Thailand Web Stat
    








(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  รวมเรื่องแปลก ลึกลับ อีกครั้งนะครับ  
 
เรื่องแรก เป็นเรื่องของการค้นพบใหม่นะครับ

"ค้นพบใหม่ ไดโนเสาร์ตัวใหญ่เท่าเครื่องบินโบอิ้ง 737"
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 เวลา 11:43 น.นักวิทยาศาสตร์ค้นพบไดโนเสาร์ที่มีน้ำหนักกว่าเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ใช้ชื่อว่า "Dreadnoughtus" หรือผู้ไม่กลัวสิ่งใด
เมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบโครงกระดูกไดโนเสาร์ตัวใหม่ และจากการตรวจสอบพบ เป็นไดโนเสาร์กินพืช อาจมีน้ำหนักตัวมากกว่าเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ชื่อว่า "Dreadnoughtus" หรือ ผู้ไม่กลัวสิ่งใด
จากการตรวจสอบโครงกระดูกที่ค้นพบทำให้คาดคะเนได้ว่าเจ้าdreadnoughtus มีความยาวประมาณ 26 เมตร และนำหนักตัวราว 65 ตัน เทียบได้กับทีเร๊กซ์ 7 ตัวรวมกัน หรือเปรียบได้กับช้างป่าแอฟริกามากกว่า 12 ตัว ถือเป็นไดโนเสาร์ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
โครงกระดูกของไดโนเสาร์ยักษ์ตัวนี้ถูกขุดพบในประเทศอาร์เจนติน่า ถือได้ว่าเป็นการค้นพบโครงกระดูกไดโนเสาร์ตัวใหญ่ที่สุดในวงศ์กินพืชที่รู้จักกันในชื่อ Titanosaurs (ไททันโนซอรัส) แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ายังมีโครงกระดูกไดโนเสาร์อีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ถูกขุดพบบที่อาจมีขนาดใหญ่กว่านี้ ซึ่งต้องทำการค้นหากันต่อไป


ที่มา : news.com.au
flickr : Argentina / GDA El Universal , NBC news


   สมาชิกแบบพิเศษ   top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:12:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 1  
 
"รถมรณะดูดวิญญาน"
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1914 อาร์คดยุคเฟอร์ดินานด์ เจ้าชายแห่งออสเตรียเจ้าของรถคันแรกถูกยิงจนสิ้นพระชนม์พร้อมพระชายา เป็นชนวนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ว่าการรัฐยูโกสลาเวียประสบอุบัติเหตุจนเสียแขนขวาจากการเป็นเจ้าของรถมรณะต่อจากเจ้าชาย
นายแพทย์คนสนิทผู้ว่า เสียชีวิตอนาถจากอุบัติเหตุจนโดนเจ้ารถคนนี้ทับบี้อยู่ใต้ท้องรถ นักแข่งชาวสิสผู้ครอบครองคนต่อมาใช้รถมรณะเป็นรถแข่งคู่ใจ ก็สิ้นชีพดับสยองคาสนามจากอุบัติเหตุในสนาม
ถูกนำไปโชว์ในพิพิธพันฑ์แห่งชาติเกี่ยวกับความลี้ลับและน่ากลัวของรถคันนี้ ก่อนโดนถล่มด้วยระเบิดจากสรงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลย

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:13:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 2  
 
"สีไวโอลินขณะผ่าตัดสมอง การรักษาสุดแปลกแต่ได้ผลจริง"
ความล้ำสมัยของการแพทย์ด้วยการรักษาแบบแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนนั่นคือการ สีไวโอลินขณะผ่าตัดสมอง นั่นเอง โดยโรเจอร์ ฟริสช์ ( Roger Frisch ) นักไวโอลินฝีมือเยี่ยม เกิดป่วยมีอาการมือสั่นเทา ทำให้สีไวโอลินไม่ได้ เขาเลยไปตรวจสอบตัวเองที่โรงพยาบาล และเมื่อแพทย์ได้ทำการวินิจฉัย และพบว่าสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว เริ่มส่งสัญญาณออกมาไม่ปกติ
เนื่องจากโรเจอร์ป่วยด้วย โรคสั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ (Essential Tremors มีชื่อย่อว่า ET) ทำให้ โรเจอร์ ต้องตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการดังกล่าวหากเขาต้องการจะเล่นไวโอลินต่อไป โดยการผ่าตัดนี้ โรเจอร์ต้อง สีไวโอลินขณะผ่าตัดสมอง โดยสาเหตุหลักที่แพทย์ต้องให้ โรเจอร์เล่นไวโอลินขณะทำการผ่าตัด นั้นเป็นผลมาจาก ทุกตัวโน๊ตที่โรเจอร์ทำสีไวโอลินนั้น ทำให้แพทย์ทราบว่า สัญญาณพัลส์ไฟฟ้า (Electronic Pulses คือ สัญญาณไฟ้ฟ้า ที่ถูกปล่อยออกมาในลักษณะ ปิด-เปิด เป็นจังหวะ) ที่ใช้ในการรักษาอาการที่ส่งเข้าสู่สมองนั้นเหมาะสมกับ การรักษาอาการป่วย ของ โรเจอร์หรือไม่นั่นเอง โดยการรักษาของ โรเจอร์ ไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ ดร. เคนดัล ลี (Dr. Kendall Lee) จากห้องทดลองวิศวกรรมของคลินิกเมโย (The Mayo Clinic Neural Engineering Laboratory) จึงหันไปใช้วิธีรักษาโดย การกระตุ้นสมองส่วนลึก (Deep Brain Stimulation) โดยการผ่าตัดจะทำการฝังตัว อิเล็กโทรด ที่สามารถส่งสัญญาณพัลส์ไฟฟ้าที่เหมาะสม กับ สมองเฉพาะส่วนที่ส่งสัญญาณผิดพลาด ดร. เคนดัล ได้ทำการฝังอิเล็กโทรดเข้าไปในสมองของ โรเจอร์ 2 อัน เพื่อรักษาอาการดังกล่าว โดยการที่ โรเจอร์ สามารถ สีไวโอลินขณะผ่าตัดสมอง ได้นั้น เนื่องมาจากสมองไม่มีประสาทรับรู้ความรู้สึก เขาจึงไม่เจ็บปวดขณะทำการผ่าตัดนั่นเอง โดยโรคสั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ (Essential Tremors) จะมีอาการที่พบบ่อย คือ อาการสั่นของมือ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยประสบปัญหาในการดื่มน้ำ กินข้าว ในขณะที่สาเหตุของโรค ET นี้ยังไม่ทราบแน่นอน ทั้งด้วยการสแกนสมองด้วย MRI และ CAT ก็ไม่สามารถตรวจพบอาการของโรค การวินิจฉัยจะทราบเมื่อเกิดอาการสั่นของร่างกาย

ข้อมูล>>>> Mthai.com

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:15:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 3  
 
"พิศวง !! แม่น้ำทั้งสายสาบสูญหลังเกิดแผ่นดินไหวในคอสตาริกา"
แม่น้ำสายเล็กๆใกล้เมืองอาร์เมเรีย เดอ ยูปาลา แห้งเหือดหลังแผ่นดินไหว
ตามหลังแผ่นดินไหวปานกลางหลายระลอกเขย่าคอสตาริกาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ชาวบ้านต่างพบว่าแม่น้ำกัวคาลิโต แห้งเหือดหายสาบสูญไปอย่างประหลาดใจ เว็บไซต์แห่งหนึ่งรายงานเมื่อวันศุกร์(15)
เว็บไซต์ Earthquake-report.com รายงานว่าหลังเกิดแผ่นดินไหวหลายระลอกเขย่าคอสตาริกาไปสักพัก ชาวบ้านจำนวนหนึ่งซึ่งพักอาศัยอยู่แถบแม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆกับเมืองอาร์เมเรีย เดอ ยูปาลา พบว่าแม่น้ำแห้งเหือดไป
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าน้ำในแม่น้ำหายได้อย่างไร แต่มีข้อสันนิษฐานอยู่ 2 กรณีคืออาจเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่หลังแผ่นดินไหวหรือว่าแรงสั่นสะเทือนจากธรณีพิโรธก่อสิ่งกีดขวางทางน้ำจนทำให้แม่น้ำซึ่งอยู่ใกล้ภูเขาไฟมิราวัลเลสแห้งเหือด ขณะที่ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ติดชายแดนนิการากัว ใกล้ๆกับภูเขาไฟแห่งนี้
น้ำในแม่น้ำแห้งเหือดเป็นเรื่องแปลกแต่จริง และเหตุการณ์นี้ก็ไม่ใช่กรณีแรกที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้
ในปี 2010 แม่น้ำอิสกา ในสโลวาเกีย เหือดแห้งแบบไร้ร่องรอย หลังชาวบ้านได้ยินเสียงโครมครามดังสนั่นตอนกลางคืน ก่อนที่ในเช้าวันต่อมาก็พบว่าแม่น้ำทั้งสายหายไป เหลือไว้เพียงเหล่าปลาและสัตว์น้ำอื่นๆที่นอนเกลื่อนเส้นทางน้ำ
สันนิษฐานกันว่าน้ำในแม่น้ำแห่งนี้ได้ไหลลงสู่รอยแตกขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้เส้นทางน้ำ อย่างไรก็ตามคาดกันว่าการหายสาบสูญของน้ำดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว
ขณะเดียวกันเมื่อเร็วๆ น้ำในอ่างกักเก็บน้ำในฮันต์สบิวรี ของนิวซีแลนด์ กว่า 36 ล้านลิตรหายไป ตามหลังแผ่นดินไหวระดับ 6.3 เขย่าไครส์ตเชิร์ช เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000087437

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:16:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 4  
 

"หนึ่งในล้าน หนุ่มสาวชื่อ-นามสกุลเดียวกัน แต่งงานกันเพราะ Facebook"
อะไร มันช่างบังเอิญอย่างนั้นสำหรับคู่รักคู่นี้ มันคงไม่ใช่เรื่องประหลาดสำหรับรักแรกพบบนออนไลน์ ถ้าพวกเขาไม่ได้มีชื่อและนามสกุลเหมือนกันเด๊ะ! ฝ่ายชายชื่อเคลลี่ ฮิลแบรนดท์ พบสาวสุดน่ารักจากฟลอริดาชื่อ เคลลี่ ฮิลแบรนดท์ และพวกเขาทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานด้วยกัน คู่รักบุพเพคู่นี้พบกันได้เมื่อเคลลี่ฝ่ายหญิง เกิดนึกสงสัยว่า จะมีใครชื่อเดียวกันกับเจ้าหล่อนบ้างบน Facebook ก็เลยเซิร์ชหาคนที่มีชื่อนี้ปรากฏว่า ชื่อของเคลลี่ฝ่ายชายก็ปรากฏขึ้นเป็นชื่อเดียว พร้อมรูปภาพที่ไม่ได้ใส่เสื้อของเคลลี่ชายที่โพสต์ไว้ เธอก็เลยคิด โอ้ เขาน่ารักดีนะ' แล้วเธอก็เลยเกิดอยากจะเซย์ไฮนิยายรักออนไลน์ของหนุ่มสาวคู่นี้ก็เริ่มขึ้น อีก 8 เดือนต่อมาจนกระทั่งแฮปปี้เอ็นดิ่งในที่สุด

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:17:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 5  
 

"ว่าที่..เสื้อที่แพงที่สุดในโลก"
สำหรับวันนี้จะพาไปชม เสื้อ ตัวหนึ่งเป็นของนักธุรกิจชาวอินเดีย ทำไมต้องพาไปชมละ ก็เพราะว่าเสื้อตัวนี้มันไม่ธรรมดา เพราะมันถูกทอขึ้นจากทองคำแท้ๆ ทั้งตัว รวมน้ำหนักกว่า 4 กิโลกรัม มูลค่ารวม 7 ล้านบาท เลยทีเดียว โดยเสื้อทองคำที่ว่านี้ถูกสั่งทำขึ้นเป็นของของขวัญวันเกิดครบรอบ 45 ปีให้ตัวเอง ของนายปันกาช ปารักห์ นักธุริกจสิ่งทอและเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในเมืองเยาลา รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย เขานับเป็นเศรษฐีที่หลงไหลในทองคำจึงได้สั่งทำเสื้อทองคำแท้ตัวนี้ขึ้นมา โดยเสื้อตัวนี้นั้นได้รับการออกแบบโดย ร้านบาฟน่า จิวเวลเลอร์ส ที่ตั้งอยู่ในเมืองนาชิคในอินเดีย ตัวเสื้อผลิตจากทองคำตั้งแต่ 18-22 กะรัต จากฝีมือของช่างทองผู้ชำนาญกว่า 20 ชีวิต ของร้านสันติ จิวเวลเลอร์ส ในเมืองมุมไบ โดยใช้เวลาในการทำไปทั้งสิ้นกว่า 2 เดือนเลยทีเดียว แม้ว่าเสื้อตัวดังกล่าวจะถูกทอขึ้นจากทองคำล้วนๆ แต่มันก็มีความยืดหยุ่น แถมยังสวมใส่ได้สะบายไม่ระคายเคืองเพราะมีการออกแบบให้มีผ้าบางๆ ภายในตัวเสื้อด้วย ที่สำคัญเสื้อตัวนี้สามารถนำไปซักล้าง ตากแดดได้เหมือนกับเสื้อผ้าทั่วๆ ไปอีกต่างหาก ครับ ไม่เท่านั้น เสื้อตัวนี้ยังมีใบรับประกันตลอดชีพสามารถนำไปซ่อมแซมหรือดัดแปลงแก้ไขได้ตลอดเวลาเลยทีเดียว
สุดท้ายนายปันกาชนั้นยังหวังด้วยว่าเสื้อทองคำของเขาตัวนี้จะถูกบันทึกสถิติลง กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส ในฐานนะที่มันเป็นเสื้อทองคำที่แพงที่สุดในโลก แทนที่เจ้าของสถิติเดิมคือเสื้อทองคำหนัก 3.25 กิโลกรัมของนายดัตต้า ปูเก้
เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่จะมาเป็นอุปสรรคให้เสื้อตัวนี้ไม่ได้กลายเป็น เสื้อทองคำที่แพงที่สุดในโลก ตัวใหม่อย่างแน่นอน คนเรานี้คลั่งทองถึงขนาดต้องเอาไปทอเป็นเสื้อมาใส่กันเลยทีเดียว แต่ว่าใส่แล้วอย่ามาเดินคนเดียวน่ะต้องหาการ์ดมาด้วย ไม่งั้นละก็มีหนาวแน่ๆ

อ้างอิงจาก : paow007
Advertisement

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:18:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 6  
 
"อุโมงค์ที่แปลกที่สุดในโลก!! The Bund Sightseeing Tunnel"
อุโมงค์ดังกล่าวชื่อว่า The Bund Sightseeing Tunnel หรืออุโมงค์ชมวิวเดอะบันด์ ตั้งอยู่ในเขตเดอะบันด์ หรือไว่ทัน ศูนย์กลางนครเซี่ยงไฮ้ในประเทศจีน
อุโมงค์แห่งนี้มีความยาวทั้งสิ้น 646.7 เมตร สร้างอยู่ใต้แม่น้ำหวงผู่ แม่น้ำสายสำคัญของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเดอะบันด์และหอคอยไข่มุกตะวันออกหรือที่คนไทยเรียกสั้น ๆ ว่าหอไข่มุก สถานที่ท่องเที่ยงสำคัญในนครเซี่ยงไฮ้เข้าด้วยกัน
จุดเด่นที่ทำให้อุโมงค์แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นอุโมงค์ที่แปลกที่สุดในโลก คือนอกจากจะมีการตกแต่งกำแพงภายในอุโมงค์อย่างสวยงามแล้ว อุโมงค์แห่งนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีการแสดงภาพ แสง สี และเสียง ทำให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินไปกับการแสดงภายอุโมงค์ดังกล่าว
ที่สำคัญรถไฟที่วิ่งในอุโมงค์แห่งนี้ใช้ระบบไฟฟ้าควมคุมทั้งหมด และห้องโดยการเป็นกระจกแก้วใส ทำให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินการแสดงได้ตลอดการเดินทางโดยไม่อะไรรบกวน
สำหรับค่าบริการอยู่ที่ 20 หยวนหรือประมาณ 100 บาทสำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว และ 30 หยวนหรือประมาณ 150 บาทสำหรับการเดินทางแบบไปกลับ เป็นยังไงละแปลกไหมน่าไปเที่ยวด้วย ลอดใต้แม่น้ำแถมยังมีแสงสีเสียงให้ได้ดูกันอีกด้วย แจ่มจริงๆ เลย

ขอบคุณที่มาจาก variety.teenee.co

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:19:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 7  
 

"เสียงลึกลับ (Unexplained Sound, Taos Hum)"
เรื่องราวก็มีอยู่ว่าในปี ค.ศ.1977 ประชาชนของอเมริกาเกิดได้ยินเสียงประหลาดขึ้นมา ซึ่งลักษณะของเสียงจะคล้ายกับเสียงเหมือนผึ้งบินหรือแมลงที่กำลังบินอยู่ หึ่ง หึ่ง หึ่ง อะไรประมาณนี้ซึ่งว่ากันว่าถ้าไม่ใช่สถานที่ที่เงียบสงบแล้วก็จะไม่ได้ยินเสียงนี้ โดยเจ้าเสียงที่ว่านี้ดังติดต่อกันตลอดเวลาแต่บางทีก็เว้นจังหวะเป็นระยะแบบ สม่ำเสมอกัน เสียงปริศนานี้เกิดขึ้นอยู่นานครับ โดยที่ยังหาต้นตอของเสียงไม่เจอแต่อย่างใด กระทั่งได้มีการสำรวจและวัดคลื่นความถี่ของเสียงปริศนาออกมาเรียบร้อย ก็ราว 30-80 Hz โดยประมาณครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ยินเสียงนี้ คนที่ไม่ได้ยินก็มี ที่ได้ยินก็เยอะ แต่ก็หาสาเหตุไม่พบว่าเสียงปริศนานี้เกิดจากอะไร ในช่วงเวลาขณะนั้น คนที่ได้ยินเสียงนี้ต่างก็เสียสุขภาพจิตไปตามๆ กันครับ จะนอนก็ไม่หลับ อ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง เพราะทั้งสองหูได้ยินเสียงที่ว่านี้รบกวนอยู่เกือบตลอดเวลา โดนเจ้าเสียงประหลาดนี้เล่นงานเอาแทบเกือบแย่ไปตามกัน จนได้มีการตั้งทีมงานเฉพาะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุนี้เหมือนกันครับ แต่ก็คว้าน้ำเหลว เพราะหาข้อสรุปและคำอธิบายไม่ได้ว่าต้นตอของเสียงปริศนานี้นั้นมาจากไหน แต่บ้างก็สันนิษฐานว่า เป็นคลื่นความถี่ต่ำที่ปล่อยออกมาจากโลก แต่บ้างก็ว่าเป็นเสียงจากดาวเทียมที่ส่งสัญญาณบางอย่างลงมายังโลก และข้อสันนิษฐานที่จะขาดเสียมิได้เลยสำหรับพวกคอเรื่องลึกลับ ก็คือเป็นโครงการทดลองลับของรัฐบาล (อีกแล้ว) ในการสร้างเครื่องมือสื่อสารทางการทหาร ก็เช่นเคย ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนสำหรับเสียงปริศนานี้ ก็เลยยังเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำอธิบายไม่ได้มาจนทุกวันนี้

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:20:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 8  
 

"สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก"
สุดยอดกับสะพานบบนโลกของเรา สะพานสปริง ข้ามแม่น้ำเซน แห่ง กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส น่าจะเป็น สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก Trampoline Bridge ผลงานของ บริษัทสถาปนิก Atelier Zündel Cristea ซึ่งดีไซน์งานนี้ เพื่อเข้ารวมการแข่งขันในหัวข้อ “สะพานแห่งปารีส”สะพานสปริง ข้ามแม่น้ำเซน ถูกกำหนดที่ตั้งให้อยู่ใกล้กับ สะพาน Bir-Hakeim สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก นี้ โดดเด่นและแตกต่างจากสะพานข้ามทั่วไป ทั้งแนวคิดและรูปลักษณ์ Trampoline Bridge ประกอบด้วย ทุ่นพีวีซียักษ์ 3 ห่วง เชื่อมต่อกัน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร (98 ฟุต) มีขนาด 3,700 ลูกบาศก์เมตร (130,664 ลูกบาศก์ฟุต) พื้นที่ตรงกลางเป็นตาข่ายผ้าใบ ออกแบบให้โดด-เด้ง-ดึ๋งได้ สนุกสนานตลอดการเดินบน สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก ใครที่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่าง สปริงผ้าใบ น่าจะถูกอกถูกใจ สะพานสปริง ข้ามแม่น้ำเซน นอกจากจะช่วยลดการใช้พลังงาน ยังช่วยส่งเสริมให้คนออกกำลังกายทางอ้อม ..แต่จะว่าไป จะมีสักกี่คนที่อยากข้ามไปถึงอีกฝั่งโดยไว หากเจอ สะพานข้ามแม่น้ำที่แปลกที่สุดในโลก แห่งนี้

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:20:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 9  
 

"miracle of the sun : เหตุการณ์พระแม่มารีปรากฏตัว"
เหตุการณ์นี้ผู้คนน้อยมากที่จะรู้จักกับเหตุการณ์นี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดมากที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้ที่เกิดขึ้นในประเทศโปรตุเกส เหตุการณ์นี้ก็มีอยู่ว่ามีเด็ก 3 คน ได้ทำนายว่าพระแม่มารีจะปรากฏมาท้องฟ้าตอนเที่ยง ประชาชนประมาณสัก 4 หมื่นคน (จากข้อมูลอีกฝั่งก็ว่าเป็นแสนคน) ก็มาเฝ้ายืนรอเพื่อเป็นสักขีพยาน พอถึงเวลากำหนดแล้วปรากฎการณ์อันน่าตกตะลึงก็เกิดขึ้น เมื่อท้องฟ้าได้แตกออกมาและดวงอาทิตย์ก็ส่องแสงออกมา ซึ่งไม่ใช่ส่องแสงแบบทั่วไปเท่านั้น เป็นส่องแสงเฉกออกมาเป็นหลายสีซ้อนกัน ทั้งดวงอาทิตย์ยังมีการหมุนรอบตัวเองท่ามกลางต่อหน้าต่อตาของผู้คนที่มาเฝ้ารอ ยังไม่พอดวงอาทิตย์ยังมีการเคลื่อนที่ไปมาอีกด้วย ทำให้บางคนตีความว่าถึงวันสิ้นโลก ผู้คนจึงยอมรับว่าปรากฎการณ์นี้คือปาฎิหารย์ของพระผู้เป็นเจ้าที่สำแดงเดชให้ชาวโลกได้เห็น


   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:21:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 10  
 

สุดทึ่งกับถนนหิมะในประเทศญี่ปุ่น
สุดทึ่งกับถนนหิมะในประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงของเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษาของทุกปีในญี่ปุ่น
เส้นทางการเดินทางของญี่ปุ่นบริเวณหุบเขาจะเต็มไปด้วยหิมะหนากว่า 20 เมตร
เป็นที่น่าทึ่งและแปลกตาของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:24:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 11  
 
โอ้โห! น้ำตกแนวนอนธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์
Horizontal Waterfalls น้ำตกแนวนอน มหัศจรรย์ธรรมชาติ จากประเทศ ออสเตรเลีย

ขึ้นชื่อว่าน้ำตก มันก็ต้องตกแนวตั้ง จากบนลงล่าง แต่ที่นี่ไม่ใช่น้ำตกธรรมดาๆ เป็นน้ำตกอัศจรรย์ ที่ตกเป็นแนวนอน เกิดจากคลื่นซัดเข้าหา ช่องแคบ น้ำที่ทะลุช่องแคบเข้ามาจึงดูเหมือนน้ำตก มีความสูงถึง 5 เมตรเลยนะ เป้นธรรมชาติที่สวยงามมากจริงๆ

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      7 ก.ย. 57   เวลา 9:25:00    IP = 125.26.17.39
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 12  
 
มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเลยครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      ส้มตำยายผิน      7 ก.ย. 57   เวลา 11:19:00    IP = 110.171.121.65
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 13  
 

ขอบคุณมากๆ ครับ พี่หมอ

   สมาชิกแบบพิเศษ      ชิตชัย      7 ก.ย. 57   เวลา 11:49:00    IP = 182.52.166.95
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 14  
 
ขอบคุณมากครับ อ.ท๊อป

   สมาชิกแบบพิเศษ      khakai      7 ก.ย. 57   เวลา 12:40:00    IP = 223.207.251.50
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 15  
 
ขอบคุณครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      mawmeaw99      7 ก.ย. 57   เวลา 14:01:00    IP = 223.206.230.13
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 16  
 
หนุกมาก

   Phosphorus      7 ก.ย. 57   เวลา 14:38:00    IP = 118.173.219.50
 


  คำตอบที่ 17  
 
ได้ความรู้ใหม่เสมอครับ

   กีต้าร์ธน      8 ก.ย. 57   เวลา 14:50:00    IP = 171.98.51.113
 


  คำตอบที่ 18  
 
ขอบคุณครับป๋าท็อป สนุกมากเลยครัย

   deerpoison      10 ก.ย. 57   เวลา 3:50:00    IP = 180.183.9.36
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket