(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  ขอเสียงท่านสมาชิกในการวางแผนเพื่ออนาคตหน่อยครับ  
 
ขอเสียงท่านสมาชิกในการวางแผนเพื่ออนาคตหน่อยครับ
ในอีก 5 ปี ถัดจากนี้(ไม่ขอพูดถึงเรื่องการเมืองนะครับ)
ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเหมือนในปัจจุบัน ด้านเศรษฐกิจ
และหน้าที่การงาน(รายได้)
ท่านจะดำเนินความเป็นอยู่ และวางแผนต่อไปยังไงครับ
(ตอนนี้เป็นห่วงนักดนตรีอาชีพ ที่มีรายได้ไม่แน่นอน)
ได้ฟังจากพี่ๆ น้องๆ ที่เล่นดนตรีเป็นอาชีพและศิลปิน ที่ทำงานด้านดนตรี
แล้ว เป็นทุกข์อย่างมาก
สำหรับท่านที่มีงานประจำ ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่


กีต้าร์ธน      28 ก.ย. 58   เวลา 12:17:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 110.168.99.234
 


  คำตอบที่ 1  
 
พี่ กีต้าร์ธน เป็นกระทู้ที่ดีมากครับพี่ ตอนนี้ลูกค้าผมทุกคนบ่นกันทุกคน ตอนนี้มีคนเริ่มที่จะหางานอื่นทำกันแล้วครับพี่ เพราะเริ่มจะไม่ใหว ครับ

   satip      28 ก.ย. 58   เวลา 12:28:00    IP = 171.99.134.177
 


  คำตอบที่ 2  
 
เที่ยวนี้คงเหมือนกับปี 40 ครับ ช่วงนี้รัฐกับหน่วยราชการก็พยามเบิก
จ่ายการใช้จ่ายภาครัฐให้มันเกิดสภาพหมุนเวียนในตลาด หากเป็นไปได้คง
พอมีสภาพคล่องบ้าง แต่ที่หนักกว่าคือมันดิ่งกันทั้งโลก

ช่วงนี้ก็จ่ายเท่าที่จำเป็นแบ่งเงินออม อดใจกับของชอบบ้าง
ต้องเบาๆนิดกับของชิ้นใหญ่ แต่อะไหล่ย่อยๆนี่พอได้ครับ

   bbling      28 ก.ย. 58   เวลา 12:46:00    IP = 203.155.54.251
 


  คำตอบที่ 3  
 
ผมทำงานกลางวัน และเล่นดนตรีกลางคืนไปด้วย จากการสังเกตุสังคมทั้ง 2 งาน
งานกลางวันจะสิ้นเปลืองกับพวก กาแฟ ขนมจุกจิก งานเลี้ยงต่างๆ เสื้อผ้าเนียบๆ
งานกลางคืนสิ้นเปลืองกับพวก เหล้า เบียร์ บุหรี่ กะหลี่ เลี้ยงหญิง เสื้อผ้าแนวๆ ผมวางแผนจะลดพวกสิ้นเปลืองโดยการออมเงินจากรายได้ทั้งหมด 20% ของรายได้ เปิดบัญชีฝากประจำที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือไม่ก็เงินฝากสลากลุ้นรางวัลต่างๆ ครับ

   suthadsrirat      28 ก.ย. 58   เวลา 13:59:00    IP = 27.55.164.6
 


  คำตอบที่ 4  
 
ยังไงพี่ๆ น้องๆ คงต้องเพิ่มวินัยในการออมสักนิด เพราะสังเกตุจากสถาบันการเงินต่างๆ ให้ดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำลง ดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น เหมือนข้อบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจยังไงก็ไม่รู้ สร้างวินัยการออมไว้ดีที่สุดครับ

   suthadsrirat      28 ก.ย. 58   เวลา 14:06:00    IP = 27.55.0.90
 


  คำตอบที่ 5  
 
แนวคิดของท่าน suthadsrirat ตรงกับผมเลย
ผมทำงานประจำ ไม่เคยเล่นดนตรีกลางคืน
ก็ค่อยๆเก็บเงิน ใช้จ่ายตามท่าน bbling กล่าวไว้นั่นแล
มีเงินเหลือ ก็ซื้อสลากออมสิน ทำประกันชีวิต
ผมเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แพ้กาแฟ เลยไม่สิ้นเปลือง
กับสิ่งเหล่านี้
แต่ชอบดูดนตรีที่เล่นสดครับ ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนๆนักดนตรี
ฟังแล้วเศร้า โดนลดชั่วโมง บางที่เล่น 5 วันโดนลดเหลือ 3 วัน
บางวงเดินทางไกลจากบ้านไปที่ทำงาน
ช่วงที่ผ่านมาเจอฝนตกอีก
ก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆนะครับ อดทนไว้ แล้วก็ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นครับ


   กีต้าร์ธน      28 ก.ย. 58   เวลา 15:14:00    IP = 110.168.99.234
 


  คำตอบที่ 6  
 
แผนในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า
ผมคงเลิกทำงานประจำ อยู่บ้านหลังนี้กับคุณภรรยา
ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ
ปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลากัด ไปตามเรื่อง
(ผมมีรายได้จากค่าเช่าบ้าน คงไม่ต้องดิ้นรน )

   กีต้าร์ธน      28 ก.ย. 58   เวลา 15:25:00    IP = 110.168.99.234
 


  คำตอบที่ 7  
 
บ้านสวยครับ The Plant หรือเปล่า

   Tamned  28 ก.ย. 58   เวลา 16:47:00    IP = 202.44.4.252
 


  คำตอบที่ 8  
 
เอาจริงๆ ผมไม่เคยคิดถึงอนาคตเลยว่าจะเป็นอย่างไร ชีวิตลุ่มๆดอนๆแต่ถามว่าลำบากไม๊ ไม่เคยถึงขั้นไม่มีอะไรกิน แต่มันก็เหมือนกับเป็นเรื่องปกติไปแล้วสมัยก่อนทำงานประจำและเล่นดนตรีกลางคืนด้วยช่่วงนึงรู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่ชอบ แต่พอเล่นไปซักพักก็รู้สึกว่า มันก็ไม่ได้ชอบ ที่จะนั่งอยู่แบบนี้เรื่อยๆไป ผมเป็นคนขี้เบื่อ ทำงานไม่เคยเกิน 2 ปีต่อที่เรียกว่าไม่มีอนาคตกันเลยทีเดียว แต่พอมาถึงช่วงนึงของชีวิต มันเหมือนอะไรๆมันก็มาตามเวลาของมันครับ งานเปลี่ยนไป มาทำธุรกิจส่วนตัวแบบก้าวกระโดด จริงๆเรื่องการเงินผมไม่ซีเรียสเลยเพราะไม่มีภาระอะไร ณ ตอนนั้น ไม่มีการผ่อนไม่มีบัตรเครดิต เรียกว่าไม่สนใจอะไรเลย แต่ ปัจจุบัน ด้วยงานที่ทำมันก็กลายเป็นต้องมารับภาระเงินหมุนเวียนสูงๆก็ต้องไปหาแบงค์ขอยืมเค้ามา กลายเป็น ตอนนี้ รอบๆตัวมีแต่หนี้สินแต่ว่า มีความสุขขึ้นกว่าเดิมเพราะมันเหมือนเราได้อยู่อีกสถานะนึงจากเมื่อก่อน เคยอยากได้ของอย่างนึงมันก็แค่ฝัน ถึงจะถูกหรือแพงไม่เคยคิดจะซื้อมันจริงๆ ตอนนี้ก็มีโอกาส ได้ใช้เงินมากกว่าเดิม อาจจะเป็นที่ช่วงชีวิตมันถึงวัยแล้วก็เป็นได้ แต่ปัจจุบันไม่ได้นึกถึงตัวเองอยู่ดี ไปคิดถึงพ่อกับแม่ ที่อยู่ที่บ้านนอก เค้าไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองพ่อก็ทำงานในหน่วยงานราชการอยู่บ้านพักมาตั้งแต่ต้น เค้าไม่เคยดิ้นรนไปไหน แต่พอเกษียรก็ต้องย้ายออกจากบ้านเดิมกลายเป็นไร้ที่อยู่ไปซะอย่างงั้น บ้านพี่สาวผมก็มีแกก็ไปอยู่พักนึง ก็ไม่ถูกใจขอย้ายกลับมาอยู่บ้านพักของทางราชการ ก็ปลูกผัก ปลุกหญ้าปลูกข้าวโพดอะไรอยู่ตามเรื่อง ผมก็เลยมองว่าเพราะเราเป็นคนไม่เคยมองอนาคต เลยพ่อแม่เลยต้องยังอยู่ที่เดิม มาถึงจุดนี้เหมือนกับวิ่งตามอยู่ ราคาที่ดินที่เคยซื้อไร่ละ 1 แสนบาท กลายเป็นไร่ละ 4-8 แสนบาท ปลูกบ้านหลังนึงพี่สาวปลูกแค่ 2 แสนกว่าบาทตอนนี้เอาแบบบ้านไปให้ช่างดูช่างบอกว่า แค่ค่างแรงช่างก็ 3 แสนแล้ว เอิ่มขึ้นไวกันจริง ฮ่าๆ สรุปตอนนี้ตัวผมพอแล้วกับชีวิตบนโลกใบนี้ได้ทำอะไรที่อยากทำหมดแล้ว แต่ก่อนจะลาโลกไปก็ยังหวังว่าผมจะสามารถหาบ้านและที่ดินให้พ่อกับแม่อยู่ ได้ถึงเวลาของเค้าอาจจะ อีกไม่นานมาก ก็ยังเป็นเป้าหมายอยู่ แต่ที่บ้านผมก็เหมือนต่างคนต่างอยู่มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วเลยทำให้เหมือนกับทุกๆคนพอใจในที่ของตัวเอง เลยไม่มีใครดิ้นรนอะไรกันเลยพ่อแม่เค้าก็บอกไม่ลำบากอะไรเค้าชอบแบบนี้ ก็เป็นงั้นไป สรุปชีวิตไม่ได้อยู่ที่เงิน อยู่ที่ใจเลยครับ เรื่องราวในอดีต และปัจจุบัน มันก็บ่งบอกถึงชีวิตความเป็นอยู่ ที่แต่ละคนชอบ ก็ต้องสู้ๆกันต่อไปครับหาความสุขที่เพียงพอสำหรับตัวเองกันให้ได้ครับ ยาวเบย อิอิ

   suradet      28 ก.ย. 58   เวลา 18:37:00    IP = 171.96.121.78
 


  คำตอบที่ 9  
 
ผมมองหาอาชีพอื่นแล้วครับ จากมีรายได้หลักเกี่ยวกับดนตรีอย่างเดียว เล่นดนตรีมานานช่วงนี้คือช่วงที่ย่ำแย่ที่สุด ค่อนข้างตัดใจยากนะครับอยากอยู่กับสิ่งที่เรารักไปนานๆ แต่เมื่อสภาพแวดล้อมทุกอย่างมันเปลี่ยนไป เราจะหยุดนิ่งรอหรือดิ้นจนสุดตัวเพื่อที่จะเดินในเส้นทางนี้ต่อก็เหมือนมีแต่เหนื่อยกับเหนื่อยมาก เป็นความคิดส่วนตัวนะครับผมอาจจะเป็นคนแก่ไปแล้วจริงๆก็ได้

   G-sound  28 ก.ย. 58   เวลา 19:42:00    IP = 180.180.168.118
 


  คำตอบที่ 10  
 

หลายๆ ท่าน ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กันเลยนะครับ สู้ๆ นะครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      ชิตชัย      28 ก.ย. 58   เวลา 20:14:00    IP = 171.5.246.172
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 11  
 
ทำสวนครับ พอดีโชคดีตอนทำงานเล่นดนตรีมีเงินเก็บ เพราะเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่หลงผู้หญิง ไม่เที่ยว มีคนเอาที่ดินมาขายถูกๆ หลายแปลง ค่อยๆซื้อ ค่อยๆเก็บ จนตอนนี้ค่อนข้างสบายครับ ที่ดินอยู่แปดริ้วทางไปวัดสมาน ที่มีพระพิฆเนศใหญ่ที่สุดในโลกอะครับ ตอนซื้อที่ดินแถวนั้นไม่มีคนมองเลย แต่ตอนนี้ แพงมาก

   sodiax      28 ก.ย. 58   เวลา 22:03:00    IP = 171.96.152.77
 


  คำตอบที่ 12  
 
พี่ๆเป็นตัวอย่าง ที่น่าทำตามมากคับ ค่อยๆเก็บเงิน ซื้อของที่ มีค่าที่สุด

   stevepai      29 ก.ย. 58   เวลา 2:25:00    IP = 27.55.142.183
 


  คำตอบที่ 13  
 
-Tamned โครงการ The Idol 1 ครับ ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ชอบตรงหน้าบ้านเป็นคลอง
ขนาดใหญ่ ใกล้ถนนอุทยาน จะได้ไปปั่นจักรยาน ใกล้สนามหลวง 2 ไปดูต้นไม้สวยๆ
-suradet แนวคิดของท่าน เป็นแนวคิดที่ดีมาก แต่ต่อไปถ้ามีครอบครัว
คงต้องจัดระเบียบแนวคิดอีกครั้งนึง
-G-sound ใช่เลยครับ ทุกวันนี้เราต้องหารายได้หลายๆทาง
-ชิตชัย สวัสดีครับท่าน ต้องเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านเหมือนกัน
-sodiax เรามีอะไรคล้ายกันหลายๆอย่าง อบายมุข ผมไม่เคยเกี่ยวข้องเลย
ค่อยๆสะสมทรัพย์สินไว้ อนาคตมันมีมูลค่าเพิ่มแน่นอน
ผมก็ค่อยๆซื้อทาวเฮ้าส์ ราคาไม่แพงมาก มาตบแต่งให้สวย
แล้วปล่อยเช่า ตอนนี้มี 4 หลังให้เช่าแล้ว ค่าเช่ารวมก็ 2 หมื่นกว่า
แต่มูลค่าบ้านมันเพิ่มขึ้นมากกว่า ต่อไปมีรถไฟฟ้าผ่าน ทางขึ้น-ลง อยู่หน้าหมู่บ้าน
เริ่มมีคนมาหาซื้อบ้านในหมู่บ้านผมแล้ว
- stevepai สวัสดีครับ ส่วนไหนดี เก็บไว้ใช้ได้เลย

   กีต้าร์ธน      29 ก.ย. 58   เวลา 10:09:00    IP = 110.168.99.234
 


  คำตอบที่ 14  
 
ผมเพิ่ง27 ตอนนี้ เพิ่งมีลูกสาวน้อยๆอายุ1เดือนชีวิตหลังเรียนจบมา3-4
ทำงานประจำมา6-7 ที่ ไม่เอาไหนโคตรๆ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องได้ราว จบดนตรี แต่เล่นนดนตรีไม่เก่ง แล้วเสือกอีโก้จัดไม่เล่นเพลงตลาด หึหึ ยึดอาชีพ ทำซาวน์ตามผับเลี้ยงชีพมานาน

แต่สิ่งหนึ่งที่เริ่มทำมาตั้งแต่เข้ามาเล่นเว็บ คือการจับของขาย เมื่อก่อนก็ขำๆตามโรงจำนำ พอเรียนจบเริ่มเข้าไปโกดังของเก่า จนมีรถยนต์เก่าๆขับ ซักพักก็หายไปเพราะสังคม กินเที่ยว

เพิ่งจะเริ่มเป้นเรื่องเป็นราวก็ปีที่ผ่านมานี่ล่ะ ลาออกจากงานมาเปิดร้านอาหาร ระหว่างนั้นก็ขายเครื่องดนตรีเครื่องเสียงมือสองไปด้วย
แรกๆก็ขายดีเวอร์ๆ คืนนึงหลายพัน พอเข้ามาปีนี้ เปิดปีใหม่ปุ๊บ ผู้คนหายไปปั๊บเลย ไม่รุไปไหนกัน จนวันนึงรู้ว่าเมียท้อง ต้องรีบหาดูบัญชีที่เอาเงินเข้าไว้แต่ไม่เคยดูว่ายอดเท่าไหร่ ชิบหาย!ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยมีเงินแสน ทำลูกสาวเขาท้องไว้ เงินแสนปลิวสิครับ ดีนะแค่แสน
ร้านที่ทำ ก็ไม่มีแรงใจทำ ยอดก็น้อยลงๆ สงสารเมียสงสารลูกในท้อง ปิด เซ้ง มันเลยดีกว่า
ตั้งหน้าตั้งตาขายของนี่ล่ะ เพราะค่าใช้จ่ายตอนคลอด สูง แต่นั่นล่ะครับ ขายดี ออกจากบ้านบ่อย ไม่เคยกินของดีๆก็กินสิครับ กำไรได้หลายหมื่นก็หมดไปกับการกิน ใช้ชีวิตวนๆแบบนี้ จนกระทั่งเดือนสุดท้ายที่จะคลอด
ทีนี้ไม่ไปแล้ว ให้เมียนอนอยู่บ้าน ไปคนเดียวประหยัดค่ากินไปเยอะ ซักพักเห็นเงินก้อน โล่งใจแล้ว มีเงินคลอดลูก
ทีนี้ปัญหาคือ ของเนี่ย มันไม่มีให้เราขายได้ทุกวัน พอหมดก็ไม่มีของขาย ยอดมันก็ได้น้อยลงทุกวันๆ

ดีนะวันดีคืนดี มีคนรับสมัครงานทำซาวน์ที่ผับแถวๆบ้าน โล่งไปได้งาน เงินเดือนพอกินพอใช้
รายได้ที่เป็นเงินเดือนแน่นอนก็มีพอใช้ ของก็ไม่มีอะไรให้ขายแล้ว ที่เหลือก็มีแต่ของเล่นที่จะเก็บไว้
แต่รายจ่ายก็เพิ่มขึ้น ค่านม ค่าแพมเพิร์ส ให้พ่อ ให้แม่ ให้แม่ยาย ค่าไฟ ค่าน้ำ เงินเดือนหมื่นแปด ว่าน้อยมั้ยกับรายจ่าย แจ่เมื่อเทียบความสามารถก็ว่าเยอะล่ะครับ

กิเลศตอนนี้อยากได้บ้าน แม่บ้านที่ทำงานถามขายต่อ สี่แสน20ตรว. ชั้นเดียว เออวะพออยู่ ซื้อที่ดินเปล่าแถวนี้ราคาถูกกว่านี้นิดเดียว

นึกย้อนไปก็เสียดาย ถ้ามีของให้ขายคงจะดี กลุ่มลูกค้าผมก็คนแถวๆนี้นี่ล่ะนักดนตรี ศิลปิน ช่างเสียงเอย เจ้านายเอย ที่ได้รับผลกระทบจาก สภาพเศรษฐกิจกะนโยบายบ้าๆบอๆ300เมตรนี่ล่ะ
ตอนนี้คิดจะขายอะไรก็ลำบาก คิดจะไปทำอาชีพอื่นก็มืดมน คิดไม่ออก แต่คงไม่พ้นขายเครื่องดนตรีเครื่องเสียงนี่ไปด้วยแหละ

บ่นยาวๆครับ วินาทีเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ส่วนอนาคตนี่ส่วนตัวผมก็เอาไว้ก่อนและกันตอนนี้ขอเอาตัวรอดก่อน ๕๕๕ ร้านปิดยาวสองเดือนครึ่ง


   สมาชิกแบบพิเศษ      ^^BritPop^^      30 ก.ย. 58   เวลา 1:13:00    IP = 58.9.134.99
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 15  
 
ขอแสดงความเห็นในฐานะคนชรา ถึงประสบการณ์ไม่ครบเครื่อง แต่ก็ผ่านโลกมานานหน่อย
- ตั้งเป้าหมายในชีวิต ว่าอีก 5 ปี 10 ปี 20 ปี 50 ปีข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร อยู่ตรงจุดไหน
- เป้าหมายจะทำให้เราวางแผนและจัดการตัวเราไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่อยู่ไปวันวัน
- ความต้องการสูงไว้ก่อนได้ แต่เป้าหมายต้องไม่เกินจริง
- เป้าหมายเปลี่ยนได้ แต่อย่าบ่อย
- การเก็บเงินทำให้มั่นคง ไม่ได้ทำให้รวย
- ถ้ายากรวยให้หาเงิน
- ต้องใช้น้อยกว่าที่หาได้ ทุกช่วงของชีวิต ประมาณตนให้อยู่ในระดับที่เรามีปัญญา
- ถ้าจะเป็นหนี้ ทำได้สองกรณีเท่านั้น คือ 1) ถ้าเป็นหนี้แล้วเอาไปทำประโยชน์ได้มากกว่าดอกเบี้ยที่จะจ่าย 2) เป็นความจำเป็นที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ เช่นเอาไปรักษาตัว
- ชีวิตมีความเสี่ยง ต้องมีสำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
- บัตรเครดิตถ้าใช้เป็นจะมีประโยชน์มาก แต่ต้องชำระจำนวนเต็มให้หมดทุกเดือน ถ้าทำไม่ได้ให้หักบัตรโยนทิ้งไป
- รับผิดชอบตัวเอง คนรอบข้าง และสังคม
- ดำรงชีพด้วยความสุจริต มีจริยธรรม ไม่รวยก็มีความสุขได้

   dTT      30 ก.ย. 58   เวลา 7:14:00    IP = 58.11.68.131
 


  คำตอบที่ 16  
 
ชอบประโยคนี้ล่ะครับพี่ ดีทีที ดำรงชีพด้วยความสุจริต มีจริยธรรม ไม่รวยก็มีความสุขได้

   bbling      30 ก.ย. 58   เวลา 11:44:00    IP = 27.130.92.170
 


  คำตอบที่ 17  
 
^^BritPop^^ พอมีครอบครัว ความรับผิดชอบต้องมากขึ้นโดยธรรมชาติ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
dTT ปรัชญาชีวิตแบบง่ายๆ แต่ส่วนใหญ่ทำตามไม่ค่อยได้
บัตรเครดิต ถ้าเข้าใจ และควบคุมมันได้ จะได้ประโยชน์อย่างมาก
ผมใช้บัตรเครดิต/เดือน ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาท รูดซื้อของให้ที่ทำงาน
น้องๆที่ทำงาน และส่วนตัว เดือนนึงได้ cashback 3,000 บาท
เท่ากับผมมีเงินเพิ่มขึ้นเดือนนึง 3 พันบาท ไม่รวมคะแนนสะสมอีก
ตอนนี้ได้เกือบแสนคะแนนแล้ว แลกเป็นบัตรกำนัลก็เป็นหมื่นบาท

   กีต้าร์ธน      30 ก.ย. 58   เวลา 12:19:00    IP = 110.169.146.146
 


  คำตอบที่ 18  
 
เอางี้ ทำงาน กินข้าวเป็นหลัก อะไรที่ไม่กินเเล้วอยู่ได้ ไม่ต้องกิน เช่น เหล้า กาเเฟ เบียร์ เเละอะไรพวกนี้ รถถ้าติดเเก้สได้ก็ไปติด ทำเเบบนี้เเล้วชีวิตจะดีไปเรือยๆ

   alot       30 ก.ย. 58   เวลา 14:02:00    IP = 101.108.78.240
 


  คำตอบที่ 19  
 
อันดับแรกเลยคงต้องเข้าหน้า Classifieds ให้น้อยลงครับ (ขำๆนะครับ) ^^

   Fenderism      2 ต.ค. 58   เวลา 21:52:00    IP = 27.55.34.160
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket