(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  เรื่องเล่า ที่มา ที่ไป ของกีต้าร์ น้า เล็ก คาราบาว ตอนที่ 1 เรื่อง Gibson (ปลอม)  
 
เดอะซี่รี่ส์ My Guitar

ตอนที่ 1 เรื่อง Gibson (ปลอม)

เมื่อนึกถึงกีตาร์ตัวแรกๆของผมขึ้นมาทีไรก็รู้สึกนึกขำนิดๆขึ้นมาได้เหมือนกัน นั่นเพราะเรื่องราวต่างๆของกีตาร์แต่ละตัวนั่นเอง จะว่าไปแล้วกีตาร์ตัวแรกของผมนั้นหุ้นกันซื้อกับเพื่อนมันจึงไม่ใช่ของผมคนเดียวและภายหลังเพื่อนก็มาเอาไป ตัวที่สองนี่น่าจะเป็นตัวแรกมากกว่าเพราะไม่ได้หุ้นกับใคร ตัวละ 500 บาทเป็นกีตาร์มือสอง ด้วยนิสัยช่างประดิษฐ์ของผมเล่นไปแต่งไปดัดแปลงไปเรื่อยจนสุดท้ายพังครับ คอหัก แต่ก็ได้รับบทเรียนมากมายจากกีตาร์ตัวนี้ ตัวที่สามราคา 700 บาทไม่รู้มือที่เท่าไรเพราะเป็นของหลุดจากโรงจำนำตัวนี้เป็นกีตาร์ไฟฟ้า ก็แต่งไปซ่อมไปดัดแปลงไปสุดท้ายเหมือนเดิมครับคือ พัง! จะว่าไปแล้วทุกวันนี้ผมก็ยังมีนิสัยเช่นนี้อยู่ไอ้เรื่องแต่งเติมกีตาร์เนี่ยเพียงแต่ประสบการณ์มากขึ้นเลยรู้ว่าแค่ไหนพอ ตัวที่สี่ราคา 1500 บาทยี่ห้อ Maya เป็นกีตาร์ญี่ปุ่นซึ่งทำเรียนแบบกีตาร์ Gibson Les Paul ซึ่งเป็นของอเมริกา (ราคาในขณะนั้นน่าจะประมาณ 18,000 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่ไกลเกินฝันสำหรับผมในเวลานั้น มือกีตาร์ในยุคนั้นถ้าใครใช้หรือมีกีตาร์ยี่ห้อ Gibson ก็ถือว่าสุดยอดแล้วหละครับมันเป็นดั่งเครดิตอย่างหนึ่งของมือกีตาร์ในยุคนั้น
เลยก็ว่าได้ ของผมน่ะพันห้าเสียงก็แล้วแต่คนเล่น แต่ด้วยความอยากเท่จึงเอาป้ายยี่ห้อ Gibson ทำจากทองเหลืองที่เพื่อนเอามาให้ แกบอกว่า "ของแท้เลยนะเนี่ย" แต่ไม่ใช่ของตัวกีตาร์หรอกครับมันเป็นของกล่องใส่กีตาร์น่ะ แกไปแงะมาจากไหนก็ไม่บอก แต่ไม่ว่าอย่างไรผมก็เอามันมาแปะทับยี่ห้อ Maya ของกีตาร์ผมได้อย่างพอดิบพอดีแล้วผมก็ใช้เจ้ากีตาร์ตัวนี้จนเรียนจบและเมื่อมาเป็นนักดนตรีอาชีพเต็มตัวผมก็ยังใช้เจ้ากีตาร์ตัวนี้อยู่ นักดนตรีอาชีพสมัยนั้นก็ต้องแสดงตามผับตามบาร์หละครับ ซึ่งตามสถานที่เหล่านี้ก็มักจะมีแสงไฟสลัวๆในขณะที่เล่นเพลงช้า ถ้าช่วงที่เล่นเพลงเร็วหรือเพลงเต้นรำภาษานักดนตรีสมัยนั้นเรียกเพลงโจ๊ะไฟก็จะสว่างขึ้นแต่ก็มองอะไรไม่ถนัดหรอกครับเพราะแสงแว๊บวับวูบวาบเหลือเกินซึ่งพนักงานเล่นไฟสมัยนั้นน่ะเหมือนกันแทบทุกบาร์(รู้สึกว่าผมจะเคยเล่าไปแล้วในหนังสือเล่มสองเรื่องพนักงานเล่นไฟเนี่ย) พี่ ช.อ้น ณ บางช้าง ซึ่งในขณะนั้นแกก็แสดงอยู่สถานที่เดียวกับผม แต่อยู่คนละวง แกมักพูดชมว่ากีตาร์ผมเสียงดีบ่อยครั้งที่แกขอเปลี่ยนกีตาร์กันเล่น ของแกน่ะ Gibson แท้ครับ ของผมน่ะแค่ป้ายยี่ห้อ ดังนั้นผมจึงมักบ่ายเบี่ยงกับแกว่าสายยังไม่ได้เปลี่ยนบ้าง รูแจ๊คไม่ค่อยดีบ้าง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในขณะนั้นผมจึงอายที่จะพูดความจริงออกมาว่ามันไม่ใช่ Gibson หรอกมันคือ Maya น่ะ แล้วหลังจากนั้นไม่นานทางวงของผมก็ไปเช่าเครื่องดนตรีมาใช้ทั้งวงซึ่งที่ว่านี้ก็มีกีตาร์ Gibson ของแท้รวมอยู่ในรายการเช่านี้ด้วยจึงทำให้ผมได้เล่นกีตาร์ในฝันสมใจอยากทุกวัน
Cr.https://www.facebook.com/lekcarabaosolo?fref=ts


กีต้าร์ล่าฝัน      2 พ.ค. 57   เวลา 15:42:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 110.164.193.7
 


  คำตอบที่ 1  
 
ซี่รี่ส์ My Guitar

ตอนที่ 2 เจ้า Maya เพื่อนผู้อาภัพ

เมื่อมีกีตาร์ Gibson ของจริงเล่นแล้วผมก็ไม่สนใจเจ้า Maya ดั่งคำโบราญที่ว่า "ได้ใหม่ลืมเก่า" อะไรก็แล้วแต่ที่เราไม่สนใจดูแลมันก็เหี่ยวเฉา โดยลึกๆแล้วผมมองว่ากีตาร์นั้นเป็นดั่งสิ่งมีชีวิต แต่ด้วยความเห่อกีตาร์ที่ใฝฝันอยากจะมีและอยากเล่นมานานถึงจะเป็นของเช่าไม่ใช่ของเราก็ตามจึงทำให้ผมลืมนึกถึงเจ้า Maya เพื่อนยากไปเลย สุดท้ายมันหายไปโดยที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเป็นเมื่อใด ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อยๆจากกีตาร์เช่าในที่สุดก็มีกีตาร์ Gibson ของตัวเอง วันเวลาผ่านไปกับชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่งจากวัยล่าฝันจนถึงวัยเกินฝัน อยากมี Gibson รุ่นไหนก็มีได้ไม่ใช่เรื่องยากแค่ไปซื้อ หรือถ้าไม่อยากไปเลือกเองก็โทรไปสั่งยังได้ แต่ผมไม่อาจซื้อเจ้า Maya เพื่อนผู้อาภัพของผมกลับคืนมาได้จึงได้แต่รู้สึกผิดและเสียใจอยู่ลึกๆ
วิถีชีวิตนั้นประหนึ่งการโคจร วันหนึ่งขณะอยู่ที่บ้านมีเพื่อนร่วมรุ่นอุเทนฯมาเยี่ยมเยียนที่บ้านพร้อมกีตาร์ไฟฟ้าในมือ เพื่อนคนที่ว่านี้ไม่ใช่นักดนตรีจึงสร้างความสงสัยน้อยๆในใจผม แต่ไม่ทันพูดอะไรเพื่อนก็ถามว่า "เล็กจำกีตาร์ตัวนี้ได้หรือเปล่า" ผมมองอยู่ชั่วครู่ "จำไม่ได้ว่ะ" แล้วเพื่อนก็เล่าให้ฟังว่าได้มาอย่างไร "เจ้าของมันบอกว่าเป็นกีตาร์ที่เล็กใช้ตอนเรียนหนังสือ" เรียนท่านผู้อ่านเพิ่มเติมสักเล็กน้อยว่า เจ้าMayaของผมน่ะสีทอง นักดนตรีเค้าเรียกรุ่นหน้าทองแต่กีตาร์ที่เพื่อนผมเอามาให้ดูนี่น่ะสีอะไรผมก็เรียกไม่ค่อยจะถูก สีเปลือกมังคุดด่างๆมั้ง แต่ไม่ว่าอย่างไรจากคำพูดของเพื่อนก็ทำให้ผมต้องขอดูอย่างพินิจอีกที แล้วผมก็ถึงกับโพล่งออกมา "ใช่จริงๆด้วย" เพื่อนผู้ยากของผมกลับมาแล้ว ความรู้สึกผิดลึกๆได้ถูกชำระล้างแล้ว ทำไมผมถึงจำได้น่ะหรือ ก็เพราะถ้าเป็นกีตาร์ของผมต้องมีรูสองรูที่ผมเจาะไว้เพื่อติดป้าย Gibson ไงล่ะครับซึ่งเรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครมาก่อน จากนั้นผมก็ลองขูดสีดูปรากฏว่าสีเดิมเป็นสีทองครับ

   กีต้าร์ล่าฝัน      2 พ.ค. 57   เวลา 15:44:00    IP = 110.164.193.7
 


  คำตอบที่ 2  
 
ซี่รี่ส์ My Guitar

ตอนที่ 3 หนึ่งเดียวในโลก

เรื่องกีตาร์ยังไม่หมดเพียงแค่นี้หรอกครับ ยังมีบางตัวที่ออกไปอยู่ในอ้อมแขนคนอื่นโดยที่ผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไม อย่างไร เมื่อไหร่! เมื่อไม่นานมานี้วงคาราบาวเดินทางไปแสดงที่ผับแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ขณะพักผ่อนอยู่ในห้องพักของผับ ซึ่งอยากจะเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบถึงบรรยากาศในห้องพักสักเล็กน้อยว่ามันมีความไม่ส่วนตัวขนาดไหน ก็คือเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่เพราะต้องรวมห้องแต่งตัวและใช้เป็นที่เก็บเสื้อผ้ารวมทั้งอุปกรณ์การแสดงต่างๆของศิลปินที่แสดงทุกค่ำคืน ณ ที่แห่งนี้นั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่มีอาหารตั้งเรียงรายไว้เพียบทั้งขาหมูขาไก่หม้อไฟจานร้อนต่างก็แย่งกันส่งกลิ่นจนคลุ้งให้ต้องสระผมหลังเลิกงานกันไป ประตูห้องพักก็ไม่ต้องคิดจะปิดหรอกครับเพราะว่ามีบรรดาศิลปินทั้งชายหญิงตุ๊ดทอมเข้าออกกันตลอด อีกทั้งยังมีคนนอกซึ่งก็คือบรรดาเพื่อนๆของนักแสดงทั้งหลายเรียกว่าไม่รู้ใครเป็นใครหละครับ ตัวผมเองแม้จะอึดอัดแต่ก็ใกล้เวลาแสดงแล้วจึงทนเอาเพราะที่จอดรถกับเวทีอยู่ไกลกัน ขณะนั่งเบื่ออยู่นั้นก็มีน้องบุคลิกน่าจะเป็นนักดนตรีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผมพร้อมกีตาร์ที่อยู่ในกล่องขณะเปิดกล่องแกก็พูดว่า "พี่จำได้อ๊ะเป่า นี่กีตาร์คายยยยย" ฟังจากสำเนียงการพูดของแกแล้วก็พอจะรู้ว่าแกจะมาเซอร์ไพร์ผมนั่นเอง ซึ่งก็ได้ผลครับ เพราะเมื่อผมเห็นก็โพร่งออกมา "เฮ้ย! ได้มาไงเนี่ย" พอน้องคนนั้นได้ยินคำถามประโยคนี้เข้าหน้าแกก็เริ่มถอดสี ซึ่งผมยังไม่หยุดแค่นั้น "แล้วพี่แอ๊ดเห็นหรือยัง" ยิ่งทำให้หน้าไอ้น้องคนที่ว่าเหลือแค่นิ้วเดียว ก่อนจะถามอะไรต่อก็หันไปเห็นพี่แอ๊ดกำลังเดินเข้ามาพอดี "แอ๊ดจำกีตาร์ลายพรางที่เราให้ได้รึเปล่า" "ได้....เออ...มันอยู่ไหนวะไม่เห็นนานแล้ว" ผมจึงหันมาชี้ที่ไอ้น้องนักดนตรีพร้อมพูดว่า "นี่....ไ...ง....!!!!..?อ้าวเฮ้ย! มันหายไปไหนวะ" ท่านผู้อ่านครับ ต้องบอกว่าไอ้น้องคนนี้คงต้องจบวิชาตัวเบาขั้นเทพจากวัดเส้าหลินมาแน่ๆแถมยังหัวไวอีกต่างหาก เพราะมันแว๊บเดียวจริงๆ หลังจากนั้นเราจึงมานั่งวิเคราะห์กันว่ามันหายไปยังไงเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆไอ้น้องคนนี้แกคงจะซื้อต่อๆกันมาและก็คงภูมิใจในประวัติของกีตาร์ตัวนี้จากคำบอกเล่าที่ส่งต่อกันมาเพื่อให้ราคาดี อีกนัย แกคงอยากได้รับคำยืนยันจากปากของผมเองก็ว่าได้ ซึ่งถ้าให้ผมทายป่านนี้กีตาร์ตัวที่ว่านี้คงเปลี่ยนสีและรูปร่างรวมทั้งเปลี่ยนประวัติไปเรียบร้อยแล้ว....เฮ้อ! เรียนท่านผู้อ่านเพิ่มเติมสักเล็กน้อยว่า กีตาร์ตัวนี้ทำไมผมเห็นเพียงแค่แว๊บเดียวก็จำได้ ก็เพราะผมเป็นคนออกแบบเองไงล่ะครับ มันเป็นกีตาร์เมดอินไทยแลนด์มีอยู่ตัวเดียวในโลก

   กีต้าร์ล่าฝัน      2 พ.ค. 57   เวลา 15:46:00    IP = 110.164.193.7
 


  คำตอบที่ 3  
 
ซี่รี่ส์ My Guitar

ตอนที่ 4 เจ้า THE PAUL

เรื่องราวของกีตาร์ดูจะไม่ยอมหมดเอาง่ายๆ ก็มันสี่สิบกว่าปีแล้วนี่ครับที่ขรุกอยู่ความเป็นนักดนตรีน่ะ หลายปีมานี้ผมมักพูดถึงกีตาร์ตัวนึงที่หายไปขณะถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง "เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ" ให้ภรรยาฟังอยู่บ่อยๆ เป็นกีตาร์ Gibson รุ่น The Paul ไม่เพียงผมเท่านั้นหรอกครับที่คิดถึงกีตาร์ตัวนี้น่ะ พี่แอ๊ด พี่เทียรี่ ก็มีความรู้สึกถึงกีตาร์ตัวนี้ไม่ต่างไปจากผมเท่าใดนัก ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะมันเป็นสมบัติของวงชิ้นแรกๆที่พวกเราใช้เงินวงซื้อ ซึ่งในยุคนั้นพวกเรามีเงินไม่มากนัก ดังนั้นจะซื้ออะไรทีจึงคิดแล้วคิดอีก เพื่อให้ท่านทราบที่มาและความรู้สึกของพวกเราที่มีต่อกีตาร์ตัวนี้จึงขอนำท่านย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เรากำลังจะทำการบันทึกเสียงชุดที่สาม ซึ่งก็คือชุด "วณิพกพเนจร" อันลือลั่นนั่นเอง
ขณะจะเดินทางไปห้องบันทึกเสียงมีเพื่อนรุ่นน้องมาหาผม แกเป็นเพื่อนของน้องเพื่อนผมน่ะ ผมไม่เจอแกนานแล้ว เนื่องจากแกไปเรียนต่อที่อเมริกา หลังจากที่ได้คุยกันพอสมควรก็เข้าเรื่องที่แกมาหา "ผมเอากีตาร์ที่ซื้อตอนที่เรียนอยู่ LA มาให้พี่ดูเผื่อสนใจ" สำหรับผมกับกีตาร์น่ะสนแน่ แต่ไม่รู้ตังค์จะพอสนหรือเปล่า หลังจากคุยเรื่องราคาแล้วผมก็เห็นว่ามันพอจะเป็นไปได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรต้องปรึกษาพี่แอ๊ดกับพี่เขียวก่อน เพราะต้องใช้เงินวงซื้อ (ในขณะนั้นคาราบาวมีสามคน) น้องแกจึงต้องไปห้องบันทึกเสียงกับผมพร้อมว่าที่กีตาร์ของวง หลังจากต่อรองกันอยู่นานโดยมีพี่แอ๊ดเป็นหัวหอกก็ได้ผลสรุปออกมาว่าวงอยากซื้อในราคา9,000 บาท แต่น้องอยากขาย 10,000 บาทพี่แอ๊ดจึงบอก "งั้นขอทดลองอัดเสียงดูก่อนถ้าพวกเราชอบให้ราคา10,000บาทตามราคาน้อง" ซึ่งน้องแกก็ยังมีข้อข้องใจว่า "ถ้าอัดออกมาแล้วพวกพี่ไม่ชอบล่ะ" ก็คงมีสองอย่างหล่ะครับ หนึ่งคือบ๊ายบาย สองราคา 9,000บาทไงล่ะ หลังจากนั้นผมก็จับกีตาร์ THE PAUL บันทึกเสียง ท่านผู้อ่านครับเสียงกีตาร์ในเพลงวณิพกพเนจร(original) ท่านฟังแล้วรู้สึกอย่างไรครับ? นั่นแหละเสียงของเจ้า THE PAUL หละ
หลังจากนั้นเจ้า THE PAUL ก็ได้มาเป็นอาวุธหลักในวงซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผมต้องเดินทางไปแสดงที่อเมริกากับวงเพรสซิเด้นท์ดังที่ผมได้เล่าให้ฟังไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งของผม ส่วนทางเมืองไทย วงคาราบาวก็ได้รับสมาชิกใหม่คือคุณเทียรี่มาเป็นอีกหนึ่งขุนพลกีตาร์ ซึ่งคุณเทียรี่ก็ใช้เจ้า THE PAUL ในการแสดงบนเวทีจึงมีความผูกพันอยู่ไม่น้อย หลังจากนั้นอีกสองปีเจ้า THE PAUL ก็จากพวกเราไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งที่กล่าว
อีกครั้งที่ชีวิตดั่งการโคจร ดั่งที่เรียนให้ท่านผู้อ่านทราบแล้วว่า ผมมักพูดถึงเจ้า THE PAUL ให้ภรรยาฟังอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งขณะเธอดูข้อมูลจาก iPad "นี่ใช่กีตาร์ที่พี่ชอบพูดถึงบ่อยๆหรือเปล่า" พร้อมยื่น iPad ให้ผมดูภาพและข้อมูล ผมจึงนำเรื่องราวมาเล่าให้พี่แอ๊ดฟังพร้อมทั้งบอกกับพี่แอ๊ดว่ากำลังจะหาทางเอากลับมา แต่หลังจากนั้นอีกสองวันพี่แอ๊ดก็พูดกับผมว่า "เอากลับมาแล้ว เละเลย เอาไปแขวนแต่งฝาบ้านละกัน" แล้วแกก็เข้าไปเอาเจ้า THE PAUL มาส่งให้ผม ซึ่งในขณะนั้นคุณเทียรี่ก็นั่งอยู่ด้วย ทันทีที่คุณเทียรี่เห็นก็พูดขึ้นมา "โคตรคิดถึงเลย" ไม่ว่าอย่างไรผมก็ไม่อาจตัดใจเอามันไปแขวนไว้เฉยๆที่ฝาบ้านได้ เพราะอย่างน้อยที่สุดมันก็มีส่วนทำให้คาราบาวมีวันนี้ แม้จะไม่มากแต่มีก็คือมีไม่ใช่หรือ? จากนั้นผมก็ให้ช่างทำการซ่อมแซม ซึ่งขณะนี้ใช้งบไป 9,500 บาทแล้วแต่สภาพก็ยังกลับมาไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซนต์ แต่ด้วยความรักในบางครั้งบางงานผมยังพามันขึ้นเวทีพร้อมเล่าเรื่องราวของมันอย่างคร่าวๆให้ผู้ชมได้ทราบพร้อมใช้มันเล่นเพลงบรรเลงให้ได้ฟังกันและวันนี้ลูกชายผมกับเพื่อนๆมาเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับการทำสีของภาพยนตร์กันผมเลยให้ถ่ายภาพเจ้า THE PAUL ซึ่งเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งถามอะไรเกี่ยวกับกีตาร์ตัวนี้เพิ่มเติมอีกทำให้ผมนึกได้ว่ามันหายไปเมื่อคราวถ่ายทำภาพพยนตร์เรื่องแรกของวงซึ่งก็คือเรื่องเสียงเพลงแห่งเสรีภาพ และมันกลับมาสู่อ้อมแขนของพวกเราเมื่อวันเปิดกล้องภาพพยนตร์เรื่อง "ยังบาว"

   กีต้าร์ล่าฝัน      2 พ.ค. 57   เวลา 15:51:00    IP = 110.164.193.7
 


  คำตอบที่ 4  
 
ซี่รี่ส์ My Guitar

ตอน 5 ไอ้ขาว (มันไม่มียี่ห้อ)

เมื่อไม่นานมานี้ Hard rock ได้ติดต่อมาทางผู้จัดการวงว่าอยากได้กีตาร์ของพวกเรา แอ๊ด เล็ก รี่ ไปโชว์ที่ผับเวียนไปทุกสาขาทั่วโลกโดยเริ่มจากเอเซียก่อน ก็เป็นสไตร์การตกแต่งร้านในเครือ Hard Rock เค้าหละครับ ดั่งที่เรียนให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบแล้วว่า ผมคิดและปฏิบัติต่อกีตาร์ดั่งเพื่อนจึงไม่ง่ายที่จะเลือกตัวไหน หรือส่งตัวไหนไป ทั้งที่ทาง Hard Rock ก็มีข้อเสนอว่าทางเราอยากได้กีตาร์รุ่นไหนยี่ห้ออะไรราคาเท่าไรทาง Hard Rock พร้อมที่จะซื้อเปลี่ยนทดแทนให้ทันที ถึงกระนั้นผมก็ยังเป็นคนสุดท้ายที่คิดไม่ออกว่าจะให้ตัวไหนดี ก็กีตาร์ของผมแต่ละตัวนั้นต่างก็มีเรื่องราวมากมายจนทำให้เกิดความผูกพันไม่น้อยเลย ขณะคิดไม่ออกเผอิญมองไปเห็นกีตาร์ ทรงFender สีขาว ที่แขวนอยู่ห้องรับแขก แต่มันก็เป็นกีตาร์ของลูกไปแล้วผมให้เค้านานแล้ว แต่ไม่ค่อยเห็นเขาเล่นมันเท่าไหร่จึงถามภรรยาว่าลูกไม่ชอบกีตาร์ตัวนี้หรือ ก็ได้รับคำตอบว่า "เค้าบอกว่ามันเล่นไม่ค่อยถนัด" มิน่าถึงได้แขวนจนสายขึ้นสนิมแถมมีสายขาดอีกต่างหาก และเมื่อวานลูกชายเพิ่งเล่าให้ผมฟังเพิ่มเติมว่า กีตาร์ตัวนี้น่ะ "น้าหน่อยยืมไปเล่นตั้งหลายเดือน" (หน่อยคือรุ่นน้องของผมแกเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีทีแล้ว) ลูกชายเล่าให้ฟังต่อว่าวันที่หน่อยเสียชีวิตกีตาร์ตัวนี้ก็สายขาดเองทั้งที่แขวนอยู่เฉยๆโดยไม่มีคนเล่นเพราะหน่อยนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวันแล้ว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ลูกชายผมก็ทราบมาจากการบอกเล่าจากปากของแม่หน่อยเองเมื่อตอนที่เอากีตาร์มาคืน
อยากจะเรียนท่านผู้อ่านให้ทราบสักเล็กน้อยว่ากีตาร์ตัวนี้น่ะเป็นกีตาร์แต่ง คือมันไม่เหมือนกีตาร์ทั่วๆไปที่ออกมาจากร้านหรือโรงงาน ก็บอกแล้วไงว่าผมน่ะชอบแต่งกีตาร์มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในกีตาร์ของผมที่ถูกแต่งจนถนัดมือผมคนเดียว (คิดเอง) แต่ก็น่าจะมีส่วนเพราะไม่อย่างนั้นลูกคงไม่เอามาแขวนไว้ห้องรับแขกหรอกว่าไหมครับ เมื่อเป็นเช่นนี้ผมจึงปรึกษากับภรรยาว่าถ้าเอาตัวนี้ให้ Hard Rock ล่ะ พร้อมทั้งบอกให้ภรรยาบอกเรื่องทั้งหมดให้ลูกชายฟัง ซึ่งขณะนั้นแกไม่ได้อยู่ในเมืองไทย ไปเรียนต่อที่อเมริกาน่ะ หลังจากที่ได้โทรคุยกันก็ได้ทราบว่าแกซื้อกีตาร์ตัวใหม่แล้วสีเดียวกันยี่ห้อเดียวกันแต่เล่นง่ายกว่า อ้าว! มิน่าถึงไม่เอาตัวนี้ไปด้วย และแกยังบอกด้วยว่า "พ่อให้ไอ้ขาว ไปเถอะ" (หมายถึงตัวที่ผมให้แกน่ะ) เมื่อเป็นดังนี้ผมจึงตัดสินใจว่าจะให้ตัวนี้กับ Hard Rock แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็อยู่กับผมและครอบครัวมานาน เสียงกีตาร์จากเพลงคนหนังเหนียวนั่นแหละครับเสียงของมัน เมื่อได้ตัดสินใจแล้วผมก็ถ่ายรูปพร้อมส่งข้อมูลไปให้ทางHard Rock หลังจากนั้นผมก็เอามันมาเปลี่ยนสายแล้วก็นั่งเล่นมัน ความรู้สึกเก่าๆพรั่งพรูเข้ามา มันเป็นอารมฌ์ความรู้สึกที่ยากอธิบายให้ออกมาได้อย่างหมดจด นึกถึงคำพูดของลูกที่ว่า "ให้ไปเถอะมันเล่นยาก" นึกถึงความรู้สึกของเราซึ่งก็คิดไม่ต่างไปจากลูกคือให้มันนี่แหละ ทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจจนต้องเอามันมากอดไว้ในอ้อมแขนอยู่นาน นึกสงสารมันขึ้นมาอย่างจับใจจึงเอามันกลับมาเล่นบนเวทีอีก พอเล่นหลายๆงานเข้าก็เกิดอาการถนัดมือขึ้นมา เพื่อนในวงก็ดันชมว่าเสียงดีบ้าง ดูเก๋าดีบ้าง แต่จะเปลี่ยนใจก็สายไปแล้วเพราะได้ส่งข้อมูลไปแล้วแถมจะกลายเป็นคนไม่อยู่กับร่องกับรอย จึงต้องตัดใจ แต่ด้วยความรู้สึกผิดและเจ็บปวดลึกๆผมจึงเขียนเพลงให้มันและใช้มันบันทึกเสียงเป็นครั้งสุดท้ายพร้อม
ถ่ายMVด้วยตัวผมเองแสดงเองตัดต่อเองเล่นเครื่องดนตรีทุกชิ้นเองเพื่อเป็นอนุสรการร่วมงานของเพื่อนผู้แสนดี บางท่อนของเนื้อเพลงกล่าวไว้ว่า "มันก็ดีเหมือนกันเมื่อถึงวันเจ้าเกษียณ เก็บคืนวันที่ผ่านมาเป็นบทเรียนไว้ในตู้ให้คนดูให้คนชม"


   กีต้าร์ล่าฝัน      2 พ.ค. 57   เวลา 15:53:00    IP = 110.164.193.7
 


  คำตอบที่ 5  
 
จบแล้วครับ ติดตามข่าวคราว หรือเรื่องราวอื่นๆของพี่เล็กได้ที่นี้เลยครับhttps://www.facebook.com/lekcarabaosolo?fref=ts

   กีต้าร์ล่าฝัน      2 พ.ค. 57   เวลา 15:55:00    IP = 110.164.193.7
 


  คำตอบที่ 6  
 
อ่านเพลินเลย

   Stevie Ray Vaughan      2 พ.ค. 57   เวลา 16:41:00    IP = 171.6.248.215
 


  คำตอบที่ 7  
 
ขอบคุณครับ

   หงส์พลัดถิ่น      2 พ.ค. 57   เวลา 16:56:00    IP = 58.9.195.118
 


  คำตอบที่ 8  
 
ชอบมากครับ ขอบคุณครับ

   bliNd maEw      2 พ.ค. 57   เวลา 17:30:00    IP = 110.77.138.102
 


  คำตอบที่ 9  
 
เดี๋ยวมาอ่าน ขอบคุณครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      mawmeaw99      2 พ.ค. 57   เวลา 18:48:00    IP = 171.4.100.43
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 10  
 
ขอบคุณมากครับ

   sakai  2 พ.ค. 57   เวลา 19:35:00    IP = 113.53.143.187
 


  คำตอบที่ 11  
 
:)

   Abernatee      2 พ.ค. 57   เวลา 19:55:00    IP = 171.97.200.190
 


  คำตอบที่ 12  
 
:)

   Abernatee      2 พ.ค. 57   เวลา 19:55:00    IP = 171.97.200.190
 


  คำตอบที่ 13  
 
ghj

   snk07      3 พ.ค. 57   เวลา 0:49:00    IP = 171.7.78.60
 


  คำตอบที่ 14  
 
ขอบคุณครับ

   พ่อลูก1      3 พ.ค. 57   เวลา 1:56:00    IP = 171.5.3.26
 


  คำตอบที่ 15  
 
อ่านเพลินครับ เขียนได้อารมณ์ ลึกซึ้งมากครับ ^^

   B_Empire  3 พ.ค. 57   เวลา 2:49:00    IP = 183.89.40.66
 


  คำตอบที่ 16  
 
สนุกมาก ชอบ
เคยฟังพี่เล็กเล่าเรื่อง The Paul บนเวทีไรซักอย่าง
เนื้อหาเหมือนอย่างนี้เลย ไม่รู้ใครเอามาโพสในเว็บ
น่าจะเป็นช่างที่ซ่อมกีต้าร์ตัวนี้หรือเปล่าไม่แน่ใจ

   Phosphorus      3 พ.ค. 57   เวลา 9:36:00    IP = 118.173.202.255
 


  คำตอบที่ 17  
 
ขอบคุณมากครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      khakai      3 พ.ค. 57   เวลา 11:32:00    IP = 223.207.250.45
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 18  
 
ขอบคุณครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      tamikooh      3 พ.ค. 57   เวลา 12:22:00    IP = 180.183.104.17
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 19  
 
ผมจำได้ว่า The Paul นี่คุณเรียว Realtone เป็นคนซ่อมและยังเอามาลงในเวปบอร์ดกีตาร์ไทยเลยไม่รู้โดนลบไปหรือยังครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      3 พ.ค. 57   เวลา 13:11:00    IP = 171.101.8.100
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 20  
 
เจอแล้วตัวนี้ไงครับ http://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=366231

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      3 พ.ค. 57   เวลา 13:16:00    IP = 171.101.8.100
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 21  
 
หลังจากโมมาแล้วสภาพเก๋ามากครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      3 พ.ค. 57   เวลา 13:18:00    IP = 171.101.8.100
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 22  
 
แล้วเจ้าตัว Explorer ล่ะครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      sanjak      3 พ.ค. 57   เวลา 21:34:00    IP = 115.64.205.151
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 23  
 
แปะครับ เอาไว้อ่าน อิอิ

   กีตาร์เลือด      3 พ.ค. 57   เวลา 21:46:00    IP = 49.230.151.153
 


  คำตอบที่ 24  
 
อ่านเพลินเลยคับ

   หมออิ่ม      4 พ.ค. 57   เวลา 11:52:00    IP = 101.109.35.37
 


  คำตอบที่ 25  
 
ผมก็หลงไหล The Paul.....แต่ได้เจ้า Rocky มาแทน...ครับ


   ART#9      4 พ.ค. 57   เวลา 13:00:00    IP = 27.145.37.44
 


  คำตอบที่ 26  
 
เยี่ยม


   สมาชิกแบบพิเศษ      Solo man 007      4 พ.ค. 57   เวลา 14:24:00    IP = 115.87.226.26
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 27  
 
อ่านเพลินเลยครับ เป็นตำนานเลย

   bodhibeedo      11 ก.ค. 57   เวลา 10:09:00    IP = 171.5.124.218
 


  คำตอบที่ 28  
 
ความ ผูกพัน เป็น จิต วิญญาณ....... จริงๆๆ

คน......กีต้าร์....... สำเนียง.........





   zztob      29 ม.ค. 60   เวลา 12:01:00    IP = 115.87.66.126
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket