|
|
|
|
|
<_____________________________มาทำความรู้จักกับ Delay กันเถอะ____________________________> |
|
|
|
|
|
|
หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับ อุปกรณ์ที่เรียกว่า Delay กันดีอยู่แล้วแต่สำหรับคนไม่เคยใช้ อาจจะสงสัยถึงวิธีการต่อ และวิธีการใช้งานต่างๆ วันนี้พอมีเวลา อยากจะทำประโยชน์อะไรบ้างเล็กๆน้อยน้อย ให้กับบ้านหลังนี้ข้อมูลผิดถูกประการใด ช่วยกันแก้ไขได้ตามสบาย เต็มที่เลยนะครับ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 14:31:00
พิมพ์
แจ้งลบ IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 1
|
|
|
|
จะขอใช้ DigiTech HardWire DL-8 เป็นตัวอย่างนะครับ เพราะใช้ง่ายไม่ซับซ้อนและยังมี Function ค่อนข้างครบครับ
Amplifier Setup
นี่เป็นข้อดีของ Delay ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ Digital Delay ส่วนใหญ่จะมี 2 Input และ 2 Output ถ้าเราต่อ กีต้าร์ไปที่ Input 1 เสียงจะออก ที่ Output 1 และ Output 2 ไม่ว่าจะเปิดหรือปิด Delay ใครที่มี Amp 2 ตัว ลองต่อแบบนี้ดูจะรู้สึกถึงความกว้างของเสียงที่เพิ่มมากขึ้น และขับศักยภาพของ Delay ออกมาได้มากที่สุด ในMode ของ Modulate,Slapback,Reverse และ Loop จะทำงานแบบ Ping pong เอา Amp สองตัววางห่างๆกันลองฟังเสียงดู สนุกดีเหมือนกันครับ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 14:35:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 2
|
|
|
|
หรือถ้าเรามี Effect ประเภท อื่น ที่มี 2 Output เราก็เอามาต่อ ที่ Input 2 ได้อีกมันจะประมวลผลให้ออก Output 1 และ Output 2 แยกกัน ในภาพจะเป็นการต่อ Output เข้าที่ Input ของแอมป์เลยตรงๆ ซึ่ง นั่นคือเสียง Delay จะไปผ่านภาคขยาย ปรีแอมป์ของแอมป์ ด้วย ซึ่งถ้าภาคปรีแอมป์เราเปิดเกนไว้เยอะๆ จะทำให้ เสียง Delay เราแตกหนักเข้าไปอีก เสียงก็จะไม่น่าฟัง ยังไม่นับว่าถ้าเราจะมี Effect ก้อนเสียงแตกอื่นๆ อยู่ก่อนหน้า Delay นะครับ นั่นยิ่งเละเลย ก็จะมีวิธีต่อ ที่เราเรียกว่าต่อเข้า Send Return ของแอมป์
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 14:39:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 3
|
|
|
ขอบคุณครับ
ผมรีเฟรชรอเรื่อยๆเลยนะครับ ^ ^"
SaveMyWife
11 ก.ค. 56
เวลา 14:40:00 IP = 210.246.148.28
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 4
|
|
|
|
Effect Setup การต่อแบบในภาพสามารถใช้ได้กับ Effect ทุกชนิดในกลุ่ม Delay และ Modulation นะครับ เช่นพวก Phaser,Chorus,Tremolo,Reverb หรือ พวกบูสคลีนต่างๆก็ยังได้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อป้องกัน ไม่ให้เสียง ที่ Modulate แล้วไปผ่าน Preamp ของแอมป์ หรือการต่อ กีต้าร์เข้าปรีแอมป์ด้านนอกเช่นพวก Amp Simulate ที่มีอยู่ใน MultiEffect ต่างๆ ก็สามารถต่อตรงเข้าไปที่ Return ของแอมป์ได้เลย ตรงนี้ไม่สามารถจะบอกได้ครับว่าต่อแบบไหนได้เสียงดีกว่ากัน ต้องลองดูแล้วถามหูของตัวเราเองครับ เพิ่มเติม ถ้าแอมป์เรามี Mix Control ที่ Send Return ก็ให้ปรับไปที่ 100% Full wet นะครับเป็นการปรับความดังของ Effect ที่เราเอาไปต่อใน Loop ครับ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 14:45:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 5
|
|
|
SaveMyWife ยินดีครับ ถ้ามีคนติดตาม ไม่อยากอยู่คนเดียว 555
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 14:46:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 6
|
|
|
|
ก่อนอื่นต้องอธิบาย 4 ปุ่ม(Knob) หลักที่ใช้งานก่อนครับ ซึ่ง 3 ปุ่มแรก
LEVELหรือMIX ,REPEATS หรือ FEEDBACK และ TIME เป็น ปุ่มหลักที่ Delay ทุกตัวต้องมีครับ ดูรูปภาพของ DL-8 ประกอบนะครับ
ปุ่มที่ 1 LEVEL ใช้ปรับความดังเบาของเสียงตาม เสียงหลักจะไม่ดังเพิ่มนะครับ ตรงนี้ถ้าปรับมากไป มันจะฟังดูรกๆ ปุ่มที่ 2 REPEATS ใช้ปรับจำนวนของเสียงตามครับ เสียงตามจะค่อยๆเบาลงจนหายไปในที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ฮัลโหล โหล โหล โหล โหล แสดงว่ามีเสียงตามอยู่ 4 ครับ ผมชอบปรับไว้ซัก 3 ครับกำลังดี ปุ่มที่ 3 TIME ใช้ปรับเวลาที่ห่างกันของเสียงตามว่าจะให้ห่างกันนาน กี่ ms เช่น DL-8 ปรับได้นานที่สุด 8 วินาที ถ้าเป็นพวก Analog Delay จะให้มาไม่เกิน 1 วินาที ปุ่มนี้สามารถปรับย่านเวลาจากหมุนซ้ายสุดมาขวาสุด ได้จากการปรับปุ่มที่ 4
สามปุ่มนี้ หลายท่านที่เคยใช้ Delay อยู่แล้วจะเข้าใจได้ดีครับ แต่คนที่ไม่เคยใช้ อาจนึกภาพยากหน่อย
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 14:53:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 7
|
|
|
เจ๋งเลยฮะ ^^
Unfaithful
11 ก.ค. 56
เวลา 14:56:00 IP = 101.109.216.37
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 8
|
|
|
เยี่ยมเลยครับท่าน
จิ๊กกาโร่แมน
11 ก.ค. 56
เวลา 15:12:00 IP = 223.206.124.251
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 9
|
|
|
|
Unfaithful ยาวยาวไปครับ 55 ก่อนต่อไปยังปุ่มที่ 4 ผมพยายามจะอธิบายคำถามที่พบพบบ่อยที่สุด ความแตกต่าง ของ Analog Delay กับ Digital Delay อาจจะสรุปได้สั้นๆครับ ว่า Analog Delay เสียงตามมันจะขุ่นกว่า Digital Delay เสียงตามจะใสกว่า ง่ายไปมั๊ยครับ 55 ยังไงก็คงต้องฟังเอาเองครับ สุดท้ายแล้วจะเลือกแบบไหนก็แล้วแต่จริตความชอบของแต่ละบุคคลครับ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 15:14:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 11
|
|
|
|
กลับมาต่อกันที่ปุ่มที่ 4 ครับ ปุ่มที่ 4 Type หรือ เอาไว้ปรับ Mode 11 Mode คือ Mode ที่ 1 0.5 ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 10-500 ms Mode ที่ 2 1 ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 500 ms ถึง 1 Second Mode ที่ 3 2 ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 1-2 Second Mode ที่ 4 8 ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 2-8 Second Mode ที่ 5 REVERSE เป็นเสียงแบบ กลับทิศทางครับ เช่นเล่น โด เร มี เสียงจะออกเป็น มี เร โด ประมาณนั้น ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 500 ms - 4 seconds. Mode ที่ 6 MODULATED เป็น เสียง Digital Delay ที่ผ่านการปรุงแต่งมาแล้ว โดยการใส่คอรัสไปที่หางเสียง ให้เสียงมีมิติและชุ่มฉ่ำขึ้น ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 100 ms - 1 seconds. Mode ที่ 7 ANALOG เลียนเสียงของ Analog Delay ครับ เสียงจะขุ่น ขุ่น vintage หน่อย ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 35 ms - 1 seconds. Mode ที่ 8 SLAPBACK ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 80 ms - 500 ms Mode ที่ 9 LO FI น่าจะหมายถึงปรับย่านเสียงต่ำให้ชัดขึ้น ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 100 ms - 1 seconds. Mode ที่ 10 TAPE เลียนเสียงของ Delay ต้นกำเนิดแบบ Tape Echo ให้นึกถึงเสียงที่ออกมาจาก Cassette tape สมัยก่อนครับ ปรับย่านของปุ่ม Time ได้ตั้งแต่ 100 ms - 1 seconds. Mode ที่ 11 LOOP ทำ LOOP ได้ยาว 20 วินาทีสามารถทับซ้อนกันได้อย่างไม่จำกัด เรียกได้ว่า 20 วินาทีที่ให้มาสามารถทำเพลงออร์เคสตร้าได้เลยถ้าสามารถ เวลาของ Mode ที่ 1 – 10 สามารถเพิ่มได้ครับ จากการเข้าโหมด Tap Tempo นั่นคือถ้าเข้าโหมดนี้แล้วมันจะไม่มาอ่านค่าที่ปุ่ม 3 เลย ไปฟังจังหวะกดสองครั้งที่เท้าเราแทน หรือบางรุ่นก็จะฟังจังหวะดีดสองครั้งจากกีต้าร์เรา อะไรมันจะสะดวกขนาดนั้นน้า
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 15:27:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 12
|
|
|
รอชมครับ :)
junraiman
11 ก.ค. 56
เวลา 15:31:00 IP = 61.47.106.226
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 13
|
|
|
|
จิ๊กกาโร่แมน ขอบคุณครับท่าน
นี่เป็นเสียงของ Analog Tape Delay ของแท้ เสียงเจ๋งดีนะผมว่า แต่สู้ราคาไม่ไหว 555
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 15:39:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 14
|
|
|
|
junraiman ยินดีครับ
มาถึงการใช้งาน Tap Tempo ครับ ส่วนใหญ่จะเหมือนๆกัน บางรุ่นก็ใช้เท้าเหยียบ สองครั้ง บางรุ่นก็ใช้ปิ๊คดีดกีต้าร์สองครั้งบางรุ่นไม่มีในตัวต้องต่อ Switch ภายนอกแยกออกมา
สำหรับรุ่นตัวอย่างจะใช้ได้ใน Mode ที่ 1-10 ปรับเลือกเสียงที่ชอบแล้ว จากนั้น กด Pedal ค้างไว้ 2 วินาทีครับ ไฟสีเขียวกระพริบเมื่อไหร่ ก็คือใช้ได้แล้วครับ วิธีใช้คือ กด Pedal อีกสองครั้งติดกัน ห่างกันแค่ไหนเสียงตามก็จะห่างเท่านั้นครับ สามารถกดอีกสองครั้ง ได้ตลอดเวลา เวลาเปลี่ยนเพลงที่มีจังหวะเปลี่ยนไป จะออกจาก Function นี้ได้โดยการ กด Pedal ค้างไว้ 2 วินาทีครับ ไฟสีแดงจะติด ทีนี้เครื่องมันก็จะไปอ่านเวลาที่ปุ่ม 3 หรือ TIME ที่เราตั้งไว้แทน
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 15:45:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 15
|
|
|
|
Tails Switch (สวิตช์หางเสียง) ใน Delay Pedal ที่เป็น True Bypass ส่วนใหญ่จะมีส่วนนี้มาให้ ในรุ่นที่ยกตัวอย่างนี้ ต้องเปิดที่เปลี่ยนถ่านออก จะพบ Switch เล็กๆ อยู่ เรียกว่า Tails Switch เราจะสังเกตได้ว่าหากเราปิด Delay ในขณะที่เปลี่ยนท่อนเพลง เสียงตามทั้งหมดจะหายไปทันที เนื่องจาก True Bypass Switch จะตัดวงจรทั้งหมดออก ทำให้เสียงอาจฟังดูไม่ต่อเนื่องหรือ สะดุด เค้าถึงออกแบบ Tails Switch มาแก้ปัญหาในส่วนนี้ ถ้าเรา Tails ON และปิด Delay เสียงตามจะยังคงอยู่และค่อยๆ Fade out ไป โดย Delay จะ Switch ไปยังวงจร Buffer ภายในทดแทน นั่นคือDelay จะไม่เป็น True Bypass แล้ว
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 15:57:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 16
|
|
|
|
เทคนิคสนุกๆ อีกอย่างหนึ่งของ Delay ก็คือการทำ Feedback Generator ครับ มีบางคนเลือกซื้อ Delay โดยดูเสียงตรงนี้กันเลยทีเดียว ว่าเจ๋งมั๊ย ถึงขั้นหยิบเอา function นี้มาขายกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าเอาไปใช้ที่ไหน อาจจะเป็นซาวแทรคอวกาศ หรือเอาไว้ ประกอบหนังเด็กแว้นมั้ง 555
วิธีทำก็ง่ายง่าย ปรับปุ่ม Repeats,Feedback,Regen หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ ให้สุดเลยครับ จะเกิดเสียง Feedback ที่ซ้ำๆกัน มากๆ แล้วเราก็ปรับ TIME กับ Feedback เพิ่มลดเพื่อเปลี่ยนเสียงครับ ทำเสียงมอเตอร์ไซค์ ไว้อวดสาวได้ครับ อิอิ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 16:17:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 17
|
|
|
เยี่ยมไปเลยครับกระทู้ดีๆแบบนี้
ฝากถามนิดนึงครับ Delay นี่ถ้าเราต่อเข้า Loop Switcher แล้ว
โดยไม่ได้ต่อ Delay เข้า Send Return ของหัวแอมป์ เสียงมันจะเละไหมครับ
sryche13
11 ก.ค. 56
เวลา 16:30:00 IP = 125.25.233.205
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 19
|
|
|
เลิกงานแล้วขออนุญาติเก็บของกลับบ้านก่อนนะครับ ค่ำๆ จะต่อเลยทันทีครับ จะมาต่อกันเรื่อง การใช้งาน LOOPER และ การปรับตั้ง TIME ครับ เพราะเป็นเรื่องสำคัญมาก
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 16:50:00 IP = 125.25.9.140
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 20
|
|
|
เจ๋งเลยครับ ผมไม่รู้เรื่องเลย มีก็เสียบๆ มันเข้าไป
SPECIAL
11 ก.ค. 56
เวลา 16:55:00 IP = 116.68.148.149
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 24
|
|
|
ถึงบ้านแล้วครับ ฝนตกรถติด อาบน้ำ ปะแป้งแล้วมาต่อกัน
sryche13 Loop Switcher นี่หมายถึง LOOP ที่ทำ True Bypass รึเปล่าครับ ถ้าใช่ ก็คงไม่ต่างกันครับ การต่อ Send Return ส่วนใหญ่ทำเพื่อหลบเสียงแตกในภาคปรีแอมป์ของ Amp ครับ เพราะโดยหลักการแล้ว Delay ควรต่ออยู่ท้ายๆ ของบอร์ด คือผ่านเสียงแตกมาก่อนแล้วค่อยเข้า Delay แต่ถ้าเราไปเปิดเสียงแตกที่ แอมป์เราเพิ่ม หางเสียงก็จะแตกพร่าหนักเข้าไปอีก แต่ถ้าเราไม่ได้เปิด gain ที่ Amp ของเราเยอะ มองว่าปรีแอมป์มันก็คือ คลีนบูสครับ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
Solo man 007 ขอบคุณครับ ติดตามกันต่อครับ
SPECIAL พี่พิเศษครับ ถ้าพี่ไม่รู้ใครจะรู้ครับ ในกีต้าร์ไทย 555 ทุกวันนี้ผมยังด้อมมองเล็งกีต้าร์ในกระทู้พี่อยู่เลย แต่ละตัวแจ่มๆทั้งนั้น Fender ตัวนั้น ผมขายรับประทานไปแล้วครับ 555
jamezot007 ,ชิตชัย ติดตามกันต่อครับ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 18:14:00 IP = 27.145.146.23
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 25
|
|
|
|
การใช้งาน LOOP ใช้โดยหมุนปุ่มที่ 4 ไปที่โหมด LOOP กด Pedal ค้างไว้ ไฟสีแดงจะกระพริบ นั่นแสดงว่าพร้อมบันทึกแล้ว จากนั้นเริ่มเล่นเลยครับ เท้ายังต้องกดค้างไว้นะครับ เล่น 4 คอร์ดวนอมตะ ไฟจะเปลี่ยนเป็นสีแดงค้าง เล่นจบแล้วก็ปล่อยเท้าครับ ไฟสีเขียวค้างจะขึ้นพร้อมเล่น 4 คอร์ดอมตะที่เราเล่นไปแล้ว ถ้าอยากจะเล่นไลน์เบสทับอีกชั้น ก็กด Pedal ค้างไว้อีกไฟจะเป็นสีแดงค้าง เล่นเสร็จก็ปล่อยครับ ไฟสีเขียวค้างจะขึ้นพร้อมเล่นไลน์เบสทับ 4 คอร์ดอมตะที่เราเล่นไปแล้ว แค่นี้เราก็ Solo เลยครับ พร้อมโชว์สาวๆแล้ว 55
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 18:33:00 IP = 27.145.146.23
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 26
|
|
|
ได้ความรู้ดี ขอบคุณครับ
po-ke bend
11 ก.ค. 56
เวลา 18:36:00 IP = 125.25.177.194
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 27
|
|
|
|
การบันทึกกระบวนการของมันจะมีดังนี้คือ 1.จะมีความยาวหลักได้เท่ากับ Track แรก(การกดค้างครั้งแรก)ที่เราบันทึกนะครับ 2.ถ้า Track ที่สอง(กดค้างครั้งที่สองตรงกับ Track แรก) เราบันทึกแล้วเกินจาก Track แรก วงจรมันจะตัดไปอยู่ Track ที่ 3 ครับ 3.เพราะฉะนั้นเสียงที่ออก ณ ช่วงต้นของแต่ละ Track ก็จะคือ Track 1(กดค้างครั้งที่1)+Track 2 (กดค้างครั้งที่สอง)+เสียงจาก Track ที่2 ที่เกินมา ฟังดูงง งง นะครับ เอาเป็นว่า ง่ายๆคือ กดให้ตรงจังหวะ และการกดครั้งที่สองอย่าเล่นให้เกินเวลาจากการกดครั้งแรกแล้วกันครับ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 19:12:00 IP = 27.145.146.23
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 28
|
|
|
po-ke bend สวัสดีครับ ตามกันต่อครับ
เรื่องสุดท้ายที่สำคัญมาก กับอุปกรณ์ที่เรียกว่า DELAY คือการปรับ TIME ครับ ว่าเหมาะสมที่สุดคืออย่างไร ใครเพิ่มเติมตรงนี้ได้ เพื่อให้เคลียร์ ได้เลยนะครับ เพราะผมก็ไม่รู้ว่ามันจะครบถ้วน ถูกผิดประการใด
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 19:14:00 IP = 27.145.146.23
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 29
|
|
|
อยากให้มีกระทู้แบบนี้เยอะๆ ครับ ขอบคุณครับสำหรับความรู้ ^^
DIMOND-EYES
11 ก.ค. 56
เวลา 19:20:00 IP = 125.27.81.241
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 30
|
|
|
|
นี่เป็นตัวอย่างที่ดี ของการใช้ LOOP ที่คุ้มค่าครับ เค้ามีอุปกรณ์ง่ายๆ แต่ทำแล้วได้ตังค์ครับ มันอยู่ที่ว่าเราจะขับศักยภาพของตัวเองออกมาได้แค่ไหน อุปกรณ์มันก็แค่เครื่องมือครับ
มาถึงเรื่องการปรับ TIME
การปรับ TIME วิธีการ ปรับ TIME มี 2 วัตถุประสงค์ครับ 1.ปรับเพื่อเพิ่มมิติ ของเสียง ทำให้เสียงหนาขึ้น ใช้ประโยชน์จาก การ Modulate ของเสียง วิธีการคือตั้ง Delay Time ให้น้อยๆ Repeats ตั้งให้เท่ากับ 1 เสียงตาม
2.ปรับตาม TEMPO ของเพลง
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 19:24:00 IP = 27.145.146.23
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 31
|
|
|
|
ผักหวาน ,DIMOND-EYES ขอบคุณเช่นกันครับ
สมมุติว่า เพลงมี TEMPO 100 แปลว่าเพลง มี 100 จังหวะ(ตกและยก)ต่อนาทีหรือ 60 วินาที ถ้า 1 จังหวะ แต่ละจังหวะจะห่างกัน 60/100 วินาที หรือ 600 ms ต้องใช้บัญญัติไตรยางศ์นิดหน่อยครับ ใครว่าเล่นดนตรีแล้วไม่ต้องเก่งคณิตศาสตร์ อิอิ
ต่อ ต่อ สมมุติว่าเราต้องการให้มีโน๊ตตาม 4 โน๊ตใน 1 จังหวะ แสดงว่าเราต้องตั้ง TIME เท่ากับ 600ms/4 นั่นคือ ตั้ง Time = 150 ms
อีกซักตัวอย่างถ้าเราต้องการให้มีโน้ตตาม 3 โน้ตใน 1 จังหวะ แสดงว่าเราต้องตั้ง TIME เท่ากับ 600ms/3 นั่นคือ ตั้ง Time = 200 ms ทั้งนี้ทั้งนั้นจะเอากี่โน้ตตาม ก็ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของเพลงครับ
แต่ในทางปฏิบัติ ก็คงไม่มีใครมานั่งคำนวณได้ทันก่อนเล่นหรอกนะครับ 55 ก็คงใช้วิธีฟังเสียงกระเดื่องกลองเอา แล้วปรับครับจะเอากี่เสียงตามก็นับในใจแล้ว กดที่ Pedal เลย 2 ครั้ง
ใครมีแนวทางที่ดีกว่านี้ก็แนะนำกันได้นะครับ
สุดท้าย ถ้าเราสามารถตั้งเวลาของกิจกรรมในชีวิตเราให้สอดคล้องกับ จังหวะโอกาสของชีวิตเราได้ พอเสียงของชีวิตจบลง มันคือเพลงที่สวยงามน่าฟังครับ
SaNTaNa_T
11 ก.ค. 56
เวลา 19:39:00 IP = 27.145.146.23
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 32
|
|
|
ขอบคุณมากครับ
sryche13
11 ก.ค. 56
เวลา 19:49:00 IP = 1.2.190.92
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 33
|
|
|
ขอบคุณมากครับ
sakai 11 ก.ค. 56
เวลา 19:56:00 IP = 113.53.153.172
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 34
|
|
|
มาลงชื่อครับ ความรู้มากมาย
witarn
11 ก.ค. 56
เวลา 20:08:00 IP = 49.48.45.195
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 36
|
|
|
เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ
พ่อลูก1
12 ก.ค. 56
เวลา 0:32:00 IP = 58.11.148.124
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 38
|
|
|
"สุดท้าย ถ้าเราสามารถตั้งเวลาของกิจกรรมในชีวิตเราให้สอดคล้องกับ จังหวะโอกาสของชีวิตเราได้ พอเสียงของชีวิตจบลงมันคือเพลงที่สวยงามน่าฟังครับ" อย่างเท่ห์เลยครับท่าน ขอบคุณสำหรับความรู้และข้อคิดที่ดีๆครับ
eid_guitar 12 ก.ค. 56
เวลา 9:12:00 IP = 202.29.187.163
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 39
|
|
|
เยี่ยมเลยครับ :)
unn08 12 ก.ค. 56
เวลา 11:58:00 IP = 124.120.226.113
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 41
|
|
|
ขอบคุณจ้ะ
bbling
12 ก.ค. 56
เวลา 14:23:00 IP = 203.155.54.251
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 42
|
|
|
พ่อลูก1 ,pompammmmm , eid_guitar , unn08 ,หนุ่มคัวยหอม ,bbling ถ้ากระทู้นี้พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง ยินดีครับ
SaNTaNa_T
12 ก.ค. 56
เวลา 20:45:00 IP = 27.145.146.23
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|