(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  Gibsun studio 2011 Capacitor เล็กจังครับ  
 
Gibson studio ผม เปิดเข้าไปดู Capacitor ที่ไร ทำไมมันเล็กจัง ประมาณ 8 mm เห็นจะได้ และเป็นหมายเลข 223 (หมายคว่าว่า 0.223 หรือเปล่าครับท่าน)
อยากเห็นภาพรุ่นเดียวกันของท่านอื่นเหมือนกันครับ แลกเปลี่ยนความรู้กัน ขอบคุณล่่วงหน้าน่ะครับ


zuza      27 ก.ค. 59   เวลา 22:34:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 223.204.251.50
 


  คำตอบที่ 1  
 
ขนาดของcapไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นมันอยู่ที่ค่าความจุครับ บางตัวเล็กนิดเดียวแต่ความจุมากกว่าตัวใหญ่ๆก็มี มันอยู่ที่รูปแบบของผู้ผลิตครับ ส่วน223ที่ปั๊มบนตัวcapเค้าอ่านตามค่าหน่วยเป็นpfครับ 1000pf=1nf / 1000nf.=1uf. เลข22เเรกคือเบอร์ความจุ ส่วนเลข3ตัวหลังคือแทนศูนย์3ตัวครับ ค่าที่ได้คือ22000pf หรือ0.022ufนั่นเองครับ

   ไม่มีตังค์ก็ยังเล่นดนตรี  27 ก.ค. 59   เวลา 22:48:00    IP = 110.168.231.180
 


  คำตอบที่ 2  
 
ขอบคุณครับท่าน ถามต่ออีกนิดครับ studio ควรใส่ Capa ค่าเท่าไหร่ดีครับท่าน

   zuza      27 ก.ค. 59   เวลา 22:59:00    IP = 223.204.251.50
 


  คำตอบที่ 3  
 
แล้วแต่นะครับเรื่องนี้ เหมือนบางคนชอบแหลมจิกๆปลายเปิดๆก็ใส่ค่าน้อยๆแบบ0.022นี่แหละครับ ถ้าอยากให้หม่นๆทุ้มลงมานวลๆก็อาจจะ.05หรือ0.047ครับ. กีต้าร์ที่นิยมใส่ก็ตั้งแต่0.022-0.1uf. ครับ เคยอ่านเจอในเวปพวกgibson. Studioรุ่นใหม่ๆเค้าจะมีpot pull/pushตัดcoilได้ เค้าจะใช้ค่า0.047สำหรับHumและ0.033สำหรับตัดcoilแล้ว บางคนก็โมด์ใส่0.022สำหรับตัดcoilเพราะจะให้ปลายที่มากกว่า แต่เสียงก็จะแหลมขึ้นแห้งขึ้นตามไปด้วย อันนี้ต้องลองครับมันหลักการเดียวกับการcut eqหาย่านที่เราชอบ กีต้าร์ที่นิยมใส่ก็ตั้งแต่0.022-0.1uf. ครับ ค่ามากกว่านี้จะนิยมใส่อยู่ในพวกbassครับผม

   ไม่มีตังค์ก็ยังเล่นดนตรี  27 ก.ค. 59   เวลา 23:13:00    IP = 110.168.231.185
 


  คำตอบที่ 4  
 
ตัวนี้เขาเรียกว่า Capacitor แบบ Ceramic ครับ ปกติจะใส่ในกีตาร์จากโรงงานเรียกว่าจะเป็นชนิดมาตราฐานของกีตาร์สมัยนี้เลยครับ แต่รู้สึกว่าจะมี Studio ปี 2015 จะใส่เป็น Orange Drop มาให้

บอกจากค่าแล้ว ชนิดของมันเองก็ยังมีผลต่อลักษณะของเสียงเหมือนกันนะครับ แต่อาจจะไม่เห็นผลมากเท่า เบอร์หรือค่าความจุของมัน

จริงๆเลย Capacitor แต่ละค่าแต่ละแบบของตัวมันมีผลหมดครับ มากน้อยต่างกันไป
อย่างแรกเลย คือ เบอร์ ยิ่งเลขมากๆ มันจะกรองความถี่สูงไว้เยอะ ทำให้เสียงที่ออกมา มีเสียงแหลมที่น้อยลง

อย่างที่สองคือค่า V เช่นบางตัวอาจจะเขียนว่า 0.0022 uf 400V. (Volt) ค่า V ที่น้อยจะตอบสนองต่อเสียงที่ไวกว่า (ผมไม่ค่อยรู้สึกเพราะผมเล่นไม่เร็ว แต่คนเล่นสายปั่นบางคนเขาบอกว่าชอบที่ค่า V น้อยๆ) ปล. จริงๆข้อพยายามอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆที่สุด อาจจะไม่ตรงหลักการมากนัก

อย่างที่สามคือ ชนิดของตัวเก็บประจุหรือ Capacitor จริงๆมันมีหลายชนิด แลหะให้โทนเสียงที่ต่างกันออกไป เรื่องนี้ผมพอสัมผัสได้ แต่ชนิดที่คนเล่น Gibson ส่วนมากนิยมและใฝ่หา น่าจะเป็น PIO หรือ Paper in Oil (ตัวนี้ชนิดนี้ราคาค่อนข้างสูง ของปลอมก็มีต้องระวัง)
สำหรับผม ผมว่าชนิดนี้มันได้ข้อดีัหลายๆเรื่อง ที่แต่ผมชอบมากคือโทนมันดูอุ่นๆหวานๆ ไดนามิค ดีๆ (คนเล่นคลีนๆช้าๆแบบผมน่าจะชอบ)

กับอีกแบบคือ Orange Drop ตัวสีส้มๆ เขาว่าแบบให้เสียที่ดุดันกว่า


ประมาณนี้ครับ

   songamnart      29 ก.ค. 59   เวลา 9:27:00    IP = 171.96.238.69
 


  คำตอบที่ 5  
 
คาปา ในกีตาร์ก็เหมือนท่อน้ำทิ้งครับ อย่าไปคิดมาก
ความแตกต่างทั้งหลายแหล่จะมีผลก็ต่อเมื่อมันได้
ไปอยู่ในจุดที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคนึงไปอีกภาคนึง(Coupling Signal)
ของวงสัญญาณเสียงครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      yossapong      9 ส.ค. 59   เวลา 9:21:00    IP = 202.28.41.16
สมาชิกแบบพิเศษ  
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket