(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  น้ำจริง น้ำใจ... & หนังสั้น เริ่มต้น & ^^ วิธีบำรุงชีวิตคู่ให้สุขสันต์ ^^  
 
สวัสดีครับทุกท่าน


rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:18:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 1  
 
น้ำจริง น้ำใจ...

น้ำจริงๆ หรือของเหลวทุกอย่าง ถ้าต้องการให้ไหลลงสู่ที่ต่ำ
ไม่ต้องไปทำอะไรเพียงเจาะช่องให้ น้ำก็ไหลไปสู่ที่ต่ำเองโดยไม่หยุด
แต่ถ้าต้องการให้น้ำไหลขึ้นไปสู่ที่สูงจะต้องใช้เครื่องอัด
ปั๊มหรือชักดึงขึ้นไปด้วยพลังงานอย่างใดอย่างหนึ่งจึงจะสำเร็จ

ใจของคนก็มีสภาพเหมือนน้ำ คือ ถ้าต้องการให้ตกลงไปที่ต่ำก็ไม่ต้องทำอะไร
เพียงปล่อยใจไปตามยถากรรม คือ ไม่ฝึกฝน ไม่อบรม ไม่เหนี่ยวรั้ง
ใจจะไหลลงสู่ที่ต่ำไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าจะยกระดับใจให้สูง ก็ต้องใช้พลังพยายามฉุดดึงจึงจะสำเร็จ
พลังสำหรับฉุดดึงใจให้ขึ้นสู่ระดับสูงนั้น พระพุทธเจ้าสอนไว้ 4 ขั้นตอน

1. พยายามป้องกันอย่าให้บาปเกิดขึ้นในใจได้
ด้วยวิธีการหักห้ามใจอย่ายินดีในสิ่งเป็นบาป
เหมือนคนป้องกันเสื้อผ้ามิให้แปดเปื้อนสกปรก

2. อันใดที่เป็นบาปเกิดขึ้นในใจแล้ว
ต้องสละละทิ้งให้หมดไปจากใจมิให้เหลือ
เหมือนคอยซักผ้าให้สะอาด ในเมื่อมีสิ่งสกปรกมาแปดเปื้อน

3. สร้างสมความดีทีละน้อยโดยไม่หยุด
เหมือนเอาผ้าซักแล้วมาอบกลิ่นให้หอมหวนตลอดไป

4. ความดีใดที่สะสมไว้แล้ว ก็ควรรักษาความดีนั้นให้คงอยู่อย่าให้เสื่อม
เหมือนเก็บผ้าไว้ในตู้เก็บที่ปลอดภัย

ถ้าทำได้สมบูรณ์โดยใช้ความพยายาม 4 ขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ
ก็จะเป็นคนมีใจสูงแล้วท่านล่ะ!
ได้ทำถึงขั้นตอนใด ตามหลัก 4 ประการนี้แล้วหรือไม่?

ที่มา...หนึ่งในคอลัมน์ของธรรมจักษุ
เรื่อง...น้ำจริง น้ำใจ
โดย...นาวาเอก(พิเศษ) วุฒิ อ่อนสมกิจ
พิมพ์ลงในนิตยสาร “ธรรมจักษุ”
ฉบับเดือน สิงหาคม 2546

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=26074

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:20:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 2  
 
คติธรรม ๑๐๘ : ท่านพ่อลี ธมฺมธโร

ค ติ ธ ร ร ม ๑ ๐ ๘

พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรามธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

เรื่องพระธรรม

๒๕. ความตายและความเกิด เป็นกำเนิดแห่งความทุกข์
ความสุขอันประเสริฐไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=25776

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:22:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 3  
 
รวบรวมคติธรรมดี ๆ มาให้อ่านกัน...

http://board.palungjit.com/f10/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%86-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-178960-20.html


   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:24:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 4  
 
เบื่อ...จะแก้ไขอย่างไร 2

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:31:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 5  
 
หนังสั้น เริ่มต้น

# ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน #

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:32:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 6  
 
^^ วิธีบำรุงชีวิตคู่ให้สุขสันต์ ^^

เลือกเวลาเหมาะๆเพื่อใช้ เป็นเวลาอันมีค่า สำหรับพูดคุยกับคนรักเกี่ยวกับ ชีวิตคู่ของคุณทั้งสอง หมั่นแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และความต้องการของคุณ แต่เฉพาะในแง่ดีและสร้างสรรค์เท่านั้น เพราะยังไม่ถึงเวลา ที่จะมาต่อว่าหรือโต้เถียงกัน

กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึก ที่เป็นตัวตนจริงๆ ออกมา ไม่ว่าจะอยู่ใน อารมณ์แบบไหน : สนุกสนานเริงร่า เจ็บช้ำน้ำใจ เพ้อฝัน หรือแม้ แต่ เวลายินดี มีความสุข) โดยไม่ต้องคำนึงถึง เหตุผล ดีเลว และถูกผิด ใดๆทั้งสิ้น

คิดจะพูด ก็ให้พูดเพื่อตัวคุณเอง โดยใช้คำเหล่านี้ "ฉันรู้สึกว่า" "ฉันอยากจะ.." "ฉันคิดว่า.." "ฉันชอบ.." แต่อย่าพูด แบบกลัวๆ กล้าๆ "คุณว่า…" หรือ "เขาพูดกันว่า…" มันทำให้คุณดูไม่มีความ มั่นใจในตัวเอง

ค่อยพูดค่อยจากัน ด้วยภาษาดอกไม้ ให้ฟังแล้วรื่นหู "ฉันชอบจังค่ะ เวลาที่คุณช่วยฉันล้างจาน" พูดอย่างไรก็ได้ ให้คนฟังรู้สึกดีๆ และไม่เป็น การจุดชนวน สงครามน้ำลาย ขึ้นกลางวง

ควรให้มีการ "ขอเวลานอก" ในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด รู้สึกอึดอัด หรือยังไม่พร้อมที่จะสนทนาในเรื่องนั้นๆ ต่อ ก็สามารถ "ขอเวลา นอก" ซึ่งอาจจะพักสักครู่หนึ่ง หรือไม่ก็เปลี่ยนหัวข้อ การสนทนาซ่ะ โดยไม่ต้องถามเหตุผลใดๆ ทั้งนั้น เพราะเราจะรู้ สึกสนุก กับการ เล่า ก็ต่อเมื่อ เราสามารถเลือกเรื่อง เลือกเวลา ที่เราอยากเล่าได้

หัดฟังคนอื่นเขาบ้าง และต้องฟังอย่างตั้งใจด้วย ว่าที่เขาพูด หมายความว่าอย่างไร แล้วลองเช็คกลับไป ด้วยการพูดทวนว่า ที่คุณเข้าใจนั้น ถูกต้องตามที่เขาพูดไหม จำไว้ว่า "เมื่อไรที่ไม่แน่ ใจ ไม่เคลียร์ ให้ถามได้เลย! "

Read more: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sitcom&month=06-2010&date=16&group=22&gblog=51#ixzz1gKeYA96x
__________________
ละอกุศล เจริญกุศล แล้วทำจิตบริสุทธิ์ จนกว่าจะพ้นทุกข์

http://board.palungjit.com/f6/%5E%5E-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%5E%5E-317930.html

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:36:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 7  
 
12 ข้อ Do 's & Don 'ts ยามโกรธ

5. Do - จงใช้คำว่า “ฉัน” เมื่อสนทนา

หัดกล่าวคำว่า “ฉันคิดว่า..ฉันรู้สึกว่า..ฉันกลัวว่า..ฉันต้องการ..” ในการสนทนา เพื่อแสดงความเป็นตัวตนของคุณ โดยปราศจากการวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิติเตียนบุคคลอื่น หรือโยนความผิดให้คนอื่น ที่ทำให้คุณรู้สึกหรือแสดงออกเช่นนั้น เช่น ฉันต้องการคุยกับคุณด้วยเหตุด้วยผล เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ต้องระวังคำพูดแอบแฝงที่ใช้ในประโยค “คุณ” หรือคำพูดจอมปลอมในประโยค “ฉัน” ที่ไม่จริงใจ เช่น ฉันคิดว่าคุณควรจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อย เป็นต้น

6. Don’t - อย่าเรียกร้องอย่างคลุมเครือ

การเรียกร้องหรือการบอกความในใจบางอย่าง อาทิ “ฉันอยากให้คุณรับรู้ถึงความต้องการของฉัน” อาจจะเป็นคำพูดที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน

ดังนั้น ควรเปลี่ยนเป็นคำพูดที่ทำให้ผู้อื่นรู้ถึงสิ่งที่คุณต้องการ เช่น “วิธีดีที่สุดที่คุณจะช่วยฉันได้ในตอนนี้คือ แค่รับฟัง เพราะขณะนี้ฉันยังไม่อยากได้คำแนะนำใดๆทั้งสิ้น”

อย่าไปคาดหวังว่า บุคคลอื่นจะล่วงรู้ความต้องการของคุณ หรือทำสิ่งต่างๆให้ โดยที่คุณไม่ได้ร้องขอ เพราะแม้แต่คนที่รักคุณ ก็มิอาจอ่านใจคุณออกเสมอไป

http://board.palungjit.com/f9/12-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD-do-s-and-don-ts-%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%98-304154.html


   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:37:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 8  
 
-จง-

อ่าน... แล้วใช้วิจารณญาณ เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินชีวิต

จงทำงานกับคนที่ทำงานเท่านั้น

http://www.baanjomyut.com/10000sword/jong/page5.html


   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:41:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 9  
 
เจริญในธรรมคับ...
ปล. คุณ rockonyou มีวิธีปฏบัติธรรมอย่างไรครับ...

   Believe      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:48:00    IP = 171.4.200.85
 


  คำตอบที่ 10  
 
ปล. ขอเเก้ตรงนี้หน่อยครับ กับกระทู้นี้

^^ วิธีบำรุงชีวิตคู่ให้สุขสันต์ ^^

กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึก ที่เป็นตัวตนจริงๆ ออกมา ไม่ว่าจะอยู่ใน อารมณ์แบบไหน : สนุกสนานเริงร่า เจ็บช้ำน้ำใจ เพ้อฝัน หรือแม้ แต่ เวลายินดี มีความสุข) โดยไม่ต้องคำนึงถึง เหตุผล ดีเลว และถูกผิด ใดๆทั้งสิ้น

ปล. สําหรับข้อข้างบนนี้ ผมว่า เราควรพูดตอนที่มีสติมากกว่า เพราะถ้าเราพูดตอนโมโห หรือเสียใจอยู่ เราอาจจะหลุดอะไรไม่ดีๆออกไปทางวาจาได้ ผมว่าพูดตอนเรามีความสุข สบายใจไว้ก่อนดีกว่า อีกอย่างคือ ต้องคํานึงถึงเหตุผลที่เราจะพูดด้วย จะดีมากครับ

Read more: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sitcom&month=06-2010&date=16&group=22&gblog=51#ixzz1gKeYA96x
__________________
ละอกุศล เจริญกุศล แล้วทำจิตบริสุทธิ์ จนกว่าจะพ้นทุกข์

http://board.palungjit.com/f6/%5E%5E-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%5E%5E-317930.html

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 4:55:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 11  
 
ขอบคุณที่ถามครับคุณ Believe คือ ผมจะรักษาศีลทุกวัน ( บางครั้งก็ขาดบ้าง เเต่นานๆจะขาดที ) สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ นอนสมาธิให้หลับไปในทุกๆวัน เเละก็วิปัสสนาจิตกับกายของตัวเอง เรื่องวิปัสสนานั้นไม่ใช่การทําสมาธิ เเต่การทําสมาธิก็คือ ส่วนหนึ่งของการวิปัสสนา ถ้าคุณ Believe สนใจอยากจะศึกษาในเรื่องนี้ ยังไงก็ลอง seach คําว่า สมถะ กับ วิปัสสนา ใน google เเล้วอ่านดูครับ เพราะจริงๆเเล้ว เวลาที่เราได้ยินคําว่า ' สมถะวิปััสสนากรรมฐาน ' คนส่วนใหญ่จะคิดว่า เป็นสิ่งเดียวกัน คือหากไม่ได้ศึกษาปริยัติธรรม หรือธรรมะมา เราจะคิดอย่างนี้ ( ผมก็เป็นคนนึงที่เคยคิดอย่างนี้ คือ ในอดีตนั้น ผมคิดว่า สมถะวิปััสสนา คือ การทําสมาธิเท่านั้น ซึ่งเเท้จริงเเล้วไม่ใช่ )

ผมพยายาม search ใน google ให้เเล้ว เเต่ผมเจอเเต่กระทู้ี่ที่อธิบายไว้ยาวพอสมควร เอาเป็นว่า ผมขอสรุปอย่างสั้นๆให้ฟังเเล้วกันครับ

# สมถะ คือ การทําสมาธิให้จิตสงบ หรือ การฝึกทําให้จิตสงบ

## วิปัสสนา คือ การฝึกใช้ปัญญาหลังจากจิตสงบแล้วมาพิจารณาธรรมต่างๆที่ละเอียดๆต่อไป

อย่างที่บอกครับคุณ Believe ลอง search อ่านใน google ดูครับถ้าสนใจ อนุโมทนาครับ

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 5:14:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 12  
 
ปล. อ้อ ลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่ง คือ ผมจะหยอดเหรียญทําสังฆทานที่บ้านทุกวัน หากคุณ Believe หรือเพื่อนๆใน guitarthai คนใดสนใจ ก็นําไปปฎิบัติได้นะครับ วิธีปฎิบัติคือ

1. นํากระปุก หรืออะไรก็ได้มาไว้ใช้สําหรับใส่เงิน ( ผมว่าใช้กระปุกคงดีกว่า )

2. นําเงินหยอดลงกระปุกทุกวัน ก่อนหยอดก็ไปกราบพระพุทธรูปที่บ้าน เเล้วก็สวดบท

คำบูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ. (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ. (กราบ)
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. (กราบ)


บทกราบพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิฯ (กราบ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิฯ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต, สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิฯ (กราบ)


คำขอขมาพระรัตนตรัย
(ขอขมาต่อพระพุทธรูปแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสะฯ (ว่า 3 จบ)

วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะ เม ภันเต
วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะ เม ภันเต
วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะ เม ภันเต


บทสวดไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉา

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


บทถวายพรพระ ( อิติปิโส )

๑.พุทธคุณ

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

๒.ธรรมคุณ

สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ

๓. สังฆคุณ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

3. หลังจากสวดเสร็จเเล้ว ก็ึนึกอธิษฐานว่า เราจะขอถวายเงินที่เราหยอดในครั้ืงนี้ให้เป็น สังฆทาน ธรรมทาน วิหารทาน เเละชําระหนี้สงฆ์ พออธิษฐานเสร็จเเล้ว ก็หยอดเหรียญ หรือจะธนบัตรก็ได้ ( เเล้วเเต่เราครับ ) จะหยอด 1 สลึงหรือกี่บาทก็ได้ เเต่อยากให้ทําทุกวัน ทําอย่างนี้ก็เท่ากับว่า เราได้ทําบุญที่บ้านได้ทุกวัน ในอนาคต พอเราหยอดเงินจนเต็มเเล้ว เราสามารถนําไปถวายวัดได้เลยครับ ได้อานิสงส์เหมือนกับตอนเราที่เราไปทําบุญที่วัดครับ ถ้าสนใจก็นําไปปฎิบัติได้เลยนะครับ ผมว่าวิธีนี้ดีครับ เพราะเราจะสามารถได้ทําบุญที่บ้านด้วยตัวเองทุกวัน อนุโมทนาครับ

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 5:41:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 13  
 
ปล. อ้อ พอทําเสร็จเเล้ว ก็อย่าลืมเเผ่บุญของเรา อุทิศบุญของเราไปให้กับทุกคน ทุกสรรพสิ่งด้วยจะดีมากๆครับคุณ Believe อนุโมทนาครับ

   rockonyou      15 ธ.ค. 54   เวลา 5:43:00    IP = 98.14.37.3
 


  คำตอบที่ 14  
 
ขอบคุณครับ ....

   gula101      15 ธ.ค. 54   เวลา 6:13:00    IP = 125.26.226.57
 


  คำตอบที่ 15  
 
ธรรมะ สวัสดี ครับ...

ขอบคุณสำหรับ ความรู้ ครับผม.............

   สมาชิกแบบพิเศษ      peter midi      15 ธ.ค. 54   เวลา 7:03:00    IP = 223.207.144.66
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 16  
 
สวัสดีครับท่าน rockonyouขอบคุณท่านมากครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      kabinblueser      15 ธ.ค. 54   เวลา 9:09:00    IP = 119.31.15.138
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 17  
 
สวัสดีครับท่าน แวะมาทักทาย

   peck ferder      15 ธ.ค. 54   เวลา 12:50:00    IP = 125.25.174.184
 


  คำตอบที่ 18  
 
+++

   พายุลูกเห็บ      15 ธ.ค. 54   เวลา 20:37:00    IP = 180.183.14.31
 


  คำตอบที่ 19  
 
อนุโมทนาครับทุกคน ขอให้โชคดีครับ

   rockonyou      7 พ.ค. 63   เวลา 6:34:00    IP = 24.90.61.129
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket