ได้รับความเอื้อเฟื้อแผ่น
CD จาก Universal Music, Warner Music, EMI, Sony BMG, Platinum, United Home Entertainment,Virtuoso, Smallroom, S.stack กีตาร์ไทยขอขอบพระคุณอย่างสูง
Artist : Various Artist Album : Rhythm 2 (Zouk) Style :House Label : Universal Music
ระยะหลังมานี่ดนตรีแนวนี้เริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้นเป็นอย่างมากในบ้านเราสังเกตได้จาเครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียงเรียงนามว่า Turn Table และคนเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้ที่ถูกตั้งชื่อขึ้นมาว่า DJ ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของสถานบันเทิงในบ้านเรา แต่ดีเจที่จะมาเล่นเพลงโดยการเปิดแผ่นนั้นไม่ใช่เหมือนที่เปิดเพลงแบบแถว อาร์ซีเอนะครับ เพราะว่าเพลงที่พวกเขาเปิดนั้นมันมีรากฐานมาจากความเป็นแดนส์ก็จริงแต่มันต้องเป็นเพลงในแนว ฟังกี้,ละติน,แจ็ส,บอซซ่าโนว่าเป็นต้น และอัลบัมชุดนี้เองก็เป็นแนวของพวกนี้นั่นแหละครับ จริงแล้วอัลบัมชุดนี้เป็นการใช้ฝีมือในการต่อเพลงของดีเจ 2 คนที่เล่นอยู่ในคลับแห่งหนึ่งในประเทศสิงคโป โดยซีดี 2แผ่นจะเป็นฝีมือในการต่อเพลงของดีเจแต่ละคน ดังนั้นเพลงในซีดีสองแผ่นนี้หากเปิดทิ้งเอาไว้คุณก็จะต้องนึกว่ามันเป็นเพลงเดียวกันหมดเพราะเพลงทุกเพลงจะเล่นอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีจังหวะหลักเอาไว้ที่เราเรียกกันว่า Rhythm ซึ่งจะเป็นกลองและเบส และเพลงของดีเจทั้งคู่ที่นำมาเปิดหากฟังอย่างผิวเผินแล้วคุรอาจจะบอกว่ายังไงมันก้เหมือนกัน แต่หากนั่งตั้งใจฟังดีๆนะครับรายละเอียดของแนวดนตรีจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าโดยส่วนตัวผมแล้วผมกลับชอบแผ่นที่สองที่เป็นของดีเจ B เปิดมากกว่าเพราะไอ้รายละเอียดที่อยู่ในเพลงนี่แหละครับที่ทำให้รู้สึกว่าเจ๋ง ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ชอบอะไรใหม่ๆก้ต้องบอกให้ลองฟังชุดนี้แหละครับ
Artist : Various Artist Album : Best of Voices Style : /////////// Label : Universal Music
เคยบ้างหรือเปล่าครับที่ครั้งหนึ่งเราลังเลใจที่จะเลือกซื้อเลือกหาเพลงที่เราไม่เคยฟังมาก่อน โดยที่เราไม่เคยรู้จักชื่อของศิลปินในอัลบัมนั้นๆเลยอีกทั้งจะถามคนขาย ก็กลัวคนขายจะรู้เรื่องได้ดีเยี่ยม (ประเภทถามอะไรขอตอบมั่วๆไว้ก่อนหรือไม่ก็หมดครับ) และอัลบัมชุดนี้ก็เช่นกันซึ่งผมคิดว่าคงจะเป็นอัลบัมที่น่าจะถูกมองข้ามไป หากมองแค่ปกอัลบัมจะดูว่าเป็นอัลบัมรวมฮิตของเหล่าบรรดานักร้องเท่านั้นเอง แต่จริงๆแล้วอัลบัมชุดนี้มีอะไรให้ฟังอีกเยอะครับ อัลบัมชุดนี้เป็นการรวมเพลงของเหล่าบรรดานักร้องชายหญิงเข้าไว้ถึง 26 เพลงรวมถึงเพลงบรรเลงด้วยอยู่ในซีดีสองแผ่นคู่ (ส่วนตัวแล้วผมว่าเป็นอะไรก็ได้แต่ขอให้เพราะแล้วกัน) แต่เพลงทั้งหมดนี้เป็นเพลงที่โชว์การร้องเพลงที่เป็นตัวจริงทั้งหมดทุกคน คือประมาณว่าผ่านการร้องเพลงประเภทโอเปล่ามาแล้วทั้งสิ้น โดยที่เพลงทั้งหมดเป็นเพลงที่มีเมโลดีและวิธีการร้องเป็นคลาสสิกแต่เพลงทั้งหมดก็ยังคงแฝงความเป็นเพลงป็อปเข้าไว้ด้วย หรือหากจะจำกัดความให้แคบเข้ามาล้วเห็นภาพชัดเจนขึ้นเพลงพวกนี้มีความใกล้เคียงกับเพลงในแนว celtic อย่างที่บ้านเราเองก็เริ่มที่จะมีคนฟังเพลงแนวนี้เพิ่มขึ้น ศิลปินที่ผมอยากให้ฟังและอยากให้มีคนรู้จัมากขึ้นและอยู่ในอัลบัมชุดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นชื่อต่อไปนี้ Secret Garden ศิลปิคู่นี้ผมว่าเป็นคนที่ทำเพลงที่มีเมโลดีที่ขอเรียกว่างดงามมากก็แล้วกันครับ เหมือนว่าเขามีพรสวรรค์มากๆในการแต่งเพลง Sarah Brightman คุณเคยได้ยินคำว่าเสียงสวรรค์หรือเปล่าครับ ผู้หญิงคนนี้แหละครับคือคำจำกัดความ พลังเสียงของเธอนั้นสุดยอดมากๆ และอีกคนที่คนทางฝั่งดนตรีแจ็สเองก็รู้จักนักประพันธ์เพลงท่านนี้เป็นอย่างดีนั้นคือ Henry Mancini ครั้งนี้เพลงของเขาก็ได้รวมอยู่กับอัลบัมชุดนี้ด้วยเช่นกัน และอีกอย่างคือผมว่าเพลงทั้งหมดในชุดนี้น่าจะถูกใจคนที่ชอบฟังเพลงประกอบภาพยนต์อย่างแรง เอาแค่เพลง Love Theme ที่มาจาหนังเรื่อง Romeo & Juliet ที่แต่งโดย Henry Mancini แค่เพลงเดียวก็เกินพอแล้วแหละครับ อาจจะดูฟังยากไปซะหน่อยสำหรับคนที่พึ่งจะหัดฟังแต่เชื่อเถอะครับว่าหากคุณลองค่อยๆเปิดใจรับมัน ผมว่าคุณคงจะรู้สึกถึงความไพเราะและน่าอัศจรรของสิ่งที่เรียกว่าเสียง
Artist : Various Artist Album : The Outsiders (sound track) Style : ///////// Label : Waner Music
นับว่าเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมาก และก็แน่นอนอีกเช่นกันที่ว่าคงเป็นเรื่องยากที่นักดนตรีอย่างเราจะรู้จักหรือมานั่งดูละครแบบนี้ แต่สิ่งที่กำลังจะพูดถึงก็คือเรื่องของเพลงประกอบภาพยนต์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ในส่วนของดนตรีผมว่าทำได้ยอดเยี่ยมมากไม่ว่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่อาจจะต้องพึ่งเครื่องเสียงที่ดีหน่อย ถึงจะได้ยินมัน และอีกเรื่องที่ทำได้ดีไม่แพ้กันเลยนั้นก็คือเรื่องของการมิกซ์เสียงที่ทำได้ยอดเยี่ยมมาก จะมีเรื่องเดียวที่จนปัญญาก็คือเรื่องของภาษาที่ใช้เป็นภาษาของบ้านเขา ดังนั้นรายละเอียดลึกๆนั้นก็เลยไม่สามารถนำมาบอกกันได้ แต่บอกได้ว่าการแต่งเพลงของเขาทำออกมาได้อินเตอร์อย่างยิ่ง เพลงเองก็จะมีทั้งที่เป็นเพลงร้องและเพลงบรรเลงในส่วของเพลงร้องนั้นผมอยากให้ฟังแทร็คที่สองชื่อเพลง Breath Again ซึ่งเพลงนี้เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ซึ่งในส่วนของดนตรีจะเล่นออกไปทางแจ็สนิดๆ แต่มีเครื่องดนตรีที่เล่นหลักๆก็คือเปียโน ในส่วนของเพลงบรรเลงนั้นส่วนใหญ่จะทำออกมาโดยจะมีกลิ่นของดนตรีคลาสสิกและเครื่องสายเข้ามาร่วมด้วย หากจะว่าไปแล้วอัลบัมชุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งชุดที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย หากตัดเรื่องของการที่ขายหน้าตาของดาราออกไปผมว่าเป็นอัลบัมประกอบละครที่ดีอย่างยิ่ง
Artist : Various Artist Album : Ray (soundtrack) Style : Blues / jazz /soul Label : Warner Music
นับว่าเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องจริงของนักดนตรีตาบอดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างยิ่ง เพราะชีวิตของเขาเรียกว่าเป็นพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานให้มาเพื่อเป็นนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่อีกคนในเส้นทางของเพลงแนว Blues / jazz /soul อย่างที่ได้บอกเอาไว้ว่า Ray Charles นั้นยิ่งใหญ่พอตัวในสายของวงการดนตรีจึงไม่น่าเป็นเรื่องแปลกใจเลยที่หนังเรื่องนี้มีผู้ที่รอคอยชมเป็นจำนวนมากและทุกอย่างรวมไปถึงเพลงประกอบภาพยนต์ เพลงที่นำมาใช้กับหนังเรื่องนี้ก็แน่นอนแหละครับหนังเกี่ยวกับตนเองดังนั้นก็ต้องเป็นเพลงของตนเองด้วยซึ่งเครดิตที่ว่าเพลงไหนถูกนำมาจากอัลบัมชุดไหนก็อยู่ในนี้อย่างครบถ้วนครับ 17 เพลงที่อยู่ในชุดนี้เป็นเพลงแนวออกไปทางบลุส์แจ็สเป็นหลัก แม้ว่าแต่ละจะไม่ได้โชว์การอิมโพรไวส์ของเครื่องดนตรีอะไรมากนัก แต่รับรองได้ในเรื่องของสไตล์การร้องเพลงของ Ray Charles นี่แหละครับที่จะเป็นตัวที่ทำให้คุณต้องชอบเพลงแทบทั้งชุดนี้อย่างแน่นอน
Artist : Various Artist Album : 107 FM Metropolis 2 Style : /////////////// Label : Universal Music
อัลบัมชุดนี้หากลองสังเกตดูซักนิดคุณจะพบว่าเพลงเกือบทั้งอัลบัมนั้นเป็นเพลงที่อยู่ในช่วงเวลาของยุค 70 ราวกับกำลังจะบอกเป็นนัยๆว่าเพลงในยุคนี้กำลังจะกลับมาเป็นที่นิยมกันอีกครั้ง 19 เพลงที่รวบรวมอยู่ในชุดนี้เป็นเพลงฮิตๆที่คนยุคนั้นชื่นชอบกันครับ และประมาณว่าเป็นเพลงที่ทางคลื่นวิทยุ FM 107 ถูกขอให้เปิดฟังบ่อย หลายๆเพลงถึงแม้จะอยู่ในยุคนั้นแต่ด้วยความดังของมันจึงส่งผลให้เราต้องเคยได้ยินมันไม่ว่าจะเป็นเพลง Kung Ku Fighting เพลงนี้คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากเลยครับเนื่องจากเป็นเพลงที่ใช้ประกอบโฆษณาเครื่องน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งนำมาใช้จนฮิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว I’ll Never Dance Again เปรียบเสมือนเพลงเหงาๆของคนขี้เหงาก็ว่าได้ Last Train To London เพลงดังของวง Electric Light Orchestra เป็นอีกวงที่บ้านเราเองก็ชอบก็อบเพลงของเขามาเหมือนกันครับ She’s Not There เพลงจังหวะโจ๊ะๆของศิลปินที่วงดนตรีที่เล่นกลางคืนที่เล่นเพลงประมาณที่หลากหลายหน่อยจะต้องแกะเล่นนั้นคือ Santana ด้วยความมันส์ของเพลงนี้ผมว่าหลายๆคนคงจะชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง Emotion เพลงของสามพี่น้องแห่งวง Bee Gees แต่ครั้งนี้เปลี่ยนอารมณ์มาฟังเสียงหวานๆของ Samantha Sang ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ You’re My Everything เพลงนี้ผมว่าเป็นเพลงที่ดังมากๆเลยสำหรับคนที่ทำงานออฟฟิสเพราะเป็นเพลงช้าที่เมโลดีและสียงร้องช่างโดนใจเหลือเกิน และยังมีอีกหลายๆเพลงในชุดนี้ให้ฟังกันอีกหลายเพลงบางทีคุรอาจจะชอบจนหลงเสน่ห์ของเพลงยุค 70 เลยก็ว่าได้
Artist : Era Album : The Very Best Of Style : New Age Label : Universal Music
Era เป็นศิลปินจากประเทศฝรั่งเศษซึ่งมีอัลบัมออกมาก็พอตัวอยู่เหมือนกัน หากบอกแค่ว่าพวกเขาทำเพลงออกมาแบบ New Age นั้นคงเป็นภาพกว้างๆ ดังนั้นถ้าจะให้คำจำกัดความให้แคบลงมาก็คงต้องบอกว่าหากใครเคยได้ฟังเพลงแบบพวกคอนเทมโพรารี่หรือเพลงที่พวกนักเต้นชอบนำไปใช้เป็นเพลงประกอบการเต้น ก็คงจะเป็นคำจำกัดความได้ดีสำหรับสไตล์ของพวกเขา เพลงในชุดนี้เป็นการรวมงานเพลงที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก บรรยากาศที่ได้ฟังในแต่ละเพลงนั้น ต้องยอมรับเลยครับว่าทำให้นึกถึงสถานที่หรืออารยธรรมของบ้านเขาได้อย่างไม่ยากเย็นเลย เพราะตัวเพลงแต่ละเพลงในแนวนี้มักจะชอบแฝงความลึกลับและแฝงความเป็นศิลปะและความขลังอยู่ในตัวของมัน และก็เพลงที่รวมในชุดนี้มีทั้งหมด 16 เพลงและแต่ละเพลงก็นำมาเรียงต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง เพลงในสไตล์อย่างพวกเขานี่แหละครับที่ทำให้คนฟังในฝั่งยุโรปถือเป็นแนวเพลงที่พวกเขานิยมเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่คนฟังในบ้านเราบางคนยังมีความรู้สึกหลอนๆ แต่ก็ได้ศิลปินอย่างพวกเขาที่นำแนวเพลงอย่างนี้มาผสมกับจังหวะใหม่ๆจึงทำให้เพลงดูน่าสนใจมากขึ้น รวมไปถึงเพลงของพวกเขาด้วยครับก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับคนฟังครับ
Artist : Destiny’s Child Album : Destiny Fulfilled Style : Pop Label : Sony Music
วงดนตรีวงนี้เป็นการพิสูจน์คำพูดที่เคยบอกไว้ว่า “รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย” ผมว่างานนี้แยกหมู่เราดังนะครับ เพราะการที่พวกเธอได้รวมกันออกอัลบัม มันช่างดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมซักเท่าไหร่ จนกระทั่ง Beyonce ได้ออกมาทำอัลบัมเดี่ยวของเธอทำให้เธอดังมาก และดูเหมือนว่าการกลับมารวมวงครั้งนี้ดูแล้วออกจะเหมือนเป็นการใช้ชื่อของ Beyonce หากินซะมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามการทำงานในอัลบัมชุดนี้ก็ยังคงทำออกมาได้มาตรฐานได้ดีเยี่ยมอยู่ไม่ได้ตกลงเลย เพลงที่น่าฟังในชุดนี้ก็มีเพลง Lose My Breath, Soldier สองเพลงนี้น่าจะดูเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบความมันในการขับรถและชอบการเปิดเพลงไปด้วย Is She the Reason เพลงจังหวะกลางๆที่ทำได้เพราะอยู่พอตัวและ Free ซึ่งเป็นอีกเพลงที่น่าฟัง ถ้าจะสรุปถึงเกิลล์แบนวงนี้ก็ต้องบอกว่าอัลบัมชุดนี้กไม่ได้มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษแต่ก็ดีกว่าหลายๆอัลบัมที่มีอยู่ในบ้านเรา
Artist : Mandy Moore Album : The Best Of Style : Pop Label : Sony Music
และแล้วก็ถึงเวลาที่สาวน้อยแมนดี้มัวจะออกอัลบัมรวมฮิตกับเขาบ้าง หลังจากที่ออกอัลบัมมาก็หลายชุด แต่ถ้าเทียบถึงความสำเร็จที่เธอได้รับนั้นนับว่าน้อยมากเลยทีเดียว เรียกว่าความดังขอเธอนั้นลุ่มๆดอนๆหรือประเภทดังแบบพลุแตก แต่อย่างไรก็ตามเพลงของเธอก็ยังคงมีเพลงฮิตๆที่เป็นหน้าเป็นตาให้เธอได้อยู่บ้าง เพลงที่รวมในชุดนี้มีให้ฟังถึง 14 เพลงและได้รวมทั้งเพลงดังและไม่ดังเข้าไว้ด้วยกันเช่นเพลง I Wanna Be With You เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธออย่างแรง และอีกทั้งยังเป็นเพลงประกอบภาพยนต์อีกด้วย Candy , Crush เพลงเร็วที่ทำออกมาได้เท่อยู่เหมือนกัน ,Cry เพลงจังหวะกลางที่ออกไปทางช้าอีกเพลงที่สร้างชื่อให้เธออีกเพลงแม้จะไม่ดังเท่าไหร่แต่ก็มีคนชอบเพลงนี้อยู่พอตัว อย่างไรก็ตามยังมีข้อที่น่าตำหนิอยู่อย่างหนึ่งก็ตรงที่น่าจะมีเพลงใหม่เพิ่มมาให้แฟนๆเพลงได้ฟังกัน เพราะการรวมเพลงประเภทนี้เธอก็จะได้แค่แฟนเพลงประจำเท่านั้น แต่อย่างไรอัลบัมชุดนี้ก็เป็นอัลบัมฟังได้เพลินๆอีกหนึ่งชุดครับ