Guitarthai : (ความรู้) บอดี้กีต้าร์ ชนิดของไม้ และย่านเสียงต่างๆ

(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)

(เพจ: Guitarthai.com)

(ความรู้) บอดี้กีต้าร์ ชนิดของไม้ และย่านเสียงต่างๆ

กีตาร์ ที่เราใช้โดยส่วนใหญ่นั้นมักมีส่วนประกอบทำมาจากไม้กันทั้งนั้น ซึ่งไม้แต่ละชนิดจะมีลักษณะของลายด้านความสวยงาม และให้เสียงที่มีลักษณะแตกต่างกันไป เราลองมาทำความรู้จักกับไม้ชนิดต่างๆ หลายแบบ ดูกันสักหน่อยดีไหมครับ? เผื่อว่าจะได้พบกับกีตาร์ในฝัน ทั้งความสวยงาม และสุ้มเสียง
ผมเชื่อว่าหลายๆคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับชนิดไม้ เพราะคิดว่า PU สำคัญกว่า
เพราะขึ้นชื่อว่าไม้ ก็คงเหมือนๆกันนั่นหล่ะ ผมถามเด็กมาหลายคนก็ตอบแบบนี้หมด
เพราะคิดว่า เปลี่ยน PU โหดๆ เเพงๆ = เสียงดีเเน่นอน
ซึ่งกีต้าร์หรือเบส ยุคใหม่ๆ บางรุ่นอาจจะทำจากวัสดุอย่างอื่นที่ไม่ใช่ไม้
ยกตัวอย่างเช่น Yamaha RGX A2 วัสดุทำจากไม้ผสมไฟเบอร์ หรือพาสติกแบบทนทานแบบเดียวที่ผลิตกับรถยนต์ เเต่หนากว่า ทำให้มีน้ำหนักเบา มวลเสียงก็ต่างจากไม้
อย่างเบส Warwick ซีรี่นึง ที่ทำจากอลูมีเนียมทั้งตัว หลายๆคนตั้งคำถามว่า เวลาเล่นไฟไม่ดูดหรอ ไม่ดูดเเน่นอนครับ เพราะไม่ใช่เหล็กเเท้ เเล้วคงไม่มีใครสะพายเหล็กเล่นหรอกครับ อิอิ

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:32:00

พิมพ์

แจ้งลบ IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 1

1. Alder (Alnus Rubra) เป็นไม้ที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างลำตัวกีตาร์กันอย่างแพร่หลาย เพราะว่ามีน้ำหนักค่อนข้างเบา และให้เสียงที่ออกเต็ม ทั้งทุ้ม กลาง แหลม ส่วนเสียงกลางจะออกเบากว่าโทนเสียงอื่นเล็กน้อย จึงทำให้โทนเสียงโดยรวมเป็นเสียงที่หวานกลมกล่อมอย่างลงตัว เนื่องจากมีลายเสี้ยนที่อยู่ชิดกันจึงทำให้สามารถทำสีได้อย่างสะดวก สีของไม้แท้ๆจะมีสีน้ำตาลอ่อน ลวดลายของวงปีจะคล้ายๆกัน ไม่มีแปลกแยกเท่าใดนัก เป็นไม้หลักที่ Fender นำมาใช้ทำลำตัวมาอย่างยาวนาน ให้ความสวยงามในการทำสีทั้งแบบ Naturel Sunburst และสีทึบ ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:34:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 2

2.Ash (Fraxinus Americana) นิยมใช้กัน 2 ชนิดคือ Northern Hard Ash กับ Swamp Ash (Southern Soft Ash) ชนิด Hard Ash จะมีเนื้อที่แข็ง หนัก และแน่นกว่า น้ำหนักก็หนักกว่าไม้หลายชนิด ด้วยเนื้อที่แน่นนั้นทำให้เสียงที่ได้มีความใส และค้างยาว จึงเป็นที่นิยมกัน สีตามธรรมชาติจะเป็นสีครีม แต่บริเวณแกนอาจมีสีอมชมพูจนถึงน้ำตาลได้
มีรูเสี้ยนค่อนข้างห่าง ทำให้เวลาทำสีต้องใช้เวลามากในการทำสีกลบรูเสี้ยนจนเต็มเพื่อผิวที่เรียบ ส่วนชนิด Swamp Ash นั้นจะมีราคาที่ย่อมเยาลงมาหน่อย เป็นไม้ที่ให้เสียงที่เป็นดนตรี ให้ความสมดุลระหว่างเสียงที่ใสกับอบอุ่นได้อย่างลงตัว มีความนุ่มนวลระรื่นหู เนื่องจากมีน้ำหนักที่เบากว่าจึงทำให้เป็นที่นิยมมากกว่า Fender ในยุค '50s นั้นจะทำมาจาก Swamp Ash เป็นส่วนใหญ่ เนื้อไม้ธรรมชาติมีลายวงปีจะขึ้นชัดเจนสีครีม เป็นไม้ที่นิยมนำมาทำสีแบบใสมองทะลุเห็นเนื้อไม้
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:36:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 3

3. Basswood (Tilia Americana)
(เป็นไม้ยอดนิยมเพราะราคาไม่เเพง ในกีต้าร์จีน หรือกีต้าร์ถูกๆหลายๆยี่ห้อ ในยุคปัจุบัน )
เป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบา เนื้ออ่อน เนื้อไม้มีสีขาวและ มีจุดสีเขียวปนอยู่บนเนื้อด้วย
มีเสี้ยนที่อยู่ชิดกัน สามารถดูดซับสีได้หลากหลาย รูปแบบ
แต่ไม่เหมาะกับการทำสีแบบใส ให้เสียงที่ออกไปทางอบอุ่น
เป็นไม้ที่ Ibanez นิยมนำมาทำลำตัวกีตาร์มากกว่าใคร
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:38:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 4

4.Bubinga (Guibourtia Demeusei) เป็นไม้เนื้อแข็ง นิยมนำมาทำคอของ Bass และปะหน้าเพื่อความสวยงาม ใช้ทำ Fretboard ของกีตาร์ Rickenbacker
ส่วน Warwick กับ Tobias นิยมนำมาทำลำตัวเบส สำหรับการใช้ทำคอจะให้เสียงกลางที่สดใส และเสียงทุ้มที่หนาดีมาก เนื่องจากมีน้ำหนักมากจึงนิยมนำมาใช้ปะเป็นไม้หน้าของกีตาร์เท่านั้น ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:40:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 5

5.Goncalo Alves (Astronium Fraxini Folium) เป็นไม้เนื้อแน่น และเรียบ
ผิว เป็นมันลื่น อยู่ได้โดยไม่ต้องทำสีทับ เนื้อไม้มีสีน้ำตาลสลับลายสีช็อคโกแลตเข้ม บริษัท Smith&Wesson ใช้เป็นไม้ทำด้ามปืน (เกี่ยวกันไหมเนี่ย!) เนื้อไม้ให้เสียงที่อบอุ่นและสะอาด ส่วนใหญ่จะใช้ทำคอ และปะหน้าลำตัว
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:41:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 6

Goncalo Alves

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:43:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 7

6.Koa (Acacia Koa) ถ้าใครยังจำกีตาร์ของคุณ Pop(The Sun) ในยุคที่เป็นหิน เหล็ก ไฟ ได้ กีตาร์ตัวนั้นใช้ไม้ชนิดนี้ครับ เป็นไม้ที่มีลายสวยงาม แหล่งผลิตหลักคือเกาะฮาวาย แต่มีออกมาในจำนวนจำกัด เนื้อไม้มีน้ำหนักไม่คงที่อยู่ในช่วงหนักปานกลางจนถึงหนักมาก ให้เสียงที่ดีมากในการใช้ทำลำตัวของเบส เป็นไม้ที่ให้เสียงอบอุ่นแบบเดียวกับ Mahogany แต่จะมีความใสมากกว่านิดหน่อย สามารถเคลือบด้วยน้ำมันได้ แต่จะดูดีกว่าถ้าทำสีแบบใส
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:44:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 8

7.Figured Koa (Acacia Koa) มีความสวยงามแตกต่างออกไปตรงมีลายขวาง (Flame) นิยมใช้เป็นไม้ปะหน้าแบบบาง ซึ่งเสียงก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก Koa
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:45:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 9

Figured Koa

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:45:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 10

8.Korina, Black (Terminalia Superba) ชื่อจริงๆคือ Limba จากแอฟริกา มีน้ำหนักปานกลาง ให้เสียงที่อบอุ่นแบบเดียวกับ Mahogany บางครั้งจะพบที่มีสีเขียวมะกอกปนเสี้ยนสีดำ เป็นไม้ที่นิยมนำมาทำเบส ผิวให้ความรู้สึกมันลื่น
ใช้วิธีเคลือบน้ำมันจะดีกว่าการทำสีทับ

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:46:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 11

9.Korina, White (Terminalia Superba) ชื่อจริงๆคือ Limba จากแอฟริกา มีน้ำหนักปานกลางจนถึงหนักมากมาก ให้เสียงที่อบอุ่นแบบเดียวกับ Mahogany บางครั้งจะพบที่มีสีเขียวปนเหลืองอ่อน ซึ่งจะดูดีมากหากย้อมด้วยสีเหลือง เป็นไม้ที่นิยมนำมาทำเบส ผิวให้ความรู้สึกมันลื่น ใช้วิธีเคลือบน้ำมันจะดีกว่าการทำสีทับ
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:48:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 12

9.Lacewood (Cardwellia Sublimis) เป็นไม้ที่มีกำพืดอยู่ใน Australia มีน้ำหนักปานกลาง ลายของไม้จะเป็นจุดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ในแบบเฉพาะตัว ให้ความสวยงามมากในการนำมาปะด้านหน้าแบบเข้าคู่กัน ให้เสียงในแบบเดียวกับ Alder
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:49:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 13

10.Mahogany เป็นไม้ที่มีความหนักปานกลางจนถึงหนักมาก
มีเสี้ยนที่ละเอียด ให้เสียงอบอุ่น เต็ม และค้างยาว เสี้ยนมีรูพรุนแต่ทำสีปิดง่าย
ให้ความสวยงามพอใช้ในการทำสีแบบใส จะดูดีกว่าเมื่อทำสีแบบแดงใส
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:51:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 14

11.Maple (Acer Saccharum-Hard Maple)(Acer Macrophyllum-Pacific Maple) มีอยู่สองชนิดคือ Eastern Hard Maple (hard rock maple) กับ Western Soft Maple (Maple ใบใหญ่) Hard Maple เป็นไม้เนื้อแข็ง หนัก และเนื้อแน่น นิยมนำมาทำคอกีตาร์ ลายเสี้ยนจะอยู่ชิดกัน ทำสีได้ง่าย เสียงจะมีความใสและค้างยาวมาก ปนฮาร์โมนิคแหลมๆ เป็นไม้ที่ย้อมสีไม่ได้ เหมาะกับการทำสีแบบใส Soft Maple มีน้ำหนักเบากว่าแต่มีสีขาวเหมือนกัน ให้เสียงที่สดใส ปนแหลม และมีหัวเสียง เนื้อไม้มีความเหนียวมากกว่า Hard Maple ที่เปราะกว่า
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:52:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 15

12.Birdseye Maple (Acer Saccharum-Hard Maple) ไม้แบบนี้พบได้จาก Hard Maple จะเป็นตาจุดๆแถวๆรอบนอกของลำต้นเท่านั้น นิยมใช้เป็นไม้ปะหน้าของลำตัว
ลักษณะสีธรรมชาติของไม้ชนิดนี้

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:53:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 16

13.Flame Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) เรียกกันไปต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็น ลายเพลิง หรือลายเสือ เป็นต้น มีลายตามขวางที่ชัด เป็นริ้วยาว นิยมใช้เป็นไม้ปะหน้าทั้งแบบ 1 ชิ้น และ 2 ชิ้น แต่ต้องเป็นแบบจับเข้าคู่กัน
นิยมเอามาแปะหน้า กีต้าร์ทรง LP

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:55:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 17

14.Quilted Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) จะมีลายขวางแบบบิดไปบิดมาเป็นคลื่นๆ มองดูเหมือนปุยเมฆ หรือคล้ายข้าวโพดคั่ว เป็นไม้ที่ค่อนข้างหายาก รูปร่างของลายมีแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ก็จะนำมาใช้ปะหน้าลำตัวเช่นเดียวกัน

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:57:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 18

15.Spalted Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) ไม้แบบนี้ส่วนใหญ่มักจะมาจากต้นไม้ที่ยืนตาย เส้นสีเข้มๆนั้นจะเกิดมาจากเชื้อรา เป็นไม้เนื้ออ่อนนิยมนำมาปะหน้าลำตัวแบบ Flat top เวลาทำสีจะค่อนข้างลำบากและเปลืองเพราะดูดสีมาก จะดูดีมากกับสี Tobacco Burst

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 20:59:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 19

16.Burl Maple (Acer Macrophyllum-Pacific Maple) มีลายที่ดูยุ่งเหยิงพอสมควร เเต่เป็นไม้ที่ดูมีสเน่ย์มาก และมักจะพบรูกับรอยแยกปนอยู่ด้วย
การอุดช่องว่างนั้นสามารถใช้ Epoxy อุดได้
มักใช้เป็นไม้ปะหน้า และนิยมทำสีแบบเงาใส
นิยมทำใน Bass ตัวเป็น 1xx,xxx

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 21:01:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 20

17.Rosewood นี่ ถือเป็นไม้ที่มีน้ำหนักมากที่สุด ที่ใช้ทำลำตัวของ Strat® ซึ่งก็น่าจะหนักประมาณ 6 ปอนด์ เราใช้ไม้ต่างสายพันธ์หลายชนิดเท่าที่โอกาสจะอำนวย แต่ถ้าจะให้เหนือกว่าคนอื่น เราเลือก พาลิซานเดอร์ เรดวู๊ด ด้วยเสียงที่ อุ่นกว่าเมเปิ้ล แต่ในย่านสูงอาจจะฟังดูซึมๆ อาจจะเนื่องมาจากน้ำมันในเนื้อไม้เองก็เป็นไปได้ การลงสีเคลือบเงาถือว่ายุ่งยากนิดหน่อย

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 21:04:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 21

18.Ebony เป็นไม้ที่หนักแน่น แต่นุ่มนวล ให้ความรู้สึกลื่นไหลยามสัมผัส
เสียงที่สดใสและยืดยาวเป็นพิเศษ, ลายเสี้ยนสีน้ำตาล ช๊อกโกเลท ลายเส้นตรง
นับว่าเป็นสิ่งหายาก เป็นตัวเลือกแรกสุดในการผลิตฟิงเกอร์บอร์ด
หรือนำมาผลิตเป็นคอทั้งชิ้นในโอกาสอันพิเศษสุด !!
ถ้านำไม้ชนิดนี้มาทำกีต้าร์ หน้าตาจะออกมาประมาณในรูป

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 21:07:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 22

19.Poplar (Liriodendron Tulipifera) ไม้ชนิดนี้จัดเป็นไม้ที่ใช้ทำลำตัวมาตรฐานอีกชนิดที่ทางโรงงานต่างๆเลือกใช้ กันมาอย่างช้านาน มีโทนสีเทา/เขียว
เนื้อไม้เป็นเสี้ยนละเอียดไม่เป็นหลุมลึก ทำสีได้สะดวกดีจึงนิยมทำสีทึบปิด
น้ำหนักของไม้จะหนักกว่า Alder อยู่นิดหน่อย
แต่โทนเสียงจะเหมือนหรือคล้ายกับ Alder

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 21:09:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 23

20.Figured Walnut (Juglans Nigra) เป็นไม้ลายสวย ขึ้นลายเด่นชัด
นิยมนำมาปะหน้าลำตัวเพื่อความสวยงาม

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 21:10:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 24

กระทู้นี้ ผมตั้งเพื่อให้คนที่ยังไม่รู้ได้อ่าน หรือ อยากจะรู้ข้อมูลต่างๆ ได้ลองอ่านดูครับ
ถ้าผมว่างๆจะหา ข้อมูลเกี่ยวกับ คาปาซิเตอร์ ของกีต้าร์ยี่ห้อดังๆ มาโพสให้ชมกันต่อครับ^^
ขอบคุณ ภาพและข้อมูล จากเว็ปนอก เเละ ทุกๆท่านที่เข้ามารับชมครับ

lop519

21 ก.พ. 57 เวลา 21:16:00 IP = 14.207.25.28

คำตอบที่ 25

...ขอบคุณ สำหรับความรู้ ดีๆ คั่บ....ฟิ้วววๆๆๆ

PooKem

21 ก.พ. 57 เวลา 21:26:00 IP = 171.6.248.132

คำตอบที่ 26

ขอบคุณครับ สำหรับความรู้เรื่องไม้ต่างๆๆจร้า

old_man

21 ก.พ. 57 เวลา 21:28:00 IP = 171.98.139.216

คำตอบที่ 27

ขอบคุณครับ.

kong3k 21 ก.พ. 57 เวลา 23:27:00 IP = 1.4.187.149

คำตอบที่ 28

ขอบคุณมากๆครับ สำหรับความรู้ครับ เยี่ยมจริงๆ

แต่ขออนุญาติชี้แจงนิดนึงครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดนะครับ
http://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=389163