Music News :
ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2547 DVD + CD 8 ธ.ค. 47
ได้รับความเอื้อเฟื้อแผ่น
CD จาก Universal Music, Warner Music, EMI, Sony BMG, Platinum, United Home Entertainment,Virtuoso, Smallroom, S.stack กีตาร์ไทยขอขอบพระคุณอย่างสูง
Artist : U2 Album : How To Dismantle An Atomic Bomb Style : Rock Label : Universal Music
หายหน้าหายตากันไปพักใหญ่ๆหลังจากออกงานชั้นเยี่ยมอย่าง All That You Can’t Leave Behind ซึ่งมีเพลงฮิตและเพราะอยู่หลายเพลงที่เดียว และการกลับมาครั้งนี้ของ U2 นั้นก็แทบจะไม่ทิ้งความแตกต่างจากชุดก่อนซักเท่าไหร่สำหรับแนวเพลง แต่ตัวเพลงนั้นอาจจะเข้มข้นขึ้น Vertigo ซิงเกิ้ลแรกที่ตัดออกมาอาจดูคล้ายๆกับเพลง Elevation ซักนิดแต่เพลงนี้ไม่มันส์เท่าแต่ก็มีความเท่ห์อยู่พอตัวที่จะเป็นเพลงแรกในการเปิดตัว Miracle Drug และ Sometimes You Can’t Make It On Your Own เพลงช้าเท่ห์ๆที่เป็นสไตล์ของ U2 ชอบทำและทุกครั้งที่เราได้ฟังเพลงช้าของ U2 แทบทุกเพลงคงไม่สามารถปฎิเสธได้ถึงความเพราะและตัวเพลงที่มีเมโลดีติดหู และทั้งสองเพลงนี้น่าจะถูกตัดไปเป็นซิงเกิ้ลสำหรับเพลงต่อไปอย่างแน่นอนไม่เพลงใดก็เพลงหนึ่ง Love And Peace Or Else เพลงจังหวะโจ๊ะๆแต่หลอนเหมือนกันครับ All Because Of You เพลงเร็วที่มีความเป็นป็อปๆผสมอยู่ หากลองตัดเสียงของเอ็ฟเฟคต่างๆออกไปแล้วผมว่าตัวแกนกลางของเพลงได้รับอิทธิพลมาจาก The Beatles อยู่พอสมควรครับ One Step Closer เพลงช้าเหงาๆที่เพราะอีกเพลงต่อด้วย Original Of Species ช่างเข้ากันได้ดีอินโทรขึ้นมาก็เพราะแล้วครับและยิ่งเจอท่อนฮุคยิ่งเพราะเข้าไปใหญ่ครับ YahWeh เพลงจังหวะกลางๆแต่เท่ห์ดีครับ หากจะนำชุดนี้ไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จของ All That You Can’t Leave Behind แล้วละก็ผมว่าชุดนี้อาจจะไม่มีเพลงที่ฟังรอบแรกแล้วติดหูอย่างชุดที่แล้ว เพราะในชุดนี้พวกเขาทำดนตรีให้ดูเข้มกว่าเดิม มันเหมือนกับว่าต้องค่อยๆฟังแล้วความเพราะมันจะซึมซับเอง แต่สิ่งสำคัญเลยในชุดนี้ที่อยากให้ตั้งใจฟังกันดีๆครับนั้นก็คือเรื่องของ ซาวด์เล็กๆน้อยๆที่อยู่ในเพลง หากใครมีเครื่องเสียงดีๆหรืออาจจะลองฟังกับซาวด์อเบ้าว์ดูซิครับน่าจะได้ยิน ไอ้จุดนี้แหละครับเป็นสไตล์เฉพาะตัวของพวกเขาที่คงไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าหาวงได้น้อยมากหรือแทบจะไม่มีซะด้วยซ้ำกับวงที่เล่นเรื่องซาวด์ได้ดีเยี่ยมขนาดนี้
Artist : Creed Album : Greatest Hits Style : Rock Label : Sony Music
กลายเป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้วครับสำหรับศิลปินกลุ่มนี้ ซึ่งปัจจุบันก็กลายไปเป็นวง Alter Bridge ที่พึ่งออกอัลบัมมาหนึ่งชุดไปหมาดๆ และน่าจะไปได้ไกลสำหรับอนาคตข้างหน้า อัลบัมชุดนี้เป็นการรวมเพลงที่น่าจะดีที่สุดของ Creed เข้าไว้ถึง 13 เพลง ซึ่งเพลงฮิตๆติดตลาดหลายๆเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้าเพลงเร็วนั้นมีให้ฟังกันครบถ้วนครับ ไม่ว่าจะเป็น Higher , My Sacrifice , With Arms Wide Open , What If หรือ Bullet และอีกหลายๆเพลงที่เจ๋งไม่แพ้กัน อัลบัมรวมฮิตที่รวมเพลงดีๆอย่างนี้ผมว่าคุ้มมากๆครับสำหรับแฟนเพลงทั้งที่เคยฟังและไม่เคยฟังมาก่อนและคิดจะซื้อ ผมว่าเพลงชุดนี้ช่วยเป็นไกด์ให้คุณไดอย่างดีมาก และอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากสำหรับอัลบัมชุดนี้ก็คือ มีอีกสิ่งที่พอเศษเป็นอย่างมากนั้นคือมี VCD ที่รวมมิวสิควิดีโอของทางวงเอาไว้ครบทุกเพลงครับ และที่สำคัญก็คือมีการเพิ่มภาพการแสดงสดของพวกเขาถึง 3 เพลงด้วยกัน และเป็นการแสดงสดอยู่บนดาดฟ้าของตึก ซึ่งเจ๋งมากครับ งานนี้คอเพลงทั้งหลายไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่ง
Artist : Darius Album : Live Twice Style : Pop Rock Label : Universal Music
สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้หากจะว่าไปแล้วผมว่าดูเหมือนเขากำลังจะก็อปปี้ตั้งแต่สไตล์การแต่งตัวจนไปถึงแนวเพลงให้ออกมาเหมือนกับ Erique ยังไงยังงั้นครับ แม้ว่าจะไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็พอที่จะทำให้นึกถึงได้ Kinda Love เพลงที่ออกมาแบบ Alternative อังกฤษ เพลงนี้แฝงความน่ารักอยู่พอตัวเลยครับ Live Twice เพลงช้าที่ท่อนฮุคติดหูทีเดียวครับ ถ้านำไปร้องตอนคอนเสริตคงจะเป็นเพลงที่น่าจะมีแฟนเพลงร้องตามได้อย่างไม่ยากเย็น How Do You like It เพลงจังหวะกลางๆเป็นป็อปร็อคสนุก Resolution เพลงช้าโจ๊ะๆเพราะที่เดียว กะขายท่อนฮุคโดยเฉพาะครับ Save Me ทำออกมาเป็นพวกโมเดิร์นร็อกได้สบายๆ If I Could เพลงช้าเหงาๆที่เน้นไปที่เปียโนและเครื่องสาย Only You เพลงสไตล์โมเดิร์นร็อกเท่ห์ๆอีกแล้วครับ Journey’s You เพลงช้าเพราะๆอีกแล้วครับ ส่วนตัวผมแล้วผมว่า Darius น่าจะหันไปร้องเพลงในสไตล์ easy listening ให้เป็นกิจลักษณะไปเลย มันน่าจะดูเหมาะกับเขามากกว่าที่จะเอาเพลงที่เป็นร็อกๆมาผสม แต่อัลบัมชุดนี้ก็เป็นอัลบัมที่มีเพลงเพราะซ่อนอยู่หลายเพลงเลยครับ ถ้าหากใครอยากจะลองฟังอะไรใหม่ๆผมว่าชุดนี้น่าจะเป็นตัวเลือกให้ได้ไม่ยากเลยครับ
Artist : Bee Gees Album : Number One Style : Pop Label : Universal Music
กลายเป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้วครับสำหรับสามพี่น้องวงนี้ นับตั้งแต่เขาได้สูญเสียสมาชิกซึ่งเป็นหนึ่งในพี่น้องของเขาไป แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าวงจะแตกแต่ผลงานดีๆก็ยังมีตามออกมาให้ฟังกันในรูปแบบต่างๆอย่างเช่นอัลบัมชุดนี้ คอนเซปต์ก็อย่างชื่ออัลบัมเลยครับคือทุกเพลงที่ได้ถูกรวบรวมมาไว้ในอัลบัมชุดนี้นั้นเราอาจจะบอกได้ว่าเป็นเพลงที่ติดชาร์ตและสามารถถึบตัวเองไปได้ถึงอันดับหนึ่งตาทชาร์ตต่างๆได้อย่างสวยงาม แต่สำหรับความคิดของผมแล้วการรวบรวมงานเพลงในชุดนี้ที่เอาเพียงแค่ 19 เพลงนั้นผมว่ามันดูช่างน้อยไปหน่อยสำหรับวงดนตรีวงนี้ อย่างน้อยๆนั้นก็น่าจะทำเป็นซีดีสองแผ่นคู่ไปเลยครับถึงจะดูเหมาะสมกับ Bee Gees ครับ สำหรับอัลบัมชุดนี้เพลงดีๆและดังๆนั้นถูกรวมเข้าไว้ครบอย่างแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นเพลง Words , I Started A Joke , How Deep Is Your Love , Massachusetts , Too Much Heaven หรือเพลงเร็วๆในแนวดิสโก้แบบ Stayin’ Alive , Night Fever ,Tragedy หรือ Love You Inside Out เป็นต้น และนอกจากเพลงเหล่านี้ยังมีเพลงพิเศษเพิ่มมาให้อีกหนึ่งเพลงซึ่งเป็นเพลงที่นาย Maurice Gibb เพื่อเป็นการทริบิวด์ให้กับอะไรซักอย่างซึ่งตัวผมเองก็ยังไม่ทราบครับ และสิ่งที่พิเศษอีกอย่างของอัลบัมชุดนี้ก็คือมี DVDแถมมาให้ดูกันด้วยครับ เป็นภาพบันทึกการแสดงสดของพวกเขาที่คัดเอาเฉพาะเพลงเด่นๆมา 5 เพลง นั้นคือ How Can You Mend A Broken A Broken Heart , How Deep Is Your Love , Jive Talkin’ , Massachusetts และ I Started A Joke ส่วนรายละเอียดที่ว่าบันทึกมาจากที่ไหนนั้นไม่ทราบอีกแล้วครับ เพราะในปกก็ไม่ได้บอกอะไรไว้ด้วยครับ แต่ยังไงก็ตามก็เป็นอัลบัมที่รวมฮิตที่นับว่าคุ้มมากสำหรับการได้ฟังเพลงที่น่าจะดีที่สุดและดังที่สุดของพวกเขาครับ
Artist : Bee Gees Album : Number One Style : Pop Label : Universal Music
กลายเป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้วครับสำหรับสามพี่น้องวงนี้ นับตั้งแต่เขาได้สูญเสียสมาชิกซึ่งเป็นหนึ่งในพี่น้องของเขาไป แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าวงจะแตกแต่ผลงานดีๆก็ยังมีตามออกมาให้ฟังกันในรูปแบบต่างๆอย่างเช่นอัลบัมชุดนี้ คอนเซปต์ก็อย่างชื่ออัลบัมเลยครับคือทุกเพลงที่ได้ถูกรวบรวมมาไว้ในอัลบัมชุดนี้นั้นเราอาจจะบอกได้ว่าเป็นเพลงที่ติดชาร์ตและสามารถถึบตัวเองไปได้ถึงอันดับหนึ่งตาทชาร์ตต่างๆได้อย่างสวยงาม แต่สำหรับความคิดของผมแล้วการรวบรวมงานเพลงในชุดนี้ที่เอาเพียงแค่ 19 เพลงนั้นผมว่ามันดูช่างน้อยไปหน่อยสำหรับวงดนตรีวงนี้ อย่างน้อยๆนั้นก็น่าจะทำเป็นซีดีสองแผ่นคู่ไปเลยครับถึงจะดูเหมาะสมกับ Bee Gees ครับ สำหรับอัลบัมชุดนี้เพลงดีๆและดังๆนั้นถูกรวมเข้าไว้ครบอย่างแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นเพลง Words , I Started A Joke , How Deep Is Your Love , Massachusetts , Too Much Heaven หรือเพลงเร็วๆในแนวดิสโก้แบบ Stayin’ Alive , Night Fever ,Tragedy หรือ Love You Inside Out เป็นต้น และนอกจากเพลงเหล่านี้ยังมีเพลงพิเศษเพิ่มมาให้อีกหนึ่งเพลงซึ่งเป็นเพลงที่นาย Maurice Gibb เพื่อเป็นการทริบิวด์ให้กับอะไรซักอย่างซึ่งตัวผมเองก็ยังไม่ทราบครับ และสิ่งที่พิเศษอีกอย่างของอัลบัมชุดนี้ก็คือมี DVDแถมมาให้ดูกันด้วยครับ เป็นภาพบันทึกการแสดงสดของพวกเขาที่คัดเอาเฉพาะเพลงเด่นๆมา 5 เพลง นั้นคือ How Can You Mend A Broken A Broken Heart , How Deep Is Your Love , Jive Talkin’ , Massachusetts และ I Started A Joke ส่วนรายละเอียดที่ว่าบันทึกมาจากที่ไหนนั้นไม่ทราบอีกแล้วครับ เพราะในปกก็ไม่ได้บอกอะไรไว้ด้วยครับ แต่ยังไงก็ตามก็เป็นอัลบัมที่รวมฮิตที่นับว่าคุ้มมากสำหรับการได้ฟังเพลงที่น่าจะดีที่สุดและดังที่สุดของพวกเขาครับ
Artist : Various Artist Album : Favorites Great Songs Will Always Remember l & l Style : Easy Listening Label : Universal Music
ยังคงจำภาพเมื่อยุคสมัย 80 – 90 กันได้อยู่ไหมครับ ช่วงที่ซีดียังไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันซักเท่าไหร่เนื่อจากราคาที่ยังสูงอยู่ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักฟังเพลงอย่างเราๆท่านๆก็คงจะหนีไม่พ้นเทปนั้นแหละครับ และช่วงเวลานั้นก็จัดว่ามีทั้งศิลปินและเพลงดีเต็มไปหมด และนี่แหละครับที่กำลังจะพูดถึง นั้นคืออัลบัมชุดนี้ที่เป็นการรวมเพลงเก่าๆในช่วงนั้น ดูจากปกอัลบัมก็คงจะพอทราบกันบ้างแหละครับ เพลงที่ถูกรวมในชุดนี้ถูกแยกออกเป็น 2 อัลบัมมีให้เลือกหาเลือกฟังกันตามสบาย และใน Volume 1 นั้นก็มีเพลงเพราะอย่าง Love Of A Lifetime ของวง Fire House ในเวอร์ชั่นอะคูสติก Insensitive เพลงดังในยุคสมัยหนึ่งเลยครับเพลงนี้แต่งออกมาได้ติดหูดีนักกับคนไทย เป็นเพลงของ Jane Arden หรือเพลง Lady In Red เพลงหวานๆของ Chris De Burgh เพลงนี้เพราะมากครับ ช่วงหนึ่งของยุคสมัยเรีกว่าอัลบัมไหนที่ไม่มีเพลงนี้รวมอยู่นับว่าเฉยมาก When Will I See You Again เพลงของ Brother Beyond และเพลงต่อมา Missing You เพลงนี้ลองฟังกันดูนะครับ มันคือเพลงไทยเพลงหนึ่งลองไปเดากันดูเล่นๆละกันครับ On Bened Knee จะเรียกว่าเป็นอาร์แอนด์บียุคแรกๆก็ว่าได้ เป็นเพลงของ Boyz ll Men เสียงประสานเพราะมากครับ และยังมีอีกหลายเพลงครับ ที่นี้เราหันมาดู Volume 2 กันบ้าง และดูเหมือนว่าเพลงในชุดนี้จะทันสมัยขึ้นมาหน่อย และศิลปินก็เริ่มที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วยเช่นเพลง Torn ที่ดังกันทั่วบ้านทั่วเมืองกับ Natalie Imbruglia ที่อาจจะเรียกว่าดังอยู่เพลงเดียวก็ได้ครับ I‘ll Be Over You เพลงเก่งของวง ToTo ครับหรือเพลง Amanda ของ Boston และ Sometimes Love Just Ain’t Enough ซึ่งเพลงนี้เป็นการร่วมกันร้องระหว่าง Patty Smyth และ Don Henley หนึ่งในพญานกอินทรี หรือจะเป็นเพลงที่ฟังแล้วเพราะมากๆ โยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงอินโทรอย่างเพลง Eye In The Sky ของวง The Alan Parsons’ Project เป็นต้น สำหรับ 2อัลบัมนี้นับว่าเป็นการรวมเพลงฮิตๆไว้เยอะพอตัวเลยครับ สำหรับเพลงดีๆในยุคนั้นความจริงแล้วอยากจะบอกว่าแค่สองอัลบัมยังไม่พอเลยครับ ยังไงก็ลองเลือกหาฟังกันดูครับ
Artist : Cam’ron Album : Purple Haze Style : Hip Hop Label : Universal Music
ครั้งแรกที่เห็นชื่อของอัลบัมชุดนี้ ตัวผมเองนั้นก็แอบหวังอยู่ลึกๆเลยครับว่าอาจจะได้ฟังเพลง Purple Haze ของท่าน Jimi Hendrix ซึ่งเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่เป็น ฮิปฮอป เพราะชื่อดันมาเหมือนกัน นึกอยู่ในใจว่าถ้าหากมันเป็นจริงแล้วละก็จะออกมามันส์ขนาดไหน และแล้วก็ต้องผิดหวังครับ เพราะมันเป็นชื่ออัลบัมเฉยๆไม่ได้มีเอี่ยวอะไร ว่ากันเรื่องของเพลงในชุดนี้ซึ่งมีทั้งหมด 24 เพลงโดยที่จะมีบางแทร็คจะเป็นเสียงพูด เหมือนเกริ่นนำอะไรซักอย่าง สไตล์การร้องของ Camron นั้นผมว่าเขาร้องเหมือนพวกคนบ่นๆมากกว่าครับ เพลงที่อยากให้ฟังกันก็มี Harem Street ดนตรีของเพลงนี้ออกมา Soul เสียงของไลด์เปียโนนั้นเพราะดีครับ Soap Opera เพลงนี้ตอนอินโทรที่เป็นเสียงผู้หญิงร้องนั้นน่ารักมากครับดูกลายเป็นอีกเพลงนึงไปเลย More Reason ออกมาเป็น โซลผสมกับอาร์แอนด์บี และในส่วนของเพลงอื่นๆนั้นผมว่าเขาก็ไม่ได้ร้องแตกต่างกันซักเท่าไหร่นัก และอย่างที่บอกเอาไว้นะครับว่าสไตล์การร้องของ Camron นั้นจะออกมาเป็นพวกเหมือนคนบ่นๆมากกว่า แต่ก็ยังเป็นการบ่นแล้วได้อารมณ์ในการโยกหัวแบบฮิปฮอปครับ
Artist : Ludacris Album : The Red Light District Style : Hip Hop Label : Universal Music
สำหรับพ่อหนุ่มแร็พคนนี้มาแบบพวกแก็งสเตอร์จริงๆครับแต่การทำดนตรีของเขาน่าสนใจมากที่เดียวหากลองฟังกันดูดีๆแล้วคุณจะพบว่า ภาคดนตรีมีอะไรซ่อนอยู่เต็มไปหมดเช่นเพลง Child Of The Night เพลงนี้มีจังหวะของพวกบอสซาโนว่าซ่อนอยู่และต้องตั้งใจฟังกันซักหน่อย โดยเฉพาะไลด์ของเบสนั้นจะเป็นตัวที่เห็นได้ชัดที่สุด หรือเพลง Blue Berry Yum Yum ที่มีความเป็นพวกละตินๆนิดๆ แต่เทคนิคการร้องในเพลงนี้ยอมรับเลยครับว่าแจ๋วจริงโดยเฉพาะการที่ทำเสียงของตัวเองเป็นเสียงดีเลย คิดไดยังไงก็ไม่รู้ แต่เท่ห์ดีครับ หรือเพลง Spur Of The Moment คอร์ดของเพลงนี้ที่เล่นโดยเปียโนนั้นเจ๋งมากครับ เป็นการทำเพลงโดยใช้ความรู้ได้อย่างเหมาะสมและยอดเยี่ยม แต่คงต้องตั้งใจฟังกันซักนิดนะครับถึงจะได้ยินมัน เพราะมันมาแบบจางๆเป็นแบ็คกราวอยู่ข้างหลัง ในส่วนของสไตล์การร้องของเขานั้นก็คงจะไม่ค่อยต่างอะไรมากนักกัลศิลปินในแนวนี้คนอื่นๆ และพักหลังๆมานี้ผมว่าคนที่อยู่ในสายนี้นั้นหากจะวัดว่าใครเจ๋งกว่าใครก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่พอตัวเลยครับ ดังนั้นสิ่งที่เป็นความคิดส่วนตัวขิงผมเลยว่าหากอบากจะวัดความเจ๋งของไอเดียนั้นผมวัดที่การทำดนตรีเลยครับ อย่างเช่นศิลปินคนนี้หากมองเผินๆแล้วผมว่าธรรมดาเลยครับ แต่ถ้ามองลึกไปถึงดนตรีของเขาคงต้องบอกเลยว่าเจ๋งมากครับ