Leave the Door Open ที่มาของเพลงรักสุดวาบหวิวแห่งยุค   29 ธ.ค. 65

Leave the Door Open ที่มาของเพลงรักสุดวาบหวิวแห่งยุค

จุดเริ่มต้นของการทำเพลงครั้งนี้มันเริ่มมาจาก ย้อนไปปี 2017 ซึ่ง Anderson Paak เล่าว่า ตอนนั้น Bruno Mars กำลังทัวร์คอนเสิร์ต 24K Magic World Tour ในยุโรป และ ผมก็ได้มารู้จักกับ Bruno ในช่วงนั้น





และต่อมาเราทั้งคู่ก็มาอยู่ที่สตูดิโอเดียวกัน เพื่อที่จะทำงานเพลงร่วมกับ Nile Rodgers และ Guy Lawrence จากวง Disclosure

หลังจากนั้นเราก็คุยกัน แลกเปลี่ยนไอเดียเรื่องเพลงกัน และ แฮ็งเอ้าท์กันมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงที่เราต้องมาเจอ สถานการณ์ COVID-19 ซึ่งเราไม่สามารถออกไปทัวร์คอนเสิร์ตได้

ช่วงนั้น Bruno ก็มีไอเดียเขียนเพลงๆนึง ซึ่งเขาโทรหาผมและบอกว่า เขามีไอเดียเพลงรักที่มีเนื้อหาแบบวาบหวามสุดๆเลย เรามาทำเพลงกันช่วงนี้ดีกว่า และ Bruno กับผมรวมถึงทีมก็ช่วยกันเขียนเพลง จนเสร็จ เราตั้งชื่อมันว่า Leave the Door Open

และเราก็เลยคิดต่อว่า มาทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราวแบบสุดๆเลยดีกว่า เราเลยตัดสินใจทำโปรเจ็คนี้เป็นวงแล้วใช้ชื่อว่า Silk Sonic

โดยชื่อ Silk Sonic มีที่มาคือ Bootsy Collins สุดยอดตำนานมือเบสและนักดนตรีของโลกนี้ เข้ามาร่วมแจมในช่วงแรกของเพลงนี้ และ เมื่อ Bootsy ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกเขาเลยตั้งชื่อวงให้เราสองคนว่า Silk Sonic

สไตล์เพลงที่เราทำเราได้อิทธิพลมาจาก Philadelphia soul ช่วงราวๆปี 70 พวกเรารักดนตรียุคนั้น เราโตมากับ Jackson 5 หรือ James Brown ร้องเพลงโซลและดีดนิ้วตามจังหวะกันไป เราเชื่อว่าคนในยุคนี้ก็ยังฟัง Marvin Gaye กันอยู่เช่นกัน และเราก็ทำคอนเซ็ปต์วง ,ปกอัลบั้มและทุกๆอย่างให้ย้อนไปถึงช่วงเวลานั้น

Anderson เล่าต่อว่า ช่วงตอนที่เพลงนี้เสร็จสมบูรณ์แบบ นั้น Bruno กระวนกระวายและตื่นเต้นมาก เขาอยากให้ชาวโลกได้รู้จักเพลงนี้ทันที

และเมื่อเพลงนี้ถูกปล่อยออกมา Leave the Door Open ก็ขึ้นไปสู่อันดับ 4 ของชาร์ต Billboard 100 ทันที และมันก็กลายเพลงชาติสำหรับคู่รักในยุคนี้ไปแล้ว

Bruno บอกว่าสิ่งนึงที่รู้สึกดีมากๆในการทำโปรเจ็คและเพลงนี้ก็คือ มันเหมือนผมได้ย้นเวลากลับไป จับกีตาร์และซ้อมดนตรีกับเพื่อนๆในโรงรถ และพยายามเขียนเพลง และมันก็ออกมาเป็นเพลงของพวกเราเอง และเราก็ตื่นเต้นที่จะนำเสนอให้คนอื่นได้ฟังเพลงของเรา

---

บทความดนตรีที่น่าสนใจ

Advertisment