราปลูกวันเดียวกัน เป็นต้นว่ามะม่วงกับมะละกอ มะละกอย่อมให้ผลก่อน แต่ไม่ยั่งยืน ส่วนมะม่วงให้ผลช้า แต่ยั่งยืน เพราะฉะนั้น ผู้ทำความดีจึงควรหัดเป็นคนใจเย็น รู้จักรอคอย

ส่วนความชั่วก็เหมือนกัน ย่อมรอเวลาฟักตัว ไม่ใช่ทำชั่วเดี๋ยวนั้น ผลชั่วก็พรั่งพรูเดี๋ยวนั้นเลย ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วใครเล่าจะกล้าทำชั่ว

๓. ทำความดีไม่พอดี
หมายถึง ทำขาดไปบ้าง ทำเกินไปบ้าง คือ ขาดความพอดีในการทำดี เมื่อขาด ความดีก็ไม่สมบูรณ์ เมื่อเกินก็ล้นไป เสียประโยชน์ ไม่ว่าการทำดีหรือทำอะไรทั้งสิ้นจะต้องพอดีจึงจะดีแท้

ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าต้องพอดีกับผู้สวมใส่ อาหารก็ต้องพอดีของแต่ละมื้อ และได้สารอาหารต่าง ๆ ตามที่ร่างกายต้องการแต่พอดี ไม่มีสารใดเกินสารใดขาด จึงจะทำให้ร่างกายแข็งแรงเจริญเติบโตและต้านทานโรคได้ดี

การก่อสร้างที่เราต้องพึ่งสถาปนิกและวิศวกร ก็เพื่อให้เกิดความพอดีนั่นเอง ตัวอย่างเช่น เสาก็พอดีกับน้ำหนักบ้าน ถ้าบ้านใหญ่เสาเล็ก ก็ทานน้ำหนักไม่ไหว บ้านอาจพังลงมา ที่คิดว่าจะประหยัด ก็กลายเป็นสูญเสียทรัพย์สินเป็นอันมาก

แต่ถ้าทำเสาใหญ่เกินไปไม่สมดุลกับการที่จะต้องรับน้ำหนัก ก็เป็นการสูญเปล่าโดยไม่จำเป็น เหมือนคนตัวนิดเดียวขาใหญ่โตมโหฬาร จะกลายเป็นน่าเกลียด เป็นที่เยาะเย้ยของคนทั้งปวง

เพราะฉะนั้น จึงต้องทำความดีแต่พอดีกับบุคคลนั้น ๆ กรณีนั้น ๆ ไม่ให้มากเกินไป หรือน้อยเกินไป ไม่น้อยจนไม่พอ และไม่มากจนล้นเหมือนน้ำล้นตุ่ม ส่วนล้นนั้นเป็นส่วนเกิน

๔. ความฝังใจหรืออุปาทานอยู่ในใจว่าทำคุณกับใครไม่ขึ้น
ข้อนี้คนทั่วไปเป็นกันมาก ถ้าไปหาหมอดูและหมอดูทายว่า ชะตาของคุณทำคุณกับใครไม่ขึ้น ละก็ชอบใจนักเชียว นั่นเป็นเพราะไปตรงกับความฝังใจที่มีอยู่แล้ว

การทำความดีกับคนนั้น ค่อนข้างยากสักหน่อย ไม่เหมือนทำความดีกับพวกสัตว์ เป็นต้นว่าสุนัข ทั้งนี้เพราะคนต้องการความภูมิใจ แม้เราจะทำความดีให้เขา ก็อย่าไปลดความสำคัญ และความภูมิใจของเขา

ถ้าเราไปลดความสำคัญและความภูมิใจของเขาแล้วแทนการรู้สึกสำนึกบุญคุณของเรา เขาจะรู้สึกเคียดแค้นชิงชังเสียด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นการทำความดีกับคน จึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง มิฉะนั้นการทำคุณจะกลายเป็นโทษไป

ให้เลิกฝังใจว่าทำคุณกับใครไม่ขึ้นเสีย แล้วทำความดีด้วยความเสียสละ ด้วยน้ำใจอันดีงาม ท่านจะต้องได้รับผลดี และอาจได้มากว่าที่ท่านหวังเสียอีก

๕. ขาดกุศลโลบายในการทำดี
คำว่า กุศโลบายไม่ใข่เลห์กระเท่ห์ หรือเล่ห์เหลี่ยมกลโกงอะไร แต่หมายถึง ความฉลาดรอบคอบ หยั่งรู้ถึงเหตุการณ์ บุคคล กาลเวลา (หรือโอกาส) ในการที่จะทำความดี กุศโลบายในการทำความดี ก็คือ ทำดีให้ถูกกาล ให้ถูกบุคคล ถูกเรื่องราว

คัดลอกจาก... ความดี โดย อาจารย์วศิน อินทสระ

http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=11341


http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17280

   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:13:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 3  
 
คำพูดกินใจของปราชญ์จีน สุภาณี ปิยพสุนทรา...แปล


๓ "ปันกู้"
" น้ำใสสะอาดเกินไป... ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
คนที่เข้มงวดเกินไป... ย่อมไร้ซึ่งบริวาร "

๔ "หลี่ต้าเจา"
" ความไม่พอใจ... ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้... ห่อเหี่ยวยอมจำนนต่ออุปสรรค..."


http://www.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=6270

   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:14:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 4  
 
ข้อคิด คติเตือนใจ


10. จงคบหาแต่คนดี ๆ


http://www.baanjomyut.com/library_2/personal_comments_remind/index.html

   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:15:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 5  
 
มงคลชีวิต


ท่านเคยเป็นอย่างนี้บ้างไหม ?..ฝึกหลบ เรียนหลับ เงินรับ เสาร์ลา โยธาอู้


http://www.baanjomyut.com/library_3/extension-5/mongkol/index.html


   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:16:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 6  
 
clip ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ : คมธรรมประจำวัน โดย ท่าน ว.วชิรเมธี

https://www.youtube.com/watch?v=DKTSrzETL50

   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:18:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 7  
 
clip วิ่งตามโลกไม่ทัน

https://www.youtube.com/watch?v=m7qetREcYaM

   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:18:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 8  
 
12 ข้อ Do 's & Don 'ts ยามโกรธ


“ยิงดับคาถนน เหตุซิ่งขับปาดหน้า”

ข่าวทำนองนี้ในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวัน ล้วนมีสาเหตุจากอารมณ์โกรธชั่ววูบที่เกิดขึ้น หากว่าคนนั้น ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ พูดหรือแสดงกิริยาก้าวร้าว รุนแรงออกมา ก็จะบานปลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ส่งผลร้ายต่อตัวเองและคนรอบข้างในที่สุด

ครั้งหน้า เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ หรือผู้คนที่กระตุกต่อมโกรธของคุณให้พลุ่งพล่านละก็ ลองนำเรื่องที่ควรทำ (Do’s) และไม่ควรทำ (Don’ts) 12 ข้อนี้ไปใช้ เพี่อชีวิตจะได้ดีขึ้นบ้าง

1. Do - จงพูดเรื่องสำคัญ

ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับทุกเรื่องราวที่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับตัวเอง หรือเรื่องที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจ ซึ่งเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน คุณต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง เพื่อที่ใจจะได้ไม่ขุ่นมัวมากนัก

แต่หากเป็นเรื่องทีี่คุณวางไม่ลง และยังรู้สึกขมขื่น เคียดแค้น ทุกข์ใจตลอดเวลา เช่นนี้คงไม่ดีแน่ ถ้ายังนิ่งเฉย แล้วปล่อยให้มันคุกคามจิตใจ จนรู้สึกโกรธและไม่มีความสุข เพราะการนิ่งเงียบ ไม่เผชิญหน้ากับสิ่งที่เข้ามากระทบ ถือเป็นข้อผิดพลาดที่บั่นทอนความเป็นตัวตนของคุณ

2. Don’t - อย่าตีเหล็กยามร้อน

สำนวนที่ว่า “ให้ตีเหล็กยามร้อน” นั้นใช้ไม่ได้ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์รุนแรง ดังนั้น อย่าหยิบยกปัญหาขึ้นมาพูดในขณะที่กำลังโกรธจัด ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรแล้ว กลับจะยิ่งซ้ำเติมเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้บานปลายออกไป

การพักรบชั่วคราวน่าจะเป็นสิ่งที่ดี เมื่อใจเย็นลงแล้วจึงค่อยมาพูดคุยกันใหม่ ด้วยเหตุด้วยเหตุผล ก็จะช่วยให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นได้

3. Do - จงใช้เวลาขบคิดปัญหา

จงให้เวลากับการพิจารณาปัญหาและจุดยืนของตัวเอง ก่อนพูดต้องแน่ใจเสียก่อนว่า ประเด็นที่แท้จริงคืออะไร สิ่งไหนที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ และจะพูดอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

4. Don’t - อย่าใช้กลยุทธ์ชกใต้เข็มขัด

อย่าใช้กลยุทธ์ชกใต้เข็มขัด ซึ่งหมายถึงการพูดจาตำหนิติเตียน ประชดประชัน ข่มขู่ พร่ำบ่น หรือแม้กระทั่งการหัวเราะเยาะ ผู้ที่คุณรู้สึกไม่สบอารมณ์ หรือแม้แต่การเขียนอีเมลยามโกรธ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะช่วงเวลาเช่นนั้น คุณอาจจะเขียนด่าว่าไป ตามอารมณ์ที่คุกรุ่น ซึ่งมันจะกลายเป็นหลักฐานชั้นดีที่ไปตอกย้ำซ้ำเติมมิให้เรื่องราวนั้น ๆ จบลงง่าย ๆ และคุณอาจจะต้องเสียใจเมื่อได้อ่านมันอีกครั้งยามที่ใจคุณสงบลง

5. Do - จงใช้คำว่า “ฉัน” เมื่อสนทนา

หัดกล่าวคำว่า “ฉันคิดว่า..ฉันรู้สึกว่า..ฉันกลัวว่า..ฉันต้องการ..” ในการสนทนา เพื่อแสดงความเป็นตัวตนของคุณ โดยปราศจากการวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิติเตียนบุคคลอื่น หรือโยนความผิดให้คนอื่น ที่ทำให้คุณรู้สึกหรือแสดงออกเช่นนั้น เช่น ฉันต้องการคุยกับคุณด้วยเหตุด้วยผล เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ต้องระวังคำพูดแอบแฝงที่ใช้ในประโยค “คุณ” หรือคำพูดจอมปลอมในประโยค “ฉัน” ที่ไม่จริงใจ เช่น ฉันคิดว่าคุณควรจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อย เป็นต้น

6. Don’t - อย่าเรียกร้องอย่างคลุมเครือ

การเรียกร้องหรือการบอกความในใจบางอย่าง อาทิ “ฉันอยากให้คุณรับรู้ถึงความต้องการของฉัน” อาจจะเป็นคำพูดที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน

ดังนั้น ควรเปลี่ยนเป็นคำพูดที่ทำให้ผู้อื่นรู้ถึงสิ่งที่คุณต้องการ เช่น “วิธีดีที่สุดที่คุณจะช่วยฉันได้ในตอนนี้คือ แค่รับฟัง เพราะขณะนี้ฉันยังไม่อยากได้คำแนะนำใด ๆทั้งสิ้น”

อย่าไปคาดหวังว่า บุคคลอื่นจะล่วงรู้ความต้องการของคุณ หรือทำสิ่งต่าง ๆให้ โดยที่คุณไม่ได้ร้องขอ เพราะแม้แต่คนที่รักคุณ ก็มิอาจอ่านใจคุณออกเสมอไป

7. Do - จงเห็นคุณค่าความแตกต่าง

จงตระหนักในสัจธรรมที่ว่า มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเหมือนกันทุกคน แม้กระทั่งฝาแฝดที่มีหน้าตาเหมือนกัน แต่ก็มีจิตใจที่แตกต่างกัน มีโลกทัศน์ที่แตกต่างกัน และหากคุณกำลังถกเถียงกันว่า ใครผิด ใครถูก แสดงว่าคุณกำลังลืมความจริงข้อนี้

เพราะทัศนคติ มุมมอง และพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ไม่ได้หมายความว่า ใครคนหนึ่งเป็นฝ่ายถูก และอีกคนหนึ่งเป็นฝ่ายผิด

8. Don’t - อย่าชี้นำความคิดผู้อื่น

ไม่ควรชี้นำให้บุคคลอื่นคิดหรือรู้สึก หรือควรคิดควรรู้สึกอย่างไร หากการกระทำของคุณ ทำให้ใครบางคนโกรธ จงอย่าวิจารณ์ความรู้สึกของเขา หรือตำหนิว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธคุณ

ทางที่ดี คุณควรพูดว่า “ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกโกรธ และถ้าฉันอยู่ในสถานะเดียวกับคุณ ก็อาจรู้สึกโกรธเช่นกัน แต่ฉันได้คิดทบทวนมาอย่างดีแล้ว และนี่คือการตัดสินใจของฉัน”

โปรดระลึกไว้เสมอว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโกรธ แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องไปโทษคนอื่นที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น

9. Do - จงรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง

ในยามโกรธนั้น คนเรามักไม่ได้นึกถึงการกระทำของตัวเอง แต่กลับโทษคนอื่น เช่น คุณรู้สึกโกรธที่ลูกชายทำตัวห่างเหิน และโทษลูกสะใภ้ที่มาแย่งความรักจากลูกชายคุณไป ซึ่งจริง ๆ แล้วบางทีพฤติกรรมของลูกชายก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกสะใภ้ของคุณเสมอไป สิ่งที่คุณควรทำคือหาทางปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกให้ดีขึ้น แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง

หรืออย่าโยนความผิดให้เพื่อนร่วมงาน หากคุณถูกเจ้านายตำหนิเรื่องการงานบกพร่อง ควรหันมาพิจารณาตัวเองว่า ทำผิดพลาดเรื่องใด และรีบปรับปรุงแก้ไข อย่าให้ผิดซ้ำอีก

10. Don’t - อย่าถกเถียงโดยไร้ข้อสรุป

อย่าพยายามโน้มน้าวหรือถกเถียงกับคนอื่นให้เห็นว่าคุณทำถูก หากพวกเขาไม่รับฟัง แต่ให้พูดง่าย ๆ ว่า “นี่อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับคุณ แต่ฉันรู้สึกเช่นนี้จริง ๆ” หรือ “ฉันเข้าใจว่าคุณไม่เห็นด้วย แต่เป็นเพราะเรามองปัญหาต่างกันนั่นเอง”

11. Do - จงหลีกเลี่ยงการพูดผ่านบุคคลที่สาม

หากคุณไม่พอใจการกระทำของญาติสนิทมิตรสหายในบางเรื่อง ไม่ควรพูดว่า “ฉันคิดว่าลูกสาวของฉันคงรู้สึกแย่ ถ้าคุณไม่มาร่วมงานแต่งงานของเขา”

แต่ควรพูดว่า “ฉันจะเสียดายมาก ถ้าคุณไม่มางานแต่งงานของลูกสาวฉัน เพราะคุณมีความหมายสำหรับฉันมาก และฉันอยากให้คุณมาร่วมงานจริง ๆ”

12. Don’t - อย่าคาดหวังว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในทันที

บางครั้งการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาจทำให้คนใจร้อนเกิดอารมณ์โมโหขึ้นได้ง่าย ๆ จนนำไปสู่ผลเสีย เช่น เมื่อคุณเป็นโรคอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษา แต่เบื่อที่ต้องกินยาเป็นเดือน ๆ คุณจึงรู้สึกโมโหที่มันไม่หายสักที จึงเขวี้ยงยาทิ้ง และไม่ยอมกินอีกเลย ผลก็คือ โรคของคุณที่ทำท่าว่าจะเริ่มดีขึ้นแล้วกลับทรุดลงไปอีก ท้ายสุดก็ต้องกลับมาเริ่มต้นกินยาใหม่

ฉะนั้นจงอย่าท้อแท้ หากคุณเริ่มต้นทำได้ดีแล้ว แต่สุดท้ายต้องล้มไม่เป็นท่าด้วยโทสจริต

การล้มเหลวถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ฉะนั้น คุณจึงต้องอดทน แล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้งให้สำเร็จ สมดังคำว่า “ผิดเป็นครู” นั่นเอง

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 130 กันยายน 2554 โดย ประกายรุ้ง)


http://board.palungjit.org/f9/12-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD-do-s-don-ts-%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%98-304154.html

   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:36:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 9  
 
clip คนอย่างฉันมีแค่ใจ MV BY ยอด สกรณ์ บรรจงราชเสนา ณ อยุธยา

# ขอขอบคุณ สกรณ์ บรรจงราชเสนา ณ อยุธยา channel มา ณ ที่นี้ด้วยครับ #

https://www.youtube.com/watch?v=4Wz1XuajTKU


   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:41:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 10  
 
clip ดอกไม้เก่าในแจกันเดิม MV BY ยอด สกรณ์ บรรจงราชเสนา ณ อยุธยา

# เพลงเพราะดีครับ #

https://www.youtube.com/watch?v=iXpWMJ35cxs


   rockonyou      17 ก.ย. 59   เวลา 5:41:00    IP = 72.69.135.115
 


  คำตอบที่ 11  
 
สาธุครับ

   เจต06  17 ก.ย. 59   เวลา 8:44:00    IP = 49.48.250.16
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket