(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  ประวัติ Start จากหนังสือ Fender the golden age ครับ  
 
พอดีได้หนังสือเล่มนี้มาครับ แม้ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง แต่ใจชอบก็พยายามอ่านและแปลไป
พออ่านจบ รู้สึกว่าอยากแบ่งปันเรื่องราวบางส่วนในเล่มนี้ให้เพื่อนๆ อ่านบ้าง
เลยจะแปลมาให้อ่านกันครับ เริ่มจาก Start ก่อนละกันครับ แต่ด้วยเนื้อหาที่ยาว
ผมคงจะต้องทยอยลงเป็นตอนๆ ให้นะครับ แล้วก็คงตัดบางส่วน ย่อใจความมาเฉพาะที่น่าสนใจ
และก็ขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ ถ้ามีการแปลตกๆ หล่น หรือผิดเพี้ยนไป เนื่องด้วยอังกฤษผมปวกเปียกนัก
ขอบคุณครับ
ปล. รูปประกอบเนื้อหา ไม่ได้เอามาจากหนังสือนะครับ เพราะขี้เกียจสแกน 555
อาศัยเอามาเองจากในเน็ต


Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:17:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 1  
 
ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนลองเอา Strato ของตัวเองมาวางไว้ตรงหน้าดู ใครยังไม่มีก็ดูรูปในเวบนะครับ
แล้วสมมุติว่านี่คือปี 1954...
คงนึกภาพกันไม่ออกสินะครับว่าไอ้กีต้าร์ตรงหน้าเรา ยุคนั้นมันจะลำ้ขนาดไหน
แปลเป็น พศ.ไทยก็ 2497 อันธพาลยังไม่ทันครองเมือง เอลวิสยังไม่ทันออกเทป และ Hendrix เพิ่งจะอยู่ ป.5!
ตรงหน้าเรานี่คือ "Stratocaster" หนึ่งในกีต้าร์ที่ทรงอิทธิพลแบบสุดๆ ในโลกของหมู่กีต้าร์
ถูกก๊อปปี้รูปทรงมานับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าเป็นกีต้าร์ที่ "Form" กับ "Function" มาคู่กันอย่างลงตัว


   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:18:00    IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 2  
 
(รูปประกอบ นาย Leo Fender)

ก่อนหน้านั้น Telecaster เป็นกีต้าร์ขายดีของ Fender แต่ Leo (Leo Fender) ไม่พอใจหรือหยุดอยู่แค่นั้น
เพียรหาช่องโหว่ต่างๆ ใน Tele เพื่อนำมาพัฒนากีต้าร์ตัวใหม่ โดยโฟกัสไปที่ประเด็นหลักๆ 4 ข้อ คือ
1. Intonation (แปลเอาเองนะครับ)
2. Tone
3. ความสบายในการเล่น
4. ต้องมีคันโยก
Leo เริ่มวางแผนไว้ตั้งแต่ปี 1951 แต่ถนนสู่ความสำเร็จมันมีหลายแยกหลายไฟแดง
ขับไม่ดีก็โดนจ่าโบกเข้าข้างทาง จะช้าๆ ชิลๆ เดี๋ยวก็โดนรถ "Gibson" คันข้างๆ แซง

   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:19:00    IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 3  
 
(รูปประกอบ Les Paul 52)

พูดถึง Gibson ได้ออกโมเดล Les Paul มากลางปี 52
ตอนนั้นนาย Don Randall ซึงเป็นคนจัดการเรื่องค้าๆ ขายๆ ของ Fender
(และเป็นคนตั้งชื่อ Stratocaster ให้แก่กีต้าร์รุ่นนี้)
เห็นท่าไม่ดี มาบอก Leo ว่า
"เฮียต้องเร่งแล้วล่ะ เจ้า Gibson มันเพิ่งปล่อยอีหนู Les Paul ออกมา
ยังกับนางฟ้าเลยเฮีย หุ่นก็อวบอั๋น เล่นเอานัง Tele ของเราดูจืดไปเลย
เฮียต้องรีบพามันไปศัลยกรรมเสริมอึ๋มแล้วล่ะ ขอเพิ่มคันโยก กับปิคอัพด้วยนะ"

   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:21:00    IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 4  
 
(รูปประกอบ Freddie Tavares-คนขวา)
Leo คิดว่าไม่ได้การละ แต่งานนี้เราจะลุยคนเดียว มันก็อาจทำให้ได้มุมมองไม่รอบด้านพอ
คิดไปคิดมาเวลาติดปีกเข้าปี 53 ฮีโร่และผู้ช่วยคนสำคัญก็ปรากฎกายขึ้นมา
นาย Freddie Tavares นั่นเอง เขาได้เข้ามาร่วมงานและช่วยพัฒนารูปทรงของ Strat ให้เป็นรูปเป็นร่าง
แต่ฟอร์มโค้งเว้าที่เราเห็นกันทุกวันนี้ก็มีที่มาที่ไปนะครับ ไม่ได้ทึกทักเอาเฉยๆ
เรื่องของเรื่องคือ มีมือกีต้าร์ชื่อ Rex Gallion กับ Bill Carson เข้ามาผสมโรงด้วย
ตา Bill นี่เพิ่งสำเร็จโทษ Tele ตัวเก่าของตัวเองไปด้วยการเอาเลื่อยเฉือนมุมด้านหน้า
กับลำตัวด้านหลังบนทิ้งไป โดยให้เหตุผลว่า
"มุมด้านหน้ามันทำให้เจ็บแขนว่ะ ไอ้ด้านหลังก็ทิ่มพุงอั๊ว"
ปกติคนทั่วไปคงสยองขวัญกับความซาดิสม์ของนาย Bill แต่ Leo ไม่ กลับเห็นงามด้วยว่าเข้าท่า
เลยเอามาประยุกต์เข้ากับทรงของ Precision Bass ดัดนู่นนิดนี่หน่อยจนออกมาเป็นทรง Start

   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:22:00    IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 5  
 
(รูปประกอบ นาย Bill Carson)

นาย Bill เริ่มได้ใจบอกไหนๆ ก็ไหนๆ อั๊วขอปิคอัพซัก 5 ตัวได้ไหม
แต่ Leo บอก เยอะละๆ เอาแค่สามก็พอ ตัว Neck กับ Bridge ดึงของเทเลมา
ช่องว่างตรงกลางนั่นแหละ ที่จะยัดตัวที่สามเข้าไป
ปิคอัพเซ็ตใหม่นี้ก็ไม่ธรรมดาครับ Leo บรรจงทดลองพันคอยล์ให้ได้ sound ที่แบบว่า
ต้องโดนใจมือกีต้าร์ทุกแนวในยุคนั้น ลงลึกไปถึงหมุดในปิคอัพต้องสูงต่ำต่างกันไปในตำแหน่งทั้งหกสาย
พอได้ที่แล้วก็ส่งให้ Freddie ออกแบบหน้าตาของปิคอัพกับปิคการ์ดต่อ
ส่วนสวิตช์ปิคอัพตอนแรกปรับได้แค่สามแก๊ก แต่ละแก๊กสั่งงานปิคอัพแต่ละจุด
แต่ทีนี้ ตอนทดลองดันพบว่าเวลาเลือก สวิตช์มักไปสะดุดค้างตรงกลางระหว่างปิคอัพแต่ละตัว
ความมหัศจรรย์บังเกิด!
นี่คือที่มาของแก๊กสองกับสี่ ที่สร้างเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Start มาจนทุกวันนี้ครับ


   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:24:00    IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 6  
 
(รูปประกอบ Guitar ของ Paul Bigsby ที่ Leo ยืมเอาหัวเขามา)

มาที่รูเสียบแจ๊ค ดีไซน์ล้ำและคลาสสิคมาก แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เอาไปใช้ในรุ่นหลังๆ ด้วย
ส่วนหัวปรับจากเทเลผสมกับรูปทรงหัวกีต้าร์ของ Paul Bigsby ที่ Leo ไปเห็นมา
(บางคนก็บอกตรงๆ ว่าก๊อปเขามาดัดแปลงน่ะแหละ แต่ทำได้ลงตัวกว่า)
ข้อดีคือทำให้โลโก้เฟนเดอร์ไม่ต้องไปเหนียมหลบอยู่หลังสายแบบเทเลอีกแล้ว

   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:25:00    IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 7  
 
รอติดตามตอนต่อไปนะครับ วันนี้ง่วงละ ขอไปนอนก่อน

   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 0:27:00    IP = 124.120.112.242
 


  คำตอบที่ 8  
 
รอชมคร้าบบบ พรุ่งนี้มาอ่านต่อ อิอิ

   สมาชิกแบบพิเศษ      Impascetic      26 ม.ค. 55   เวลา 0:55:00    IP = 124.121.165.245
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 9  
 
ยาวๆเลยครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      WE ARE SQUIER      26 ม.ค. 55   เวลา 1:46:00    IP = 223.207.38.111
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 10  
 
เยี่ยมมากครับ อิอิ

   Incubus`enjoy`Funk      26 ม.ค. 55   เวลา 1:48:00    IP = 171.99.216.36
 


  คำตอบที่ 11  
 
อยากรู้ว่า strat กับ tele อันไหนเก่าแก่กว่ากัน

ผมเดาว่า tele

   nutthapon9      26 ม.ค. 55   เวลา 1:55:00    IP = 27.130.114.201
 


  คำตอบที่ 12  
 
ติดตามๆครับ สุดยอดๆ

   สมาชิกแบบพิเศษ      rutchanon2      26 ม.ค. 55   เวลา 2:21:00    IP = 125.25.111.104
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 13  
 
รอคับ...

   Dr.sin      26 ม.ค. 55   เวลา 2:22:00    IP = 125.25.15.114
 


  คำตอบที่ 14  
 
กระทู้เจ๋งมากครับ

   Sha-aim      26 ม.ค. 55   เวลา 2:32:00    IP = 223.206.86.74
 


  คำตอบที่ 15  
 
อยากรู้ว่า strat กับ tele อันไหนเก่าแก่กว่ากัน

ผมเดาว่า tele

nutthapon9 26 ม.ค. 55 เวลา 1:55:00 IP = 27.130.114.201

tele ครับผม

   สมาชิกแบบพิเศษ      Impascetic      26 ม.ค. 55   เวลา 2:49:00    IP = 124.121.165.245
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 16  
 
แหล่มๆเลย คริคริ : )

   thiti -_-"  26 ม.ค. 55   เวลา 2:49:00    IP = 124.120.185.144
 


  คำตอบที่ 17  
 
รอชมๆครับ :D

   nonbigbike      26 ม.ค. 55   เวลา 5:17:00    IP = 124.122.171.130
 


  คำตอบที่ 18  
 
สำนวนการเขียน "เยี่ยม" ครับ..
ขอบคุณความรู้ที่นำมาแปลถ่ายทอดโดยทั่วกัน
ด้วยท่วงท่าลีลาที่น่าติดตามอ่านมากครับ.

   mr.zippo      26 ม.ค. 55   เวลา 9:10:00    IP = 183.89.94.10
 


  คำตอบที่ 19  
 
รอตอนต่อไป ครับบบ

   สมาชิกแบบพิเศษ      blackhold      26 ม.ค. 55   เวลา 9:35:00    IP = 203.144.130.176
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 20  
 
เยี่ยมครับ

ขอบคุณครับ ^_^

   SRI - ESP      26 ม.ค. 55   เวลา 9:58:00    IP = 125.24.175.102
 


  คำตอบที่ 21  
 
อ่านเพลินมากครับ เจ้าของกระทู้ทำงานด้านสายวิชาการแน่ๆ ^^

   สมาชิกแบบพิเศษ      ToNy@SHoPpeR      26 ม.ค. 55   เวลา 11:32:00    IP = 125.27.161.61
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 22  
 
แปลได้ดีและสนุกมากๆ ขอบคุณครับ

รบกวนถามว่าหนังสือเล่มนี้ซื้อได้ที่ไหนครับ?


   iTui      26 ม.ค. 55   เวลา 13:07:00    IP = 202.28.182.5
 


  คำตอบที่ 23  
 
ขอเสริมครับ

ปี 1950 Fender ออกกีตาร์รุ่น Esquire และ Broadcaster โดยข้อแตกต่างคือ รุ่น Esquire มี pickup bridge ตัวเดียว

ต่อมา บริษัท Gretch ขู่ว่าจะฟ้อง Fender เนื่องจาก Gretch ได้ออกกลองชุดรุ่น Broadcaster ไปแล้ว และ Fender ห้ามใช้ชื่อนี้ซ้ำอีก Fender กลัวถูกฟ้องก็เลยเลิกพิมพ์ชื่อ Broadcaster ลงบนหัวกีตาร์
ดังนั้น Fender รุ่น Broadcaster ที่ขายในปี 1951 จึงไม่พิมพ์ชื่อรุ่น ซึ่งต่อมา กีตาร์รุ่นนี้รู้จักกันในชื่อ Nocaster

ปี 1952 Fender ได้ชื่อรุ่นใหม่ให้ Nocaster โดยการนำคำว่า Television บวกกับคำว่า Caster ได้ชื่อใหม่ว่า Telecaster

ที่มา กีตาร์แม๊ก

   ILUVJNB      26 ม.ค. 55   เวลา 13:26:00    IP = 119.46.182.3
 


  คำตอบที่ 24  
 
ผมจำได้ว่า broadcaster ได้ชื่อนี้มาเพราะสีของมัน เป็นสีขาวๆเหลืองๆ เหมือนสีทีวีในยุคนั้น เค้าเลยตั้งชื่อว่า broadcaster

   สมาชิกแบบพิเศษ      Impascetic      26 ม.ค. 55   เวลา 14:26:00    IP = 124.122.44.66
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 25  
 
แปะ

   zeedzad      26 ม.ค. 55   เวลา 14:42:00    IP = 180.180.115.186
 


  คำตอบที่ 26  
 
ชอบกระทู้ แปลเรื่องราวมี สาระ แบบนี้ ครับ เยี่ยมมากๆ ครับ รออ่าน ตอนต่อไป ครับ ^^

   sickboy      26 ม.ค. 55   เวลา 15:05:00    IP = 75.4.208.247
 


  คำตอบที่ 27  
 
เยี่ยม

   สมาชิกแบบพิเศษ      noppadol_64      26 ม.ค. 55   เวลา 15:57:00    IP = 110.168.148.225
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 28  
 
^ ^

   tu28i      26 ม.ค. 55   เวลา 17:22:00    IP = 125.25.96.106
 


  คำตอบที่ 29  
 
สุดยอดไปเลยครับ

   Rabbit_Run      26 ม.ค. 55   เวลา 17:25:00    IP = 180.183.8.33
 


  คำตอบที่ 30  
 
ผมก็ซื้อเล่มนี้มาครับ เอามาไว้ดูรูป อ่านไม่ออกเลย

   okokguitar      26 ม.ค. 55   เวลา 21:06:00    IP = 101.109.101.116
 


  คำตอบที่ 31  
 
ขอบคุณทุกๆ ท่านครับ ขอบคุณคุณ ILUVJNB กับคุณ Impascetic ที่ช่วยเสริมข้อมูลด้วยนะครับ
แล้วก็หนังสือซื้อได้ที่ Asia Book หรือ Kinokuniya ครับ

   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 21:07:00    IP = 124.120.130.237
 


  คำตอบที่ 32  
 
อยากอ่านต่อครับ เป็นความรู้มากๆ

   สมาชิกแบบพิเศษ      name1177      26 ม.ค. 55   เวลา 21:25:00    IP = 103.1.164.33
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 33  
 
ภาคจบครับ
http://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=322237

   Krisadaa      26 ม.ค. 55   เวลา 21:58:00    IP = 124.120.130.237
 


  คำตอบที่ 34  
 
ขอบคุณมากๆๆครับ ท่านเจ้าของกระทู้ เป็นความรู้ที่ดีมากๆๆเลยครับ

   DMXF16      31 ม.ค. 55   เวลา 9:51:00    IP = 202.28.180.202
 


  คำตอบที่ 35  
 
-ขอบคุณมากครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      mawmeaw99      6 ก.พ. 55   เวลา 17:18:00    IP = 223.204.86.46
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 36  
 
LIKE !!!!!!!!!!

   KMAN      25 มี.ค. 56   เวลา 18:36:00    IP = 27.145.157.185
 


  คำตอบที่ 37  
 
ขอแปะครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      takzakub      26 ม.ค. 57   เวลา 22:15:00    IP = 180.183.60.225
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 38  
 
;)

   mONTAGUES22      12 ก.พ. 57   เวลา 8:42:00    IP = 115.67.101.31
 


  คำตอบที่ 39  
 
ขอแปะนะครับ

   thiti -_-"  9 ก.ค. 58   เวลา 23:56:00    IP = 27.145.55.36
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket