สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน วันนี้ผมจะมาว่ากันถึงเรื่องการใช้คอร์ดที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อพี่น้องครับ อันดับแรกที่จะพูดถึงคือ คอร์ดแทน หรือ sub stitution cord คอร์ด คอร์ดนี้จะอยู่ในรูปของ dominant7 สร้างขึ้นโดยลดตัวที่ 2 ของเมเจอร์สเกลลงครึ่งเสียง ใช้แทนคอร์ด V7 หรือคอร์ดที่ห้าที่เป็นโดมิแนนท์นั่นเอง ตัวอย่าง ในคีย์ C โน๊ตตัวที่สองของ C คือ D ลดมาครึ่งเสียงเป็น Db เราก็จะได้คอร์ด Db7 มาใช้แทนคอร์ด G7 ซึ่งเป็นคอร์ดที่ห้าของคีย์ C นั่นเอง เช่นคีย์ C ปกติเราวางคอร์ด C Dm G7 C ก็จะกลายมาเป็น C Dm Db7 C นั่นเอง เหตุที่มันแทนกันได้เพราะว่าทั้งสองคอร์ดนี้มี ไตรโทน คู่เดียวกัน เช่น ในคอร์ด G7 มีโน๊ต G B D F ในคอร์ด Db7 มีโน๊ต Db F Ab Cb(B) จะเห็นว่าทั้งสองคอร์ดมีโน๊ต B กับ F ซึ่งเป็นคู่ ไตรโทน เหมือนกันนั่นเอง
Parallel Major ก็คือคอร์ดคู่ขนานทางเมเจอร์ หลักการใช้ก็ง่ายๆ คือ ถ้าคอร์ดข้างหน้าเป็นเมเจอร์ คอร์ดต่อมาก็เป็นคอร์ดเมเจอร์เช่นกัน เช่น C E F A Bb G C ใช้หูเป็นการตัดสินเลยว่าจะใช้คอร์ดอะไร ง่ายๆเลย
Parallel Minor ก็เหมือนกันกับเมเจอร์ เช่น Am Gm Fm Cm ก็ใช้หูเราตัดสินเลยเหมือนกัน ตามความชอบเลยครับ
Modulation คือเพลงที่มีการย้ายคีย์เซ็นเตอร์ แต่การย้ายคีย์นี้จะไม่เหมือนกับการ Transpost เพราะการทรานโพสท์เป็นการทดคีย์ให้สูงหรือต่ำเท่านั้น แต่ Modolation คือการย้ายแค่บางท่อนเพื่อให้เกิดความแตกต่าง ทำให้บทเพลงมีสีสันมากขึ้น การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ก็มีหลักการอยู่หลายอย่าง เช่น Pivot chord คือ คอร์ดร่วมที่มีอยู่ทั้งสองคีย์ ตัวอย่างเช่น C Dm Am Gm F จากตัวอย่างเป็นการเคลื่อนตัวจากคีย์ C ไปหาคีย์ F โดยที่มี Am เป็น Pivot cord เพราะ Am เป็นคอร์ดหกของคีย์ C และยังเป็นคอร์ดสามของคีย์ F อีกด้วย
การนำ Secondary Dominant มาใช้เชื่อมโยงระหว่างสองคีย์ (หรือคอร์ดห้าของห้า) เช่น C B7 E7 A A7 Dm G7 C ในคีย์ C จะเห็นว่าคอร์ด B7 เป็นคอร์ดห้าของ E7 คอร์ด E7 เป็นคอร์ดที่ห้าของ A ตอนนี้เราก็มาอยู่ในคีย์ A แล้ว และแปลงเป็น A7 ซึ่งเป็นคอร์ดที่ห้าของ Dm และวิ่งเข้าหา G7 ในลักษณะ ทู-ไฟว์ เพื่อกกลับเข้าสู่คีย์ C อีกครั้ง (อนึ่ง คอร์ดที่เป็นคอร์ดหนึ่งหรือคอร์ดหลัก สามารถเคลื่อนตัวเข้าหาคอร์ดใดๆก็ได้)
คอร์ด Diminish เราสามารถใช้คอร์ดดิมินิชเป็นตัวเชื่อมหรือตัวผ่านได้ในแบบโครมาติค เช่น C C#dim7 Dm D#dim7 Em C Ebdim7 Dm G7 C