(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  .......................................... กระบวนการทำให้กีตาร์ได้ 'มาตรฐาน' ตามแบบฉบับอเมริกันสไตล์ (Americanization).  
 
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า "กีตาร์" (Guitar) เครื่องดนตรียอดนิยมที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก ที่เราต่างใช้เล่นกันอยู่ในทุกวันนี้นั้นมี "ประวัติศาสตร์" ความเป็นมาที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

(จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีพอจะสืบค้นได้ว่า ราว ๕,๐๐๐ ปีก่อนได้ถือกำเนิดเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า "ซิตารา" /Sitara/ ที่นิยมใช้กันแถบ "เอเชียกลาง" และเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของกีตาร์ในปัจจุบัน
-ก่อนจะได้รับการ "ต่อยอด" และพัฒนาคุณภาพด้านต่างๆ ทั้งด้านความสะดวก และถนัดขณะบรรเลง ตาม "บริบททางสังคมต่างๆ" การติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมหนึ่งกับอีกวัฒนธรรมหนึ่ง
/ความหมายของ "กีตาร์" และ "ดนตรี" ก็ถูกผนวกรวมกับนัยยะทางสังคมเหล่านั้น และได้แพร่กระจายไปตามอารยธรรมหลักที่มีความสำคัญต่อผู้คนในอดีต
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราจะเห็นได้จาก Harp Guitar ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกีตาร์ในปัจจุบันมาก).



mr.zippo      21 พ.ค. 56   เวลา 10:16:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 27.130.229.127
 


  คำตอบที่ 1  
 
อารัมภบทไปพอสมควร มาเข้าเรื่องตามหัวข้อกระทู้ของผม

"กระบวนการทำให้กีตาร์ได้ 'มาตรฐาน' ตามแบบฉบับอเมริกันสไตล์ (Americanization)."

เลยก็แล้วกัน..
"กีตาร์" นับเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก (อาจจะเป็นรองแค่ Harmonica หรือ Mouth Organ ที่ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำกว่ากีตาร์, และสะดวกในการพกพา, มีนัยยะเสริมในลักษณะ "ของขวัญ" "ของกำนัล" ที่ดูมีคุณค่าทางความรู้สึกต่อผู้ได้รับ -แม้จะเล่นไม่เป็นเลยก็ตาม-)

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคทุนนิยมอย่างเต็มตัว เมื่อราว ๒๐๐ ปีที่ผ่านมา "กีตาร์" เองก็ได้ถูกผลิตซ้ำความหมายในเชิงที่สอดคล้องกับชีวิตในสังคมทุนนิยม และเสรีนิยมด้วยเช่นกัน

ในช่วงต้นของศตวรรษที่ ๑๘ "กีตาร์" ก็ได้เข้าสู่กระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมเต็มตัว มีกลุ่มเป้าหมายคือ "นักดนตรี" "คนที่มีใจรักดนตรี" ทั่วโลก
โดยสหรัฐอเมริกานับเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในกิจกรรมอุตสาหกรรมเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งหมดทั้งปวงนั้นเห็นได้จาก
-C.F. Martin & Company บริษัทผลิต "กีตาร์โปร่ง" รายใหญ่ของโลกก็เริ่มต้นอุตสาหกรรมประเภทนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1833 (พ.ศ. ๒๓๗๖) จน "คุณภาพ" จากกีตาร์ (ที่ได้ถูกแทนความหมายของ Made in USA) ได้รับการยอมรับจากนักดนตรีส่วนใหญ่ของโลก และประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
-สำหรับ "กีตาร์ไฟฟ้า" นั้นได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก "กีตาร์โปร่ง" อีกทอดหนึ่ง และ "ผลิตภัณฑ์" แรกๆ ที่ผลิตออกสู่นักดนตรี/ผู้บริโภคทั่วโลกนั่นก็คือ
'Rickenbacker ' ที่ได้เริ่มอุตสาหกรรมประเภทนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1936 (พ.ศ. ๒๔๗๙) ก็เป็นบริษัทจาก "สหรัฐอเมริกา" ด้วยเช่นกัน.

   mr.zippo      21 พ.ค. 56   เวลา 10:33:00    IP = 27.130.229.127
 


  คำตอบที่ 2  
 
ผมค่อยๆพบความลับของมันไปทีละหน่อย
แต่สูตรของใครของมันแต่ละบริษัทอุบไว้อิอิ

   bbling      21 พ.ค. 56   เวลา 10:34:00    IP = 203.155.54.251
 


  คำตอบที่ 3  
 
กอปรกับอิทธิภาพ และอิทธิพลจากการ "ปฏิวัติอุตสาหกรรม" ก็ส่งผลกระทบต่อการ "เปลี่ยนแปลง" ด้านต่างๆ ของโลกไปอย่างก้าวกระโดด
ความรู้วิทยาการต่างๆ เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกไปโดยสิ้นกำเนิดขึ้นมากมาย และประจักษ์ชัดเจนที่สุดในศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1901-2000)

ในแวดวงเครื่องดนตรีต่างๆ และกีตาร์ก็เช่นกัน เสรีนิยมเปิดโอกาสให้ "ทุกคน" มีสิทธิ และสามารถดำเนินการทางธุรกิจด้วยตนเองได้อย่างเต็มที่ และวงการดังกล่าว ก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ "ตลาด" ซึ่งรองรับสินค้าประเภทนี้ค่อยๆ กระจายไปตามเมืองหลักทั่วโลก เข้าไปทุกสังคม เกือบทุกชุมชน (ที่มิได้ Isolate หรือปิดรับ "วัฒนธรรมกระแสหลักของโลก")

ดูจะสอดคล้องกันกับคำกล่าวที่ระบุไว้ว่า

"ดนตรีเป็นสื่อกลางที่จะเชื่อมโยงไปสู่ความสุนทรีทางจิตใจ"

และในช่วงกลางของศตวรรษที่ 20 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในโลกนี้
และนับเป็น "ประวัติศาสตร์" ที่ต้องถูกบันทึกไว้ในแวดวง "คนดนตรี" ไปตลอดกาล..

   mr.zippo      21 พ.ค. 56   เวลา 10:50:00    IP = 27.130.229.127
 


  คำตอบที่ 4  
 
'กระบวนการทำให้กีตาร์ได้ 'มาตรฐาน' ตามแบบฉบับอเมริกันสไตล์'

ในที่นี้หมายถึง มาตรฐาน "กีตาร์ USA" ที่นักดนตรีส่วนใหญ่ในโลกยอมรับ

ผมขอยกตัวอย่าง กีตาร์ไฟฟ้า ของ "Fender" (แต่อันที่จริงผมว่า Gibson หรือ Martin ก็มีลักษณะที่ถือว่ามี "มาตรฐาน" ดังกล่าวเหมือนกัน-แต่คิดว่า Fender น่าจะชัดเจนที่สุด)

- การผลิตซ้ำ สร้างคุณค่าของ "สินค้า" อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีการ "เปรียบเทียบ" (Caparison) เพื่อให้เกิดกระบวนการต่อไป นั่นคือ การจำแนก หรือ "การแยกแยะ" (Identification) เพื่อ "บ่งชี้" (Identify) เพื่อพิสูจน์คุณภาพของสินค้านั้นๆ
แม้คุณภาพที่ได้อาจจะมิใช่คุณภาพที่แท้จริงในตัวของมันเอง
แต่ก็นับเป็นวิธีการที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ และต่างเห็นพ้องตรงว่าสามารถนำมาใช้และยึดถือในข้อสรุปดังกล่าวได้

แม้ทั้ง ๓ ยี่ห้อที่กล่าวไปข้างต้น ต่างก็ชูความเป็น USA ทั้งหมด
...พร้อมๆ กับพยายามสร้างชุดวาทกรรม (Discourse) เพื่อรองรับ "มาตรฐาน" และ "คุณค่าทางการตลาด" ของสินค้าตนอย่างต่อเนื่อง

แต่สิ่งที่ผมคิดว่าพิสูจน์ได้ชัดเจน ในกรณี Fender นั่นคือ
การสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็ง พร้อมๆ กับกระบวนการ "เปรียบเทียบ" มาตรฐานในแบรนด์นั้นของตนเอง
เช่น
Fender USA (American Series ต่างๆ)
Fender Japan
และ Fender Mexico

(แตกต่างจาก Gibson ที่ทุกรุ่นเป็น USA ทั้งหมด
ดูผิวเผินอาจจะเหมือนกับชูความเป็น USA มากกว่า-แต่ผมไม่ได้คิดเช่นนั้น)

ในองคาพยพส่วนต่างๆ ของ "คนนิยมกีตาร์แบรนด์ดังกล่าว" มักเกิดการนำไปเปรียบเทียบกันเองระหว่าง "ประเทศที่ผลิต" อยู่เสมอ

..Standard Mexico vs. American Standard
Fender Japan รุ่นสูง vs. Fender USA Custom Shop
ฯลฯ

และด้วยผลสรุปต่อมา ที่ทำให้เกิดชุดความรู้ต่างๆ นั่นคือการยิ่งเชิดชูคุณค่า และมาตรฐานของ
Fender USA ให้ยิ่งมากขึ้นทุกขณะ โดยการนำไปอิงกับ "ประวัติศาสตร์" กีตาร์ในช่วงหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นต้นมา
ซึ่งเป็นทั้งผู้บุกเบิก, ผู้พัฒนา และผู้ทำให้ "กระแส" ดังกล่าวนิยมและยอมรับไปทั่วโลก มิใช่เหตุผลอื่นใด แต่เหตุผลนั้นคือ USA นั่นเอง.

   mr.zippo      21 พ.ค. 56   เวลา 11:27:00    IP = 27.130.229.127
 


  คำตอบที่ 5  
 
-ข้อความด้านบน ผมคิดไป (แต่อยากเขียนหัวข้อนี้มาได้ ๒-๓ วันละ) เขียนไป ช้าไปนิด มั่วไปบ้าง หน้ามึนไปหน่อย แต่รวมๆ แล้วมันก็คือ ข้อสรุปของผมเองครับ
ส่งอักษรภาษาอังกฤษ "Thanks" ถึงทุกท่านที่ click เข้ามาและอ่านกันครับ ^^-

..............................................
# 2 ขอบคุณพี่เอก ที่แวะเวียนเข้ามาทักทาย และ Comment กันครับ
ผมก็คิดว่าคงเป็น Top Secret ความลับสุดยอดของแต่ละบริษัทเหมือนกันครับ
(แม้โลกยุคปัจจุบันมันจะ "ยาก" ในการรักษาความลับดังกล่าวให้ความ "สุดยอด" ไปแล้วก็ตาม).

   mr.zippo      21 พ.ค. 56   เวลา 11:45:00    IP = 27.130.229.127
 


  คำตอบที่ 6  
 
ขอบคุณสำหรับบทความครับ

   GAS Frontier      21 พ.ค. 56   เวลา 12:17:00    IP = 203.152.43.66
 


  คำตอบที่ 7  
 
ขอบคุณ บทความดีๆอย่างนี้ครับ

   Solitare  21 พ.ค. 56   เวลา 12:23:00    IP = 223.27.236.130
 


  คำตอบที่ 8  
 
อ่านเพลิน ได้ความรู้ด้วย ขอบคุณมากๆ ครับ ^^

   sickboy      21 พ.ค. 56   เวลา 14:12:00    IP = 107.201.240.135
 


  คำตอบที่ 9  
 
ขยันเขียนเอาเรื่องเลยเด้อ ขรั่บ เด้อ

ฮี่ๆๆ อ๊อด อ๊อด....

   สมาชิกแบบพิเศษ      BOON BOON!      21 พ.ค. 56   เวลา 15:24:00    IP = 118.172.106.147
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 10  
 
อ่านเพลิน ได้ความรู้ ขอบคุณครับ

   johnny guitar      21 พ.ค. 56   เวลา 16:23:00    IP = 58.9.13.17
 


  คำตอบที่ 11  
 
ขอบคุณมากเลยครับ ^_^

   momoto      21 พ.ค. 56   เวลา 22:05:00    IP = 58.9.78.245
 


  คำตอบที่ 12  
 
ไอ้เรื่อง หน้ามึน นี่เห็นจะจริงแฮะ

   Alternatives      21 พ.ค. 56   เวลา 22:16:00    IP = 223.205.170.172
 


  คำตอบที่ 13  
 
กกดกด

   ai-impulse  22 พ.ค. 56   เวลา 0:42:00    IP = 49.48.216.45
 


  คำตอบที่ 14  
 
ขอบคุณทุกท่านครับ.

   mr.zippo      30 พ.ค. 56   เวลา 21:55:00    IP = 27.130.135.33
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket