Artist : Jim Brickman
Album : Ballad Vol. ll
Style : Pop / Easy Listening
Label : BMG

สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้ถ้าจะว่าไปแล้วแฟนเพลงของเขาในบ้านเรานั้นมีอยู่เยอะพอสมควรเลยครับ และแน่นอนหากใครเคยได้ดูภาพตอนที่เขามาเล่นในบ้านเรานั้นคงจะได้เห็นว่าเหล่าบรรดาแฟนเพลงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนในวัยทำงานหรือพวกหนุ่มสาวออฟฟิสหรือพวกไฮโซทั้งหลายครับ ก็แน่นอนแหละครับเพราะเพลงของพี่แกออกจะหวานขนาดนั้นนี่ครับ
Jim Brickman เคยออกอัลบัมประเภทรวมฮิตประเภทนี้มาหนึ่งชุดแล้วครับ และก็เป็นที่ประสบความสำเร็จอย่างแรงซะด้วยในบ้านเรา ดั้งนั้นจึงเป็นฤกษ์ดีที่จะเข็นชุดสองตามออกมา อัลบัมชุดนี้มีทั้งหมด 18 เพลง ก็มีทั้งเพลงร้องและเพลงที่เป็นเดี่ยวเปียโน ประมาณว่าฟังกันให้หวานเลียนหมดขึ้นกันไปข้างหนึ่งเลยครับ
เพลงที่อยากจะให้ฟังกันเลยนะครับ You ที่ได้เสียงหวานๆ ของ Jane Krakowaki มาร้อง หรือ Destiny เพลงรักความหมายดีๆ และอีกเพลงที่ชอบเป็นการส่วนตัวเลยก็คือ Starbright (Lullaby Madley) เพราะมากครับยกให้เป็นที่หนึ่งเลย เพลงที่รวมมาในชุดนี้บอกได้คำเดียวครับว่าเป็นอัลบัมที่รวมเพลงเพราะๆไว้เยอะและคุ้มอีกชุดเลยครับ ยิ่งหากคุณเป็นคนที่ชอบฟังอะไรเย็นๆสบายๆโดยเฉพาะเสียงเปียโนนุ่มๆ คงไม่น่าพลาดอย่างแน่นอน

---

Artist : Wild
Album : Time
Style : Classic / Contemporary
Label : EMI

นับตั้งแต่ความสำเร็จที่ Vanessa May ได้สร้างเอาไว้เมื่อครั้งก่อนโน้นนั้นก็ทำให้เกิดเป็นแนวทางให้วงรุ่นต่อๆมาได้เดินรอยตามไม่ว่าจะเป็น Bond หรือ Maxim และวงนี้ก็เช่นกันซึ่งนับเป็นวงรุ่นใหม่ไฟแรงอีกหนึ่งวงที่เดินบนเส้นทางนี้ กับพวกเธอ Wild
สำหรับวงนี้ประกอบไปด้วยสาวสวย 5 ชีวิตโดยที่ 2 คนมาจากประเทศเซอร์เบียร์และอีก 3คนเป็นคนชาติอังกฤษ โดยในวงมีตำแหน่ง หนึ่ง viola สอง violin หนึ่งคีย์บอร์ด และอีกหนึ่งทีควบสองตำแหน่งนั้นคือ เปียโนและร้อง และเพลงของของพวกเธอนั้นที่ทำออกมาไม่ต้องสงสัยเลยครับว่าใครเป็นทีมผลิต เพราะเป็นทีมเดียวกันกับที่ทำเพลงให้กับ Vanessa May , Bond , Maxim , Prodigy และอีกหลายคน ดังนั้นเพลงที่ออกมาจึงอยู่ในโทนเดียวกัน
เพลงของพวกเธอนั้นทำออกมา หากจะเปรียบเทียบแล้วผมนึกถึงเพลงประกอบภาพยนต์ซะมากกว่า แต่การทำเพลงในชุดนี้ถือว่าเป็นการทำเพลงที่มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆซ่อนอยู่เยอะพอสมควร หากใครฟังเพลงของเธอผ่านเครื่องเสียงดีๆหรือซาวอะเบาด์แล้วละก็จะพบอะไรเยอะแยะเลยครับ เพลงที่น่าฟังเลยนะครับก็มี Hipnotic , Time & Silence , Running Free เป็นต้นจริงๆแล้วนอกเหนือจากเพลงที่ผมกล่าวมานั้นยังมีเพลงที่เพราะอยู่อีกหลายเพลง และในบรรดาเพลงเหล่านั้น สาเหตุหนึ่งที่ชอบก็คือด้วยความที่เธอทำเพลงออกมาในสำเนียงของเอเชียนั้นเองครับ หากจะมองอย่างตรงไปตรงมาแล้วผมว่ามันคือเหล้าเก่าในขวดใหม่นั้นเอง แต่ว่าเป็นเหล้าที่ได้คุณภาพกว่าเดิมครับ

---

Artist : Sky Sweetnam
Album : Noise From The Basement
Style : Pop / Punk
Label : EMI

สาวน้อยวัย 16 จากแคนาเดียนที่มาในสไตล์เดียวกันเลยครับกับ Avril Lavigne และเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากครับที่นักร้องที่อายุประมาณนี้ส่วนใหญ่จะหันมาร้องเพลงสไตล์นี้กันเยอะพอสมควร เหมือนกับว่ายุคนี้กำลังเป็นยุคของการกลับมาของพั้งก์
Sky Sweetnam ก่อนหน้าที่เธอจะได้มาออกอัลบัมชุดนี้เธอเคยผ่านงานเพลงประกอบภาพยนต์มาหนึ่งเรื่องนั้นคือเพลง Billy S. ซึ่งเข้าไปอยู่ในหนังเรื่อง How To Deal และเป็นเพลงที่ส่งความแรงให้เธอได้ดังไปด้วย
ที่นี้เรามาดูเพลงของเธอกันครับ สไตล์เพลงของเธอนั้นออกมาแบบวัยรุ่นจริงๆครับนั้นคือเน้นเพลงสนุกๆเอาไว้ก่อน เพราะว่าหลังจากฟังเพลงของเธอมา 13 เพลงแล้ว มติของผมเป็นเอกฉันท์เลยครับว่าเธอมีเพลงที่ผมคิดว่าเป็นเพลงช้าเพลงเดียวจริงๆนั้นคือ เพลงสุดท้ายครับนอกนั้นเป็นเพลงเร็วและเพลงจังหวะกลางๆ
สำหรับเพลงในชุดนี้เพลงเด่นๆที่ใช้เป็นไม้ตายเลยก็คือเพลง Billy S., Tangle Up In Me และ Number One แต่ส่วนตัวผมแล้วผมกลับชอบเพลงที่ไม่ใช่เพลงโปรโมตมากกว่าอย่างเพลง Falling Through หรือ Unpredictable ซึ่งฟังดูแล้วมันมีรายละเอียดทางดนตรีเยอะกว่าครับ และฟังดูเป็นแนวทางส่วนตัวของเธอได้ดีกว่าป็อปพั้งก์ธรรมดาๆซะอีกครับ แต่อย่างไรก็ลองหาฟังกันดูแล้วกันครับ

---