Artist : Marilyn Manson
Title : Guns ,God And Government
Label : United Home Entertainment

นับตั้งแต่ Alice Cooper และ Kiss เป็นผู้กรุยทางสไตล์ Horror Rock เอาไว้จนเป็นที่กล่าวขวัญถึงเรื่องภาพลักษณ์ที่ออกมาบนเวทีว่าโหดอย่าบอกใคร แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดที่แรงเท่ากับวงดนตรีอย่าง Marilyn Manson อย่างแน่นอน พวกเขาเป็นผู้ที่สืบทอดเจตนารมจาก Alice Cooper และ Kiss และพัฒนามันชัดเจนให้สื่อถึงภาพของร็อกสตาร์คนหนึ่งที่ดูเป็นปีศาจที่บ้าเซ็ก,ยาเสพติดและบูชาซาตานอีกทั้งยังคลั่งความรุนแรงเป็นชีวิตจิตใจ

คอนเสริต์ครั้งนี้เป็นการรวมเอาภาพการทัวร์ตามประเทศต่างๆมารวมกันไม่ว่าจากเมริกา,ญี่ปุ่น,รัสเซียและอีกหลายที่ในแทบยุโรปรวมถึงบางส่วนจากเวทีงาน Ozz Fest ในประเทศที่เคร่งศาสนาคอนเสริต์ของ Manson กลายเป็นของหายากสำหรับแฟนเพลง นั้นก็เพราะภาพการแสดงที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการนำชุดของโป็ปในคราบของปีศาจมาใส่ล้อเลียน,การท้าทายต่อพระเจ้าด้วยท่าทางและบทเพลงและอีกหลายอย่าง หลายครั้ง Manson ถูกห้ามแสดงในประเทศเหล่านั้นจนกลายเป็นกฎขนาดห้ามชายคนนี้เข้าประเทศด้วยซ้ำ ภาพทั้งหมดนี้มีให้เห็นอย่างแน่นอนในดีวีดีแผ่นนี้แม้จะมีการตัดทอนออกไปบ้างเพื่อความเหมาะสมแต่ก็ยังสื่อให้เห็นความต้องการของเรื่องเหล่านี้อย่างแน่นอน เพลงที่เราจะได้เห็นจากดีวีดีแผ่นนี้ก็จะมาจากอัลบั้มชุด Antichrist Superstar ซึ่งเป็นทั้งยุดทองและยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงให้ดูด้วย เพลงที่นำมาเล่นก็มี Irresponsible Hate Anthem ,The Reflection God ,Sweet Dreams, The Beautiful People, Antichrist Superstar ,Lunch Box ,The Love Song , The Fight Song ,The Dope Show เป็นต้น

ความมันส์ในบทเพลงนั้นค่อนข้างจะดีทีเดียวเป็นการต่อเพลงที่ได้อารมณ์เอามากๆ แต่จะมีข้อเสียอยู่อย่างก็คือวิธีการนำเสนอภาพที่ตัดไปตัดมาของคอนเสริต์จากหลากๆที่นั้นมันไม่อาจจะทำให้ได้อารมณ์ของการแสดงสด แต่กลับเหมือนเป็นการดูมิวสิควีดีโอซะมากกว่า ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับในเทคนิคการถ่ายที่น่าจะออกมาโดนใจ Manson อย่างแรง กับภาพและมุมกล้องที่สื่อให้เหมือนกับดูโชว์หนังผีสยองขวัญซักเรื่องหนี่ง จนบ้างครั้งการแสดงบนเวทีกลายเป็นเรื่องที่มีบทบาทสำคัญกว่าตัวเพลงซะด้วยซ้ำ และคิดว่าถ้า Manson ลองได้เข้าไปทำหนังซักเรื่องน่าจะดี (เพราะเขาเป็นคนกำกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับวง )

ในส่วนของฟีทเจอร์ที่แถมมานั้นค่อนข้างน่าสนใจอย่างมาก ภายใต้แทร็กที่ชื่อว่า The Death Parade เป็นการถ่ายภาพทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังรวมถึงภาพลับๆในห้องส่วนตัวอย่างมากมาย ส่วนนี้เป็นการเก็บมาจากการทัวร์ตามที่ต่างๆนั้นแหละครับ ในฟีทเจอร์นี้ภาพหลายๆตอนค่อนข้างจะล่อแหลมเอาการเลย ไม่ควรเอาแบบอย่างโดยเฉพาะสาวๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นโดยภาพรวมจากคอนเสริต์นี้กับเมตัลผสมอินดัสเตรียลมันส์ๆก็น่าจะเป็นที่ถูกใจสาวกแน่นอน

---

Artist : Emerson,Lake&Palmer
Title : Live At Montreux 1997
Label : United Home Entertainment

วงดนตรีทรีโอรุ่นใหญ่จากปี 1970 ที่ปัจจุบันห่างหายไปจากวงการโดยเฉพาะในบ้านเราที่แฟนเพลงรุ่นใหม่ๆไม่อาจจะรู้จักอย่างแน่นอน ในทางกลับกันในประเทศญี่ปุ่นพวกเขาเปรียบเสมือนพระเจ้าอีกตนหนึ่ง พวกเขาเป็นวงสามชิ้นที่ประกอบไปด้วย เบสรับหน้าที่ร้องนำด้วย,กลองและคีย์บอร์ด กับสไตล์เพลงออกโพรเกสซีพร็อก แม้ว่าจะเป็นวง 3 ชิ้นกับสไตล์นี้แต่พวกเขาก็สามารถอุดรูรั่วได้อย่างแน่น งานหนักจึงตกไปอยู่กับมือคีย์บอร์ดที่ควบทั้งเปียโนและซินดิไซเซอร์ไปในตัวด้วย คอนเสริต์เล่นขึ้นเมื่อปี 1997 แฟนเพลงทุกคนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อกับพวกเขา ราวกับเป็นของหายาก ความยาว 84 ในแผ่นนี้อัดการแสดงอย่างเต็มที่ไม่มีการพักแต่อย่างใด 13 เพลงดังรวมเพลงเมดเล่ย์ที่ยาวมากๆถูกนำมาเล่นไม่ว่าจะเป็น Lucky Man , Karnevil 9 , Hoedown ,Take A Pebble , Tiger In The Spotlight , Tarkus , เป็นต้น แม้ว่าคอนเสริต์นี้อาจจะไม่ใช่การเล่นครั้งสุดท้ายก่อนที่วงจะห่างหายไป ด้วยสาเหตุที่มือของ Emerson มือเปียโนของวง ที่ไม่สามารถใช้การได้ และต้องรับการผ่าตัด แต่คอนเสริต์นี้ดูเหมือนจะมีค่ากับนักฟังในบ้านเราอย่างยิ่ง

---

Artist : Elvis Costello And The Imposters
Title : Live In Memphis
Label : United Home Entertainment

หนุ่มใหญ่วัยกลางคนในมาดร็อกเกอร์ภายใต้สีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ชุดสูทพร้อมน้ำเสียงนุ่มลึกราวกับมีอะไรซ่อนอยู่ เขาเป็นผู้ที่ผสมผสานสไตล์ดนตรีหลากหลายชนิดเข้ากับบทเพลง ไม่ว่าจะเป็นป็อป,ร็อกแอนด์โรล,บลูส์,พั้งก์,แจ็ส,คันทรี่จนถึงเร็กเก้สกา ด้วยความที่เขามีรากฐานของสไตล์แต่ละอย่างที่ดี Elvis อาจจะเป็นตัวอย่างของคนดนตรีในแบบฉบับอเมริกันร็อกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดีวีดีแผ่นนี้เป็นภาพการบันทึกแสดงสดที่คลับเล็กๆเมื่อปลายปี 2004 คนดูพอประมาณซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแฟนเพลงที่เหนี่ยวแน่น ภาพออกมาเลยดูเป็นกันเอง เพลงที่เตรียมมาเล่นครั้งนี้ค่อนข้างจะเป็นเพลงเก่าขึ้นทำเนียบเพลงคลาสสิกของเขาไม่ว่าจะเป็นเพลง Radio Radio , Pump It Up , Alison , Peace Love And Understanding รวมแล้วกว่า 20 บทเพลงในเวลาราว 2 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของฟีทเจอร์อย่าง เพลงที่เป็นโบนัสแถมมาให้อีก 4 เพลง รวมไปถึง Road Trip Documentary ร่วมชั่วโมงเป็นภาพเก็บมาจากการขับรถตระเวนทั้งในและนอกเมืองพร้อมกีต้าร์หนึ่งตัวและนั่งคุยถึงเรื่องต่างๆอย่างมากๆระหว่างทาง รวมถึงการไปสัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ และห้องอัดเสียงสำหรับงานชุดใหม่ ดีวีดีแผ่นนี้ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่พิเศษสำหรับแฟนตัวยงซะมากกว่านัฟังเพลงทั่วๆไปที่ชอบแค่เพียงเพลงเก่งอย่าง She แม้ว่าเขาจะเป็นคนร้องเอาไว้แต่ก็ไม่มีให้ชมครับนอกเสียจากคุณเป็นคอเพลงคันทรี่,บลูส์,ร็อกแอนด์โรลที่ค่อนข้างเป็นมาตราฐานของชาวอเมริกัน ดีวีดีแผ่นนี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

---

Artist : Keith Jarrett Trio
Title : Keith Jarrett Trio Concert 1996
Label : United Home Entertainment

วงทรีโอวงนี้นับว่าเป็นวงทรีโอชันเลิศที่ยังมีให้เห็นและแสดงศักยภาพของฝีมือที่มีอยู่ในตัวบุคคลอย่างเต็มที่ นับตั้งแต่ Bill Evans Trio ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวง ทรีโอที่ดีที่สุดในโลก ก็น่าจะเป็นวงนี้ที่สามารถสืบทอดความยิ่งใหญ่ของวงดนตรีสามชิ้นได้เป็นอย่างดี ทรีโอในนามของ Keith Jarrett นั้นประกอบไปด้วย Keith Jarrett เปียโน, Gary Peacock เบส และ Jack De Johnette กลอง ทั้งสามทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รับส่งกันได้เป็นอย่างดี

คอนเสริต์ครั้งนี้ได้บันทึกมาจากการเล่นในญี่ปุ่นเมื่อปี 1996 ถึงแม้ว่า Keith Jarrett จะมีการบันทึกการแสดงสดของเขาที่มาจากประเทศญี่ปุ่นซักกี่ครั้งก็ยังคงน่าดูเสมอ เพราะเขาได้รับเชิญไปเล่นที่นั่นบ่อยมาก ขนาดที่ว่ามีดีวีดีคอนเสริต์ครบรอบการเล่นครั้งที่ 100 ของเขาออกมาขายเป็นที่ระลึกเลยก็ว่าได้ คอนเสริต์ครั้งนี้ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างไปจากเดิมที่เคยเห็นมากนัก เพราะพวกเขาทั้งสามยังคงโชว์ความเก๋าของฝีมืออย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่ไม่สามารถหาข้อบกพร่องตรงไหนได้เลย จะมีที่ต่างก็คงเป็นเรื่องของเพลงที่นำมาเล่นในครั้งนี้ ซึ่งแต่ละเพลงล้วนแล้วแต่เป็นเพลงแสตนดาร์ดที่คนส่วนใหญ่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็น It Could Happen To You , Billie’s Bounce ,Mona Lisa , Autumn Leaves , My Funny Valentine และ All The Things You Are เป็นต้น เพลงเหล่านี้ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมในหมู่คนฟัง เพราะเป็นเพลงพื้นฐานสำหรับคนเล่นแจ็สเลยก็ว่าได้ แต่พวกเขาไม่ได้เล่นแบบง่ายๆอย่างที่เข้าใจ ทั้งคอร์ดและไลด์โซโล่รวมถึงริทึ่มนั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อนในแบบฉบับของนักดนตรีชั้นกูรูที่ผ่านการเล่นมาอย่างโชกโชน

ดังนั้นสำหรับคอนเสริต์ในดีวีดีแผ่นนี้แม้จะเป็นการเล่นครั้งที่เท่าไหร่ของพวกเขาแล้วในประเทศญี่ปุ่น แต่นั้นคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไรเลย เพราะทุกครั้งมันมีความหมายต่อคอเพลงที่เป็นนักฟังแจ็สตัวยงอย่างมหาศาลครับ

---

Artist : Charles Mingus
Title : Live At Montreux 1975
Label : United Home Entertainment

มือเบสอีกคนที่ขึ้นหิ้งระดับตำนานอีกทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกแนวทางสไตล์การเล่นใหม่ๆรวมถึงการแต่งและเรียงเรียงเพลง คอนเสริต์ชุดนี้ค่อนข้างจะสดใหม่ทีเดียว นั้นก็เพราะ Mingus เพิ่งจะรวบรวมสมาชิกในรูปแบบวง5 ชิ้น ภายใต้การเป็นหัวหน้าวงของเขาที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1970 นั่นหมายความว่าในคอนเสริต์แผ่นนี้พึ่งจะผ่านมา 5 ปี อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่เขานำทีมไปเล่นที่ Montreux และในคอนเสริต์นี้ก็เป็นการเล่นแบบ 5 ชิ้นจากทีมเดิมเช่นกันประกอบด้วย Charles Mingus (เบส); George Adams (เทเนอร์แซ็ก); Jack Walrath (ทรัมเป็ต); Don Pullen (เปียโน), Dannie Richmond (กลอง) นอกจากนี้แล้วยังมีแขกรับเชิญอย่าง Gerry Mulligan (บาริโทน) และ Benny Bailey (ทรัมเป็ต)

ดีวีดีแผ่นนี้มีทั้งหมด 5 เพลงด้วยกัน อาจจะดูเหมือนน้อยแต่รับประกันได้ว่าคุณไม่อาจหาดูเพลงเจ๋งๆเช่นนี้ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ในเรื่องการอิมโพรไวส์และการรับส่งกันและกันนั้นไหลลื่นสมกับฝีมือระดับตำนาน 3 เพลงแรกนั้นเป็นวงควินเต็ดประกอบด้วยเพลง Devil Blues เพลงบลูส์แสตนดาร์ด ได้ George Adams มือเทเนอร์แซ็กมาร้องเค้นอารมณ์บลูส์ที่ออกฟรีแจ็สนิดๆ Sue’s Change เพลงเด่นอีกเพลงของเขา ซึ่งจะทำให้คุณมองเห็นแจ็สในอีกแบบ เพราะเพลงนี้ตามชื่อได้เลยครับมีการเปลี่ยนจังหวะบ่อยมากมีตั้งแต่บัลลาดยันฟรีแจ็สโหดๆ เพลงนี้ Don Pullen เล่นเปียโนได้สุดๆของคำบรรยาย การลงคอร์ดที่ลองรับคนโซโล่ยิ่งช่วงที่เขาโซโล่แล้วลองดูครับมันอาจจะดูเหมือนมั่วแต่ไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย ทีมที่เล่นเพลงนี้เป็นการโชว์ความเก๋าของฝีมือของแต่ละบุคคล ตัวเพลงยาวร่วม 10 กว่านาทีได้ Good Bye Pork Pie Hat อีกหนึ่งเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา และ Take The “A” Train ที่ฟังกี่ครั้งต่อกีครั้งก็ยังคงความขลังอยู่เสมอ สองเพลงหลังนี้ได้ Gerry Mulligan (บาริโทน) และ Benny Bailey (ทรัมเป็ต) มาร่วมแจม

สำหรับดีวีดีแผ่นนี้ความยาวทั้งสิ้น 85 นาที เรื่องระบบการบันทึกเสียงนั้นค่อนข้างจะดีมากๆครับ ยิ่งเทียบกับอายุของระยะเวลาแล้ว ทุกเสียงที่ออกมาจากเครื่องดนตรีฟังชัดทุกเม็ด ภาพคมชัดสมกับเป็นดีวีดีครับ และดีวีดีแผ่นนี้ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่ดีมากเพราะไม่ค่อยได้มีโอกาศได้ดูคอนเสริต์แจ็สชั้นเยี่ยมเช่นนี้บ่อยนัก ในเมื่อมีสังกัดปั้มออกมาขายก็น่าจะเก็บเลยครับ อย่างรีรอแต่อย่างใดก่อนที่สายเกินไม่มีการปั้มออกมาอีกครับ

---

Artist : Kenny Rankin
Title : Kenny Rankin In Concert
Label : United Home Entertainment

นักร้องนักแต่งเพลงในสายแจ็สที่น้ำเสียงนุ่มลึกขับกล่อมคนฟังให้เคลิมตามได้อย่างง่ายดาย เขาไม่จำเป็นต้องมีเทคนิคอะไรมากมายรวมถึงการเล่นกีต้าร์ด้วย เพียงแต่ปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งน้อยนักจะหาใครซักคนทำได้ดีเช่นนี้ ดีวีดีแผ่นนี้เป็นการบันทึกการแสดงสดในรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นโชว์เล็กๆ ที่มีคนเข้ามานั่งดูไม่เยอะมาก พร้อมด้วยนักดนตรีประกอบด้วยกลอง,กีต้าร์,เบส และเปียโน พร้อมทีมเครื่องสาย 4 ชิ้น Kenny เองก็รับหน้าที่ริทึ่มกีต้าร์ในบางเพลง บทเพลงที่นำมาเล่นก็เป็นเพลงแสตนดาร์ด,บอสซาโนว่า,ป็อปแจ็ส หวานๆ ทั้งเพลงเก่าแก่อย่าง Round Midnight ที่มาใหม่ในจังหวะบอสซาโนว่า Black Bird , While My Guitar Gently Weep ที่มาแบบบัลลาดไม่โฉ่งฉางอย่างต้นฉบับ เป็นต้น สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คงจะเป็นทีมแบ็กอัพ โดยเฉพาะมือกีต้าร์ทั้งสำเนียงแบบสวิงหรือสปีด เขาพร้อมหมดวลีที่เล่นออกมานั้นได้ความเป็นแจ็สและต่อเนื่องมากๆ เอาที่แบบว่าคิดได้อย่างไรเล่นแบบนี้ ความยาวของดีวีดีแผ่นนี้คือ 74 นาที และนอกจากคอนเสริต์แล้วยังมีฟีทเจอร์สั้นๆที่แถมมาก็คือ เป็นการสัมภาษณ์ Kenny เกี่ยวกับ อาชีพบนเส้นทางสายดนตรีและอิทธิพลหรือแรงบัลดาลใจต่างๆต่อเขา แม้จะสั้นๆได้ก็ได้อะไรเยอะเช่นกัน สำหรับใครที่ชอบ vocal jazz ฟังง่ายๆและก็ยังโชว์ความสามารถของลูกทีมอย๋างเต็มที่ก็ไม่น่าพลาดดีวีดีแผ่นนี้ครับ

---

Artist : Destiny’s Child
Title : Live In Atlanta
Label : Sony BMG

เกิล์ลกรุ๊ป 3 ชีวิตสไตล์อาร์แอนด์บีที่โด่งดังเป็นอย่างมากในช่วงปลายปี 90 ด้วยความสามารถในการร้องเพลงของแต่ละบุคคลนั้นเป็นตัวการันตีถึงผลงานได้มากกว่าขายหน้าตา โดยเฉพาะภาพที่ออกมาในดีวีดีแผ่นนี้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเธอ นับตั้งแต่นาทีแรกเริ่มต้นจนนาทีสุดท้ายต้องยอมรับถึงความสามารถในการแสดง การเตรียมงาน,ความอดทนและความรับผิดชอบในการฝึกฝนที่สูงคือส่วนผสมที่รวมกันได้ความสำเร็จ 30 เพลงดังที่นำมาเล่นนั้น ถ้าสังเกตุถึงสคริปและโชว์ในแต่ละเพลงนั้นค่อนข้างจะเห็นได้ชัดว่าเตรียมงานมาเป็นอย่างดี ทั้งจังหวะจะโคนนั้นไม่มีคำว่าหลุดแต่อย่างใด สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้คือมันเหมือนเรากำลังนั่งดูละครเวทีที่เป็นละครเพลงยังไงยังงั้นเลย ในเรื่องของแสง,สี,เสียงต้องบอกว่าเพอร์เฟค โดยเฉพาะจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ข้างหลังที่ส่งให้คอนเสริต์นี้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที รวมถึงระบบอินเตอร์แอ็คทีพที่มาขั้นเวลาทั้งหลายไม่ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อแต่อย่างใด น่าดูเป็นแบบอย่างในการทำโชว์ครับ

ในส่วนของเรื่องเพลงนั้นเพลงดังอย่าง say my name , Bug –A –Boo , Survivor , If , Do You Know และอีกหลายเพลง แต่ที่อยากจะพูดอีกอย่างคือโชว์ที่เตรียมมานั้นค่อนข้างน่าสนใจอย่างมาก ความต่อเนื่องให้เต็มร้อยครับ ไม่มีความรู้สึกกระโดดหรือขาดตอน นอกจากคอนเสริต์ที่ยาวร่วมชั่วโมงครึ่งนั้น ยังมีของแถมก็คือ บทสัมภาษณ์ต่างๆทั้งพวกเธอ,เพื่อร่วมงานและคนรอบข้าง ภาพชีวิตส่วนตัวที่น่าจะถูกใจแฟนเพลงอย่างมาก และบทสัมภาษณ์ต่างๆของคนที่ไปดูพูดถึงโชว์ว่าเป็นอย่างไร และยังมีเพลงใหม่ที่แถมมาอีก 3 เพลงให้ฟังกัน ด้วย สิ่งที่อยากบอกเป็นพิเศษนอกจากแฟนเพลงที่ยังไงก็ต้องหามาเป็นเจ้าของนั้น คนทั่วๆไปแล้วที่บ้าคอนเสริต์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพก็ไม่น่าพลาดดีวีดีแผ่นนี้เช่นกันครับ

---

Artist : Various Artist (Smoke Out)
Title : The All Day Mind Opening Music Festival
Label : United Home Entertainment

คอนเสริต์สำหรับขาฮิพฮอพที่ยิ่งใหญ่อีกงานที่รวมเอาทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ไว้อย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็น Cypress Hill,Snoop Dog , Ever Last ,Bone Thugs N Harmony , Circle Jerk , Kottonmouth Kings ล้วนแล้วแต่เป็นเป็นตัวจริงในสายนี้ คอนเสริตครั้งนี้จัดขั้นเมื่อปี 2002 ภาพการบันทึกกว่าชั่วโมงครึ่งนั้นเป็นการสร้างอารมณ์โดยเริ่มจากวงสไตล์แก็งสเตอร์รุ่นเด็ก วัยโจ๋ Kottonmouth Kings ที่พาสมาชิกร่วมสิบขึ้นมาปลุกอารมณ์ฮิพฮอพผสมอัลเตอร์เนทีพพั้งก์ ขยับอารมณ์ให้มันส์ขึ้นมากับ Circle Jerks วงดนตรี 4 ชิ้น สไตล์เอ็กซ์ดรีมพั้งก์
ดร็อปอารมณ์ลงมาสบายๆกับ Everlast ค่อนข้างจะทำให้คนดูผ่อนคลายลงบ้าง และมาถึงช่วงไฮไลต์ของงานที่ทุกคนรอนั้นคือ Cypress Hill วงละตินฮิพฮอพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามมาด้วย Snoop Dog ปิดท้าย

ในส่วนของฟีทเจอร์นั้นก็มีภาพชีวิตส่วนตัวสั้นๆที่วนเวียนอยู่กับกัญชา ซึ่งไม่ควรไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างแต่อย่างใด และยังมีแกลอลี่ภาพให้ดูเป็นของแถมเล็กๆน้อยๆ คอนเสริต์ครั้งนี้การสร้างอารมณ์ของความมันส์นั้นต่อเนื่องได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงของ Cypress Hill และ Snoop Dog แต่ก็มีหลายๆอย่างที่ชาวพุทธอย่างเรารับไม่ได้แน่นอน เช่นการทำตุ๊กตาลมที่เป็นรูปพระจีนนั่งโยกไปมาตามจังหวะของเพลงพร้อมกับบนมือที่ถือใบกัญชา มันเป็นภาพที่ค่อนข้างล่อแหลมมากๆ ถ้าในมุมมองของชาวอเมริกันน่าจะเป็นเรื่องที่ครีเอทพอสมควร แต่กับชาวเอเชียย่อมรู้สึกไม่ดีแน่ หากตัดเรื่องพวกนี้ออกไป ดีวีดีแผ่นนี้จะเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก ตั้งวงและสไตล์ที่นำมาเสนอไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน

---