|
|
 |
|
 |
| |
เปิดบันทึก 15 ปีฟุตบอลไทย : ยุคทอง / ล้มเหลว / วิกฤติศรัทธา และการกลับมา... |
|
|
|
|
| |
 |
ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของวงการลูกหนังมี มีอายุยืนยาวมานานครบ 100 ปีในปีนี้... แต่ละยุคสมัยมีแข้งสยามระดับตำนานเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่อดีต ทั้ง วิทยา เลาหกุล นักฟุตบอลไทยคนแรกในผืนแผ่นดินตะวันตก, เฉลิมวุฒิ สง่าพล และ วรวรรณ ชิตะวณิช 2 สุดยอดกองกลาง ตลอดจน ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน กองหน้าหมายเลข 1 ตลอดกาล...
แต่ยุคทองทีมชาติไทยที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลมากที่สุด คือ การเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสุดท้าย หรือที่เรียกกันให้ดูยิ่งใหญ่ว่า “ท็อปเทนเอเชีย” ภายใต้การคุมทีมของ ปีเตอร์ วิธ อดีตกุนซือชาวอังกฤษ และขุนพลแข้งดรีมทีมแห่งยุค “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กองหน้าคนไทยเพียงคนเดียวจนถึงปัจจุบันที่ได้รับเวิร์คเพอร์มิตในอังกฤษ, ตะวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน หรือ กระทั่ง เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ ซึ่งนับเป็นการไปได้ไกลที่สุด ตั้งแต่ไทยเข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ครั้งแรก เมื่อปี 1978... แม้รอบ 10 ทีมสุดท้าย “ช้างศึก” จะจมบ๊วยของกลุ่ม แต่นั่น คือ แสงสว่างที่ทำให้คนไทยได้คิดและฝากความฝันว่า “ฟุตบอลทีมชาติไทย” จะได้ไปเวิลด์คัพ ในอนาคต อันใกล้ มัน คือ จุดสูงสุดบนเส้นทางฟุตบอลโลกของประวัติศาสตร์ลูกหนังสยาม...
นอกจากการไปได้ไกลในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เมื่อยุคต้นปี 2000 ไทยเรายังแสดงความเรืองรอง ด้วยการกวาดทุกแชมป์ที่ขวางหน้า ทั้งอาเซียน คัพ, ซีเกมส์ ทุกสมัย แถมยังเป็นอันดับ 4 เอเชี่ยน เกมส์ 2 ครั้งซ้อนปี 1998 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และ 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้... แรงกิ้งโลก เราก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 45 ...มันยิ่งทำให้เราภาคภูมิใจ และแฟนบอลต่างคาดหวังที่จะเห็นก้าวต่อไปอันสวยงามกว่าเดิม
แต่ฝันเป็นได้แค่ฝัน เมื่อทุกอย่างล้มพังทลายในพริบตา...
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 13:57:00
พิมพ์ 
แจ้งลบ IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
| |
คำตอบที่ 1
|
|
| |
 |
องค์ 1
ระยะเริ่มต้นของความตกต่ำ
เมื่อคนไทยได้เห็น “ช้างศึก” เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายของรอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในฟุตบอลโลก 2002 ความฝันที่จะได้เห็นธงไตรรงค์โบกสะบัดในเวทีโลก มันลุกโชนขึ้น และความสำเร็จจากการคว้าอันดับ 4 เอเชี่ยน เกมส์ ที่ปูซาน มันก็หอมหวานชวนวาดฝันยิ่งกว่าเดิม... แต่การกระเด็นตกรอบเอเชี่ยน คัพ 2004 ที่จีน แบบแพ้รวด 3 นัด และการตกรอบแรกอาเซียน คัพ หรือ ไทเกอร์ คัพ 2004 ที่มาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ
ณ ดินแดนเสือเหลือง ซิกกี้ เฮลด์ กุนซือชาวเยอรมันเป็นเฮดโค้ช ได้ขนนักเตะดาวรุ่งรุ่นอายุระหว่าง 20 – 24 ปี ไปทำศึก และก็พ่ายแพ้กลับมา ซึ่งเบื้องหลังผลงานที่ย่ำแย่เกิดจากการบริหารงานที่ขาดตกบกพร่อง ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในสมัยนั้น เพราะตลอดทั้งปี ทีมชาติไทยไม่มีแมตช์อุ่นเครื่อง ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าแม้แต่นัดเดียว ซ้ำร้าย ยังส่งผลกับคะแนนในแรงกิ้งโลก... โดยข้อมูลเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฟีฟ่า (fifa.com) เมื่อปี 2005 ระบุว่าอันดับโลกไทยร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 111 ของโลก จากที่เคยทำได้ดีที่สุดอันดับที่ 45 เมื่อปี 1998 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่แรงกิ้งโลกของไทยแตะหลักร้อย...
มันเกิดอะไรขึ้นกับช่วงเวลาเพียง 7 ปีที่ทำให้ฟุตบอลชาติไทยรุดลงอย่างรวดเร็ว?
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 13:58:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 2
|
|
| |
 |
องค์ที่ 2
ราชาตกบัลลังก์
ความล้มเหลวข้างต้น…นำมาสู่ยุคมืดของวงการลูกหนังไทยที่คืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ พวกเขากลายเป็น ราชาอาเซียนผู้ตกบัลลังก์อย่างรวดเร็ว ไร้มงกุฏใดมาครอบครอง…หากจะเปรียบกับฉายาของพวกเขาว่า “ช้างศึก” มันก็คงเป็นช้างป่วยที่ไร้พิษสงใด หากออกสู่สงครามรบ และก็กลับมาด้วยบาดแผลเจียนตาย
ปี 2005 “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือระดับตำนานผู้พาทีมกสิกรไทยชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยใหญ่ สุดของเอเชีย 2 สมัย เข้ามารับงานเป็นกุนซือทีม “ช้างศึก” และเริ่มต้นด้วยการพาทีมเป็นแชมป์คิงส์คัพ 2006 รายการที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังสำหรับประชาชนคนไทย โดยมี เวียดนาม, คาซัคสถาน และ สิงคโปร์ เข้าร่วมชิงชัย รวมถึงคิงส์ คัพ ปี 2007 ที่ชนะเลิศได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้คู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้นมาหน่อย มีทั้งเกาหลีเหนือ, อุซเบกิสถาน และ อิรัก ชุด บี ขณะเดียวกัน ซีเกมส์ 2007 ไทยเราก็คว้าทองมาได้...
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 13:59:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 3
|
|
| |
 |
แต่นั่นต้องอย่าลืมว่าปีนั้น ไทยเป็นเจ้าภาพที่จังหวัดนครราชสีมา…
ขณะที่รายการที่มีการท้าชิงความเป็นจ้าวแห่งภูมิภาคอาเซียนของจริง ที่ลงเตะตั้งแต่ช่วงต้นปี 2007 อย่าง อาเซียน คัพ แม้ไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสิงคโปร์ แต่สุดท้ายก็ได้แค่รองแชมป์ หลังโดนทีเด็ดของ ไครูล อัมรี ซัดในช่วงท้ายเกมของเลกที่ 2 ที่พบกัน รวมสกอร์ 2 นัด แพ้ไป 2 – 3 คาสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย
และปีเดียวกัน (อีกครั้ง) ทีมชาติไทยได้ลงเล่นเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย ในฐานะเจ้าภาพร่วมกับเวียดนาม, อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ได้แบบค่อนข้างน่าประทับใจ พวกเขาเสมอกับอิรักในนัดแรก, ชนะโอมาน ในนัด 2 แต่นัด 3 แม้จะเล่นกับออสเตรเลีย ได้แบบสนุก มีนักเตะคู่พี่น้องฝาแฝดอย่าง สุรีย์-สุรัตน์ สุขะ ได้แจ้งเกิด (จนในเวลาต่อมา สุรัตน์ ได้ย้ายไปเล่นให้กับ เมลเบิร์น วิคตอรี่ ในเอลีก) แต่สุดท้ายก็แพ้ความเฉียบขาดของ “ซ็อคเกอร์รูส์” ออสเตรเลีย ที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับโลก มาร์ค วิดูก้า, ทิม เคฮิลล์ และ แฮร์รี่ คีลล์ จนแพ้เละเทะ 0 – 4 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:01:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 4
|
|
| |
 |
แม้ปีนั้นอาจมีข่าวดีที่มีนักเตะไทยอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, เกียรติประวุฒิ สายแวว และ สุรีย์ สุขะ ถูกส่งตัวไปเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขณะนั้น ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานสโมสรฯ แต่มันก็เป็นแค่เรื่องของคำว่า “คอนเนคชั่น” และ “การตลาด” เท่านั้น...
ปี 2008 กับ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ทีมชาติไทย ยังคงย่ำแย่...ลงสนาม 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเดียวกับ ญี่ปุ่น, บาห์เรน และ โอมาน ก่อนเก็บได้แค่ 1 คะแนนเท่านั้น ตกรอบแบบน่าใจหาย... มันไม่เหลืออะไรที่ใกล้เคียงกับที่เคยทำได้เมื่อเกือบ 10 ปีก่อนเลย...
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:06:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 5
|
|
| |
 |
องค์ 3
ลีกบูม..ชาติดับ
ช่วงเดือนกันยายน ปี 2008 ปีเตอร์ รีด อดีตกุนซือซันเดอร์แลนด์ และลีดส์ ยูไนเต็ด คนดังชาวอังกฤษ เข้ามารับงานต่อจาก “โค้ชหรั่ง” และทัวร์นาเม้นต์แรกที่เขาจำเป็นต้องนำไทยกลับมา คือ การครองบัลลังก์อาเซียน จากการแข่งขัน อาเซียน คัพ ช่วงปลายปีนั้น...เขามีเวลาเตรียมทีมแค่ 3 เดือน ในช่วงเวลาที่ “ช้างศึก” ชุดของ มิสเตอร์ รีด นำโดยผู้เล่นพลังหนุ่มหลายคน โดยเฉพาะ ธีรศิลป์ แดงดา, อาทิตย์ สุนทรพิธ, รวมถึง รณชัย รังสิโย ก่อนพาเข้าชิงได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามผลการแข่งขันนัดชิงไม่เป็นใจ หลังไทยแพ้เวียดนามด้วยสกอร์รวม 2 – 3 อีกครั้ง โดยผู้ที่ดับฝัน “ช้างศึก” ครานั้น คือ เล กง วินห์ กองหน้าหมายเลข 1 ของทัพ “ดาวทอง” ในปัจจุบันนั่นเอง จากการโหม่งประตูตีเสมอไทยในช่วง ทดเจ็บของเกมนัด 2 ที่ หมี่ ดิงห์ สเตเดี้ยม... ชอกช้ำไร้ความสำเร็จในรายการนี้ครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
ความจริงกุนซือเลือดผู้ดีคนนี้ก็นับเป็นโค้ชที่ได้รับการยอมรับพอตัว ครั้งหนึ่ง ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าหมายเลข 1 ของไทยในปัจจุบัน เคยพูดไว้ว่า ปีเตอร์ รีด คือ หนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดที่เขาเคย ร่วมงานด้วย และมีความเป็นมืออาชีพสูง.. แต่จู่ๆวันหนึ่งเจ้าตัวกลับไปโผล่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมสโต๊ค ซิตี้ ที่อังกฤษแบบไม่ร่ำลา... ทำให้ต้องยกเลิกสัญญากันไป... เรื่องนี้บ้างพูดกันว่าอดีตดาวเตะแมนฯซิตี้ รับไม่ได้กับการบริหารที่ไม่เป็นมืออาชีพของสมาคมฟุตบอลไทย แต่บ้างก็ว่า ปีเตอร์ รีด ทำไม่ถูกในทุกกรณีอยู่ดี เพราะการหนีกลับไปแบบนั้นไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง จนกลายเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อยู่พักใหญ่
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:08:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 6
|
|
| |
 |
...ย้อนกลับไป 1 ปีก่อนหน้านี้ วรวีร์ มะกูดี ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ภายใน 45 วินาที...เขาอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ ปีเตอร์ รีด ตัดสินใจกลับบ้านเกิดหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่เขาก็ดูเป็นคนหัวใหม่ เป็นนักธุรกิจที่ฉลาดด้านการลงทุน... ความสำเร็จที่ยังไม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของทีมชาติไทยช่วง 2 ปีแรกของการเข้ารับตำแหน่ง อาจดูเป็นการตัดสินใจที่เร็วไป หากจะบอกว่าเขาล้มเหลว แต่สิ่งที่คนไทยต้องการ และถวิลหามายาวนน คือ การก่อตั้งไทยพรีเมียร์ลีก ขึ้นเมื่อปี 2009 ทำให้ระบบลีกฟุตบอลไทยกลายเป็นมืออาชีพ จนค่อยๆ พัฒนามาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน...
ช่วงแรกของการสร้างลีกให้เติบโตนั้นทุกๆอย่างดูราบรื่น นักเตะได้เงินเดือนเยอะขึ้น เพราะระบการบริหารลีก ทำให้มีผู้คนสนใจ และมีสปอนเซอร์ ผู้อุปถัมภ์ก้าวเข้ามาสู่วงการลูกหนังไทย ตลอดจนนักการเมืองหลายๆท่าน ที่กระโดดลงสู่เวทีนี้ เมื่อเม็ดเงินสะพัด คนก็ยิ่งเข้าดู พัฒนาการก็เติบโตขึ้นอย่างเป็นระบบ... แต่ผู้เกี่ยวข้องกับสโมสร ไม่ได้หาคนที่จริงใจต่อทีมชาติได้ง่ายๆนัก พวกเขาต้องมองผลประโยชน์ของทีมตัวเองเป็นหลัก
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:09:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 7
|
|
| |
 |
ทีมชาติไทย ต่อจากยุคของ ปีเตอร์ รีด... วรวีร์ มะกูดี ที่มีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ได้ดึงตัว ไบรอัน ร็อบสัน อดีตตำนานของแมนเชเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ พร้อมรับค่าเหนื่อยราว 25 ล้านบาทต่อเดือน... ด้วยศักยภาพของบอลลีกภายในประเทศที่สูงขึ้น มีการจัดการที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น นักเตะต้องแข่งขัน และมีความฟิตกันมากขึ้น ทำให้ความคาดหวังแรกของ ร็อบโบ้ คือ เหรียญทอง ซีเกมส์ 2009 ที่ สปป. ลาว แต่คนคุมไม่ใช่ “ร็อบโบ้” กลับเป็น สตีฟ ดาร์บี้ มือขวาของเขาที่ต้องจับปลา 2 มือ ช่วย “ร็อบโบ้” ดูแลชุดใหญ่ ขณะที่หน้าที่หลักต้องดูชุดซีเกมส์ แถมยังมีวิถีแนวคิดแปลกๆเลือกตัวผู้เล่นแบบขัดใจ คอลูกหนัง จนสุดท้าย “ราชาลูกหนังซีเกมส์” สิ้นลายหมดท่า ตกรอบแรกซีเกมส์ครั้งแรกในรอบ 36 ปี...
ณ ตรงนี้ มันถึงจุดที่คนไทยเริ่มรู้สึกอดรนทนไม่ไหวแล้ว...
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:10:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 8
|
|
| |
 |
องค์ 4
การบริหาร…สาเหตุของความล้มเหลว
แม้จะมีลีกที่เริ่มแข็งแกร่งขึ้นมาในขณะนั้น แต่การบริหารลีก และทีมชาติให้สอดคล้องควบคู่กันไป กลับไม่เกิดขึ้น... กระแสด่าทอ ความไม่ไหวติงกับผลงานทีมชาติไทยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความย่ำแย่มันไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้...
เอเชี่ยน เกมส์ 2010 ที่กว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน งานชิ้นใหญ่ชิ้นแรกของ ไบรอัน ร็อบสัน อยู่ภายใต้ความกดดัน แต่ก็พอถูไถจนเข้ารอบน็อคเอ๊าท์ ด้วยการชนะ ปากีสถาน 6 – 0 เสมอ โอมาน 1 – 1 และ มัลดีฟส์ 0 – 0 ก่อนชนะ เติร์กเมนิสถาน 1 – 0 รอบ 16 ทีมสุดท้าย และไปแพ้ญี่ปุ่น ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งในทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวมีเวลาเตรียมทีม เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เนื่องจากโปรแกรมฟุตบอลลีกภายในประเทศแน่นจนไม่มีเวลาให้กับการเก็บตัว ฝึกซ้อมของทีมชาติ
อาเซียน คัพ ปี 2010 ในอีกไม่กี่วันถัดมา งานชิ้นใหญ่ชิ้นที่สองของ ไบรอัน ร็อบสัน อยู่ภายใต้ความกดดันที่ต้อง และ "ร็อบโบ้" ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังทีมชาติไทยกระเด็น ตกรอบแรกแบบไม่ชนะใคร ด้วยการเสมอลาว และมาเลเซีย ก่อนจะแพ้อินโดนีเซียเจ้าภาพในนัดสุดท้าย
มันเป็นการบริหารงานลีกให้เข้ากับโปรแกรมทีมชาติไทยไม่ได้จริงๆ...การเตรียมตัวน้อย (หรือเรียกว่าแทบจะไม่ได้เตรียมตัว) การจัดโปรแกรมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ที่ไม่เกิดขึ้น กระทั่งสไตล์ กับ ปรัชญาของโค้ชที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยดึงเข้ามานั้นไม่ได้มีความใกล้เคียง กับ วิถีบอลสไตล์ไทยๆ โค้ชอังกฤษเริ่มถูกมองว่าไม่เหมาะสม
แต่แบบไหนกันจึงจะถูกใจ และถูกต้อง?
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:11:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 9
|
|
| |
 |
องค์ 5
“วินนี่ เดอะ พ็อตเตอร์”
นี่ คือ ฉายาของ วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย และกุนซือทีมชาติจาไมก้าชุดปัจจุบัน ในช่วงขวบปีแรกที่เข้ามากุมบังเหียน “ช้างศึก” ต่อจาก ไบรอัน ร็อบสัน เมื่อปี 2011 เขา คือ อดีตนักเตะในตำนานคนหนึ่งของวงการลูกหนังเยอรมัน และเคยเป็นกุนซือที่พา โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เป็นแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อปี 1979 ที่สำคัญเขาพาทีมชาติแคเมอรูน ชุดที่มี ซามูเอล เอโต้ นำทัพ ไปฟุตบอลโลก 2002 มาแล้ว
เชเฟอร์ เป็นโค้ชที่พูดจาดี ฟังดูหนักแน่น และเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ตั้งใจ แสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพต่อหน้านักข่าว จึงเป็นที่รักใคร่ของแฟนบอล...
มันเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะ เพราะตอน เชเฟอร์ เข้ามา ฟุตบอลลีกกำลังเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมชั้นนำไม่ได้มีแค่ เมืองทองฯ กับ ชลบุรี เอฟซี อีกต่อไป… นับตั้งแต่ นาย เนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองระดับชาติ ลงจากเวทีการเมือง หันหน้าเข้าสู่วงการลูกหนังอย่างเต็มตัว เขาทำให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ (ในขณะนั้น) กลายเป็นยอดทีมที่แข็งแกร่ง ดึงนักเตะต่างชาติฝีเท้าดีของจริงเข้ามา ทำให้นักเตะไทยในทีมได้พัฒนาขึ้นไป และนั่นเป็นผลพลอยได้ที่ “วินนี่” มีวัตถุดิบที่ดีให้ใช้งาน
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:12:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 10
|
|
| |
 |
องค์ 5
“วินนี่ เดอะ พ็อตเตอร์”
นี่ คือ ฉายาของ วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย และกุนซือทีมชาติจาไมก้าชุดปัจจุบัน ในช่วงขวบปีแรกที่เข้ามากุมบังเหียน “ช้างศึก” ต่อจาก ไบรอัน ร็อบสัน เมื่อปี 2011 เขา คือ อดีตนักเตะในตำนานคนหนึ่งของวงการลูกหนังเยอรมัน และเคยเป็นกุนซือที่พา โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เป็นแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อปี 1979 ที่สำคัญเขาพาทีมชาติแคเมอรูน ชุดที่มี ซามูเอล เอโต้ นำทัพ ไปฟุตบอลโลก 2002 มาแล้ว
เชเฟอร์ เป็นโค้ชที่พูดจาดี ฟังดูหนักแน่น และเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ตั้งใจ แสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพต่อหน้านักข่าว จึงเป็นที่รักใคร่ของแฟนบอล...
มันเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะ เพราะตอน เชเฟอร์ เข้ามา ฟุตบอลลีกกำลังเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมชั้นนำไม่ได้มีแค่ เมืองทองฯ กับ ชลบุรี เอฟซี อีกต่อไป… นับตั้งแต่ นาย เนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองระดับชาติ ลงจากเวทีการเมือง หันหน้าเข้าสู่วงการลูกหนังอย่างเต็มตัว เขาทำให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ (ในขณะนั้น) กลายเป็นยอดทีมที่แข็งแกร่ง ดึงนักเตะต่างชาติฝีเท้าดีของจริงเข้ามา ทำให้นักเตะไทยในทีมได้พัฒนาขึ้นไป และนั่นเป็นผลพลอยได้ที่ “วินนี่” มีวัตถุดิบที่ดีให้ใช้งาน
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:15:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 11
|
|
| |
 |
“วินนี่ “พาทีมเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มดี ร่วมกับ ออสเตรเลีย, ซาอุดิอารเบีย และ โอมาน... และนัดแรกที่ “ช้างศึก” พบกับ ออสเตรเลีย ที่เต็มไปด้วยนักเตะจากลีกสูงสุดของยุโรป แต่เขาและลูกทีม ทำให้ขุนพลออสซี่ต้องปาดเหงื่อ เพราะกว่าจะกลับมายิงแซงไทย ต้องรอจนถึงช่วงท้ายเกม โดยเกมนั้น ธีรศิลป์ แดงดา เป็นคนยิงให้ไทย ออกนำไปก่อนตั้งแต่ต้นครึ่งแรก...
การสู้กับออสเตรเลียได้สูสี เหมือนเป็นการเริ่มจุดศรัทธา เกมต่อมาที่ราชมังคลากีฬาสถาน คนเริ่มเข้ามาดูทีมชาติไทยนัดเปิดรังรับ โอมาน มากขึ้น และ “ช้างศึก” ฟอร์มสุดยอดชนะไป 3 – 0 ก่อนเจอกับ ซาอุฯ นัดต่อมา ด้วยการเสมอ 0 – 0 ท่ามกลางสนามราชมังฯ ที่เกือบเต็มความจุ
จากที่แฟนบอลเริ่มชอบ “วินนี่” เพราะความหนักแน่นในการพูดการจา...ก็เริ่มกลายเป็นพูดกันว่า... บอลสไตล์ “วินนี่” แข็งแกร่ง เหนียวแน่น นี่แหละที่คนไทยต้องการ! บอลสไตล์เยอรมันนี่แหละ ของจริง!
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:15:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 12
|
|
| |
 |
องค 6
ลีกอาชีพรากฐานสำคัญฟุตบอลไทย แต่...
เริ่มแรกเดิมทีในยุคเริ่มต้นการบูมลีก สาเหตุหนึ่งที่เกิดพัฒนาที่ล่าช้า เพราะแข้งต่างชาติของแต่ละสโมสรล้นทีม เพราะโควต้าต่างชาติมีได้ถึง 7 คน และลงสนามได้ 4 + 1 จนกระทั่งฤดูกาล 2012 ลีกของไทยจึงกำหนดโควตาในการส่งนักเตะต่างชาติลงสนาม (ผู้เล่นต่างชาติ 3 คน + ผู้เล่นเอเชีย 1 คน) นั้นจึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะไทยได้ลงสนามมากยิ่งขึ้น
หลังจากเรียนรู้ระบบของฟุตบอลอาชีพ ทำให้หลายทีมเริ่มมองเห็นความสำคัญของ การสร้างเยาวชนของตัวเอง เพราะนอกจากจะลดงบประมาณในการซื้อตัวในตลาดนักเตะแล้ว ยังถือเป็นการสร้างรากฐานให้สโมสรมีความมั่นคงได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สิ่งสำคัญคือเยาวชนที่มาจากอคาเดมี่ในปัจจุบันเติบโตและถูกฝึกฝนมาตามโครงสร้างของฟุตบอลอาชีพ ทำให้คุณภาพทั้งร่างกายและจิตใจพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ตัวอย่างเช่นนักเตะในทีมชาติไทยชุดปัจจุบันอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, สารัช อยู่เย็น, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ฯลฯ ก็ล้วนเป็นผลผลิตจากอคาเดมี่ของสโมสรทั้งนั้น นี่ คือ สาเหตุที่ทำให้ “วินนี่” มีทรัพยากรให้เลือกใช้มากมาย สมัยทำทีม “ช้างศึก”
อย่างไรก็ตามปัญหาการบริหารจัดการของสมาคมฟุตบอลฯ ทำให้ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ วินฟรีด เชเฟอร์ ไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องพิสูจน์ฝีมือ ทั้ง อาเซียน คัพ และ ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก รวมถึง เอเชี่ยน คัพ 2015 รอบคัดเลือก แถมตลอดการทำงานของกุนซือ มากประสบการณ์คนนี้ก็เต็มไปด้วยปัญหา ทั้งการไม่มีเกมอุ่นเครื่องลองทีมก่อนแมตช์สำคัญ ไม่มีสนามซ้อม หรือแม้กระทั่งการมีนักเตะเพียง 5 คนเข้าเก็บตัวฝึกซ้อมก็เคยเจอมาแล้ว
“วินนี่” ยังตกเป็นข่าวขัดแย้งกับสมาคมฟุตบอลไทยอย่างหนัก โดยเฉพาะการที่เจ้าตัวไม่พอใจที่ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเป็นกุนซือซีเกมส์ในขณะนั้นประกาศรายชื่อทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่จะบุกไปอุ่นเครื่องถล่มทีมชาติจีน 5-1 เพราะมองว่าเป็นการเสียมารยาทและก้าวก่ายหน้าที่ ก่อนสุดท้าย สมาคมฟุตบอลฯ ประกาศแยกทางกับเชเฟอร์ และแต่งตั้ง "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ขึ้นมารับหน้าแทนในที่สุด
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:17:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 13
|
|
| |
 |
เบ็ดเสร็จแล้ว บอลไทยยุคเชเฟอร์ ยังล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จนเรียกว่าเข้าขั้นวิกฤติ เพราะแม้จะมีลีกอาชีพ ที่แข็งแกร่ง แต่หนทางทีมชาติไร้ซึ่งอนาคต
ไร้เหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัย ไร้แชมป์อาเซียน คัพ ยาวนานถึง 5 ครั้งติดต่อ แถมฟุตบอลโลก กับ ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ ก็ไปได้ไม่ไกลในรอบคัดเลือกสักรายการ
แล้วอะไร คือ ฟุตบอลสไตล์ที่ไทยต้องการ....
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:19:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 14
|
|
| |
 |
องค์ 7
ซิโก้ เดอะ ฮีโร่
หลังจากอำลาทีมชาติไทยในปี 2007 ชื่อของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หวนกลับมาทีมชาติอีกครั้งในฐานะเฮดโค้ชทีมซีเกมส์ ชุดสู้ศึกเนปิดดอว์เกมส์ 2013 ซึ่งการที่ ซิโก้ เคยเป็นมือขวาของ สตีฟ ดาร์บี้ ในทีมชุดที่ตกรอบแรกซีเกมส์ ที่ลาวมาก่อน อีกทั้งการเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติมาหลายสิบปี
ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าปัญหาที่ทีมชาติพบเจอมาตลอดหลายปีคืออะไร...
สิ่งที่ “ซิโก้” เริ่มต้นทำตั้งแต่รับงานคุมทีมซีเกมส์คือการวางแผนอุ่นเครื่องให้ได้ทุกเดือน แม้จะมีปัญหาเรื่องโปรแกรมลีกที่ชุกเหมือนที่ผ่านๆ มา แต่เขาก็ใช้วิธีเดินเข้าไปเคาะประตูบ้านทุกสโมสร ขอตัวนักเตะหลังจากจบเกมลีกในสุดสัปดาห์ เพื่อรวมตัวฝึกซ้อมและมีอุ่นเครื่องอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทวงเหรียญทองซีเกมส์ประสบความสำเร็จในที่สุด
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:20:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 15
|
|
| |
 |
จากนั้น “ซิโก้” ถูกแต่งตั้งให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมชาติไทยทุกชุด... มาถึง ณ ตรงนี้ ประจวบกับช่วงเวลาที่ลีกบ้านเรากำลังถึงช่วงเวลาที่แข็งแกร่งแบบสุดๆ เพราะนับตั้งแต่มีลีกออาชีพจริงจัง ตั้งแต่ปี 2009 รากฐานหลายๆอย่างที่ทีมสโมสรได้วางเอาไว้ ออกดอกออกผล จนเกิดแข้งอายุน้อยฝีเท้าดี ให้เลือกใช้งานมากมาย... ตัวผู้เล่นดี เข้าขากันอยู่แล้วเพราะเล่นกัน มาตั้งแต่เด็กๆ และการทำให้เด็กๆในทีมชาติทุกคนที่มารวมตัว กลายเป็น “หนึ่งเดียว” เป็นสาเหตุที่ “ช้างศึก” กลับมาเกรียงไกร ยิ่งผลงานดี อดีตกองหน้าทีมชาติไทยคนนี้ก็ยิ่ง สามารถต่อรองกับสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อขอเวลาในการเก็บตัวฝึกซ้อมให้กับทีมชาติมากขึ้น การวางโปรแกรมให้นักเตะทีมชาติได้มารวมตัวกัน ก็ยิ่งทำให้ทุกๆคนเข้าใจกันมากขึ้น เป็นที่มาของการเล่น “ติ๊ก-ต่อก” สไตล์อันโด่งดังไปทั่วโลก...เพราะนักเตะไม่จำเป็นต้องมองตาก็รู้ใจกันแล้วว่าจะ ส่ง จะชิ่ง จะวิ่งไปทางไหน
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:21:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 16
|
|
| |
 |
ผลงานในเอเชี่ยนเกมส์ ไทยสามารถกลับไปจบในอันดับที่ 4 ได้อีกครั้ง อย่างที่เคยทำได้ปี 1990, 1998 และ 2002 และสามารถคว้าแชมป์อาเซียน คัพ 2014 ได้สำเร็จ...ผลงานฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกที่ย่ำแย่สุดๆก่อนหน้านี้ 3 ครั้ง กลับมายอดเยี่ยม โดยขณะนี้ ไทยยังไม่แพ้ใครจากการลงเล่น 5 นัด ชนะ 4 เสมอ 1 โอกาสกลับมาเข้ารอบฟุตบอลโลก 2018 โซนเอเชีย รอบคัดเลือก รอบสุดท้าย หรือ รอบ 12 ทีมสดใสอยู่แค่เอื้อม
จุดๆนี้แสดงให้เห็นว่า ไทย ได้กลับมาเป็น “จ้าวอาเซียน” ตัวจริงอีกครั้งแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ เพราะระบบลีกที่แข็งแกร่ง ทำให้พวกเขายังมีเด็กๆ หรือนักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆ ที่พร้อมจะสอดแทรกขึ้นมาสู่ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งแข้งขิงแก่หลายคนก็ยังฟิตปั๋ง เพราะการแข่งขันที่เข้มข้นภายในประเทศ
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:23:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 17
|
|
| |
 |
สิ่งสำคัญที่มาพร้อมกับการก้าวขึ้นมาหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของ “ซิโก้” คือการเพิ่มจำนวนของแฟนบอลที่ติดตามเชียร์ทีมชาติไทย เขารู้จักการพูดเพื่อสร้างความฮึกเหิม ใช้สื่อเป็น รู้จักพูดกับแฟนบอลและสื่อมวลชน ทำให้คนทุกวงการหันมาให้ความสำคัญกับทุกเรื่องราวของทีมชาติ นั่นทำให้สมาคมฟุตบอลฯ ต้องหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการในส่วนของทีมชาติมากขึ้น เพราะมีหลายฝ่ายจับตามองมากกว่าที่ผ่านมา ปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นจึงเริ่มลดหายไป
อำนาจต่อรองและผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมจนสร้างกระแสให้แฟนบอลไทยกลับมาเชียร์ทีมชาติอย่างล้นหลาม คือจุดแข็งที่ “ซิโก้” มี ซึ่งตรงกันข้ามกับโค้ชต่างชาติที่เคยเข้ามาคุมทีมก่อนหน้านี้ ที่ต้องทำงานท่ามกลางเงื่อนไขมากมาย ดังนั้นคงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไม่ใช่เป็นแค่โค้ชทีมชาติ แต่เขาคือหนึ่งในผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลไทยด้วย
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:25:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 18
|
|
| |
และเขาคือ ฮีโร่ ที่มากอบกู้วิกฤติศรัทธา...ในวันที่ “ช้างศึก” ใกล้จะตาย!
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:26:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 19
|
|
| |
 |
องค์ 8
ก้าวต่อไปบทพิสูจน์สำคัญช้างศึก
การผสมผสานกันของการบริหารงานทีมชาติในยุค “ซิโก้” กับขุมกำลังนักเตะที่มีศักยภาพที่ลงเล่นในลีกระดับคุณภาพในทุกๆ สัปดาห์ ทำให้ทีมชาติไทยเดินหน้าไปอย่างมีอนาคต จนสร้างความหวังให้กับแฟนบอลไทยอีกครั้งหนึ่ง
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:27:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 20
|
|
| |
 |
ถึงตอนนี้ทีมชาติไทยทวงจ้าวอาเซียนทั้งในอาเซียน คัพ และ ซีเกมส์ กลับมาได้ ก้าวขึ้นไปเป็น 1 ใน 4 ของศึกเอเชี่ยนเกมส์ รวมไปถึงการตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเอเชี่ยนคัพ 2019 และกำลังจะก้าวไปเป็น 1 ใน 12 ทีมสุดท้ายของเอเชีย ในฟุตบอลโลก2018 รอบคัดเลือก...ศรัทธาแฟนบอลกลับมาเหมือนเดิม และทุกๆ นัดที่ลงเตะในบ้าน ก็ดูเหมือนว่าจะมีสถิติยอดผู้ชมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเกมล่าสุดเกมพบไต้หวัน ได้มีการทุบสถิติมีผู้เข้าชมถึง 50,000 คน
แต่อย่าลืมว่าทั้งหมดล้วนเป็นจุดที่ทีมชาติไทยเคยทำได้หมดมาแล้ว...ก่อนหน้านี้เราหยุดพัฒนาไปข้างหน้าด้วยปัญหาต่างๆ และใช้เวลาร่วม 10ปี จนกลับมาอยู่ในมาตรฐานเดิมที่เคยยืน
ดังนั้นผลงานต่อจากนี้มากกว่าที่จะพิสูจน์ว่า ทีมชาติไทย พัฒนาขึ้นจริงหรือไม่
เครดิต http://www.fourfourtwo.com/th/features/epidbanthuek-15-piifutblaithy-yukhthng-lmehlw-wikrtisraththaa-aelakaarklabmaa#apRcK0LSLXYG1B1M.99
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 14:28:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 21
|
|
| |
 |
"ซิโก้" ติดโผ 5 กุนซือที่ประสบความสำเร็จที่สุดในอาเซียนประจำศตวรรษที่ 21 จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดังของเอเชีย ร่วมกับบรมกุนซือชั้นนำประจำภูมิภาคอีก 4 รายด้วยกัน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 18 พ.ย.ว่า เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกองหน้าจอมตีลังกาทีมชาติไทย และเฮดโค้ชทีม "ช้างศึก" ชุดฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดังให้เป็นหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 ของอาเซียน
โดยเว็บไซต์ footballchannel.asia ได้มีการจัดอันดับ 5 สุดยอดโค้ชที่ประสบความสำเร็จที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหนึ่งในนั้นมีชื่อของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติชุดปัจจุบันรวมอยู่ด้วย ซึ่งหลังจากเข้ามารับงานคุมทีมชาติอย่างเต็มตัวในปี 2013 ก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น ด้วยการพบทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมา ต่อด้วยอันดับที่ 4 ในศึกเอเชียน เกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้ และการคว้าแชมป์ ซูซูกิ คัพ โดยยึดเอานักเตะดาวรุ่งเป็นแกนหลัก
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดังแห่งเอเชีย ยังได้ยกย่องถึงสไตล์การต่อบอลแบบ "ติ๊กต๊อกสไตล์" บันลือโลก ที่ทีมชุดนี้สร้างช็อตมหัศจรรย์ในสนามมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้ในตอนนี้ทัพ "ช้างศึก" ขึ้นมายึดตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 2 โซนเอเชียได้อย่างยิ่งใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งอดีตกุนซือทีมชาติไทยอย่าง ปีเตอร์ วิธ ที่เคยพาทีมชาติไทยครองความยิ่งใหญ่ในช่วงยุคปี 2000 และผ่านเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก รอบ 10 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก ติดโผเข้ามาด้วยเช่นกัน
5 กุนซืออาเซียน ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในศตวรรษที่ 21
1. เอ็นริเก คาลิสโต (อดีตโค้ชทีมชาติเวียดนาม, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
2. ดาโต๊ะ กฤษณมี ราชโคปาล (อดีตโค้ชทีมชาติมาเลเซีย)
3. เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (โค้ชทีมชาติไทย)
4. ปีเตอร์ วิธ (อดีตโค้ชทีมชาติไทย, อดีตโค้ชทีมชาติอินโดนีเซีย)
5. ราดอจโก อับราโมวิช (อดีตโค้ชทีมชาติสิงคโปร์, อดีตโค้ชทีมชาติเมียนมา)
เครดิต http://www.thairath.co.th/
top2513
18 พ.ย. 58
เวลา 15:27:00 IP = 125.26.17.183
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 23
|
|
| |
สุดยอดครับ
พ่อลูก1
19 พ.ย. 58
เวลา 9:33:00 IP = 58.8.148.249
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 24
|
|
| |
ขอบคุณครับ ตามอ่านซะเหนื่อยเลย ผมเป็นคนนึงที่บ้าฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กแล้ว เห็นวิวัฒนาการมาตลอดแม้กระทั้งเล่นกีฬาในหน่วยงาน ฟุตบอลนัดเปิดสนามคือธรรมเนียมของการแข่งกีฬาแทบทุกที่ และแมตช์ชิงชนะเลิศก็จะเป็นวันสุดท้ายก่อนพิธีปิด เห็นได้ว่าคนไทยบ้าบอลแค่ไหน สนามฟุตซอล สนามหญ้าเทียมเต็มตลอดจนต้องจองคิว สำหรับผมมองไปข้างหน้าว่าถ้าเด็กๆเห็นว่าฟุตบอลสามารถหารายได้เป็นกอบเป็นกำจริงในบ้านเรา อนาคตจะได้เห็นนักเตะเก่งๆรุ่นใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆครับ และเราจะได้เห็นนักเตะอัจฉริยะของบ้านเราที่สู้กับฝรั่งได้แน่ เมสซี่ เนย์มา ซัวเรส ซาบี้ อิเนียสต้า ซานเชส หุ่นก็สูสีกับเด็กไทยเนี่ยแหละ ประเทศที่ยิ่งใหญ่ในโลกฟุตบอลเค้ามีเยาวชนที่พร้อมจะขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ได้เสมอครับ ขอแค่ไทยวางฐานรากให้ดีๆ บวกกับเปิดโอกาสให้เค้าได้เล่นบ่อยๆ ทักษะการเล่นฟุตบอลมันก็คล้ายกับเล่นกีต้าร์หละครับ ยิ่งเล่นบนเวทีบ่อยๆ ความเก๋า ความเจนจัดมันจะสร้างความแกร่งขึ้นแน่นอน เอาแค่นี้ก่อนเน่อ ไปละครับ
Mr.Bug 19 พ.ย. 58
เวลา 11:18:00 IP = 202.28.24.130
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
คำตอบที่ 26
|
|
| |
 |
ขอบคุณจากใจคับ
US soccer
20 พ.ย. 58
เวลา 20:51:00 IP = 1.1.150.204
|
|
|
|
|
|
|
