สมมุตินาย A เป็นนักศึกษาที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ทำงานหาเงินไปต่อยอดความรู้นอกมหาวิทยาลัย ถึงช่วงใกล้สอบ เพื่อนๆนักศึกษาบอกนี่นาย A พวกเราอยากให้นายช่วยติวให้หน่อยสิจะใกล้สอบแล้ว แต่ด้วยความที่แต่ละคนก็ลงเรียนและมีเวลาว่างต่างกัน ทำให้นาย A ต้องเสียสละติวเป็นกลุ่มย่อยๆ 2- 3 ครั้ง ในกลุ่มเหล่านั้น มีทั้งคนที่ตั้งใจเรียนแต่ไม่เข้าใจ / คนที่ไม่ค่อยเข้าเรียนแต่อยากสอบผ่าน พอถึงเวลาจริงนาย A ต้องขาดรายได้จากการหารายได้พิเศษ เสียเวลาส่วนตัวเพื่อมาช่วยเหลือเพื่อนๆ แต่กลับพบว่าที่นัดๆมาติวคนก็ไม่มากัน บางคนมาก็บอกให้สอนตั้งแต่เริ่มต้นเพราะไม่มีพื้นฐานอะไรเลย บทสรุปคือ นาย A เสียเวลาส่วนตัว เสียงานบางส่วน เพื่อคนเห็นแก่ตัวบางส่วนที่ไม่เข้าเรียนแต่อยากสอบผ่าน และคนเห็นแก่ตัวบางส่วนที่ถึงเวลาก็ไม่มากัน ทำให้นาย A คิดว่า ต่อไปนี้นะ ฉันจะช่วยเหลือแต่เพื่อนของฉันที่ตั้งใจเรียนแต่เขาไม่เข้าใจจริงๆ ส่วนคนที่ต้องการให้สอน ให้ติวแต่ไม่เคยสนใจเรียนเลย ฉันจะขอค่าเสียเวลาส่วนตัวฉันสักเล็กน้อยพอเป็นพิธีให้ฉันไม่เสียผลประโยชน์ส่วนตัว
สำหรับผมคิดว่า ที่นาย A ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ที่ตัวเองควรจะได้รับ ค่าเสียเวลาเล็กน้อยก็เพื่อกระตุ้นให้เพื่อนๆรู้สึก ฉันเสียเงินมาแล้วฉันจะไม่ยอมเสียผลประโยชน์ส่วนนี้ไป แต่ นาย A ก็ยังมีใจถ่ายทอดความรู้เป็นวิทยาทาน กับผู้ที่นาย A เห็นสมควรว่าควรจะได้รับ