ได้รับความเอื้อเฟื้อแผ่น
CD จาก Universal Music, Warner Music, EMI, Sony BMG, Platinum, United Home Entertainment,Virtuoso, Smallroom, S.stack กีตาร์ไทยขอขอบพระคุณอย่างสูง
Artist : Paul Gilbert Album : Space Ship One Style : Rock Label : Virtuoso
นับว่าเป็นมือกีต้าร์ฮีโร่อีกหนึ่งคนที่ยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีเยี่ยมในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยแนวฮาร์คอร์และฮิปฮอป ไม่ว่าจะออกอัลบัมมาซักกี่ชุดก็ยังคงมีเหล่าบรรดาแฟนเพลงที่ยังให้การต้อนนับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่เขาออกอัลบัมเดี่ยวชุดแรกในชื่อว่า King Of Clubs ก็เริ่มสังเกตุเห็นได้ว่าเซ้นส์ในเรื่องของการทำเพลงแล้วติดหูคนหรือเมโลดีและดนตรีที่มีความเป็นป็อปมีอยู่เยอะพอสมควรแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เขาก็ยังคงไม่ทิ้งความเป็นกีต้าร์ฮีโร่ของเขา Paul ยังคงใส่เทคนิคการเล่นเข้าไปอย่างแพรวพราว แต่ถ้าสังเกตุดีๆสำหรับแฟนเพลงที่ติดตามงานมาโดยตลอดจะเกิดความสามารถอย่างหนึ่งที่จะเดาได้ว่านี่คือลูกที่เขาใช้เป็นประจำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือการฝึกฝนให้ออกมาเป็นเขานั้นแหละ เพลงในชุดนี้ก็เหมือนอย่างเดิมนั่นแหละครับก็เป็นเพลงร้องที่ใส่เพลงบรรเลงเข้าไปด้วย Space Ship one เพลงแรกของชุดทำนำเจ๋งดีครับในท่อนอินโทร มันเหมือนกับเพลงในเกมส์แบบที่ตะลุยไปในอวกาศ On the Way To Hell และ SVT มาแบบพังก์ร็อกสนุกๆ สังเกตได้เลยครับว่าทั้งคู่มีความใกล้เคียงอยู่เยอะมาก ยิ่งลูกโซโล่บางลูก แต่เพลงหลังนี่จะหนักกว่า Jackhammer เพลงบรรเลงมันส์ออกไปทางฟิวชั่นก็พอไหวทำให้นึกถึงช่วงพีคๆของเขาในสมัยอยู่กับ MR.Big เพลงต่อมา Terrible Man เพลงนี้ทำเอาผมนึกถึง Metallica ขึ้นมาได้ทันที ถ้าเสียงร้องโหดๆกว่านี้อีกซักหน่อยรับรองใช่เลยครับ ต้องร้องฟังเองครับ Interaction เป็นอีกเพลงที่ทำออกมาได้เท่ห์มาก แม้ว่าตัวคอร์ดจะวนอยู่กับที่ แต่เขาก็สามารถสร้างความน่าสนใจออกมาได้ อีกทั้งโซโล่ยังติดนีโอคลาสสิกออกมาให้ฟังอีกด้วย G9 เพลงบรรเลงอะคูสติกสั้นๆ ที่ต้องมีในทุกๆอัลบัมของเขา Boku No Atama เพลงป็อปน่ารักๆที่ทำมาเพื่อเอาใจคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ขนาดเจ้าตัวลงทุนร้องเนื้อภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองเลย Wash My Car เพลงร็อคแอนด์โรลในแบบอดีต เพลงนี้ผมชอบไอเดียของเขาตรงที่เขาพยายามทำซาวด์ออกมาแบบย้อยยุค เจ๋งเลยครับ It’s All Too Much ส่วนตัวแล้วผมกลับชอบเพลงนี้มากที่สุดในอัลบัม แม้ว่าเพลงจะไม่ได้โชว์อะไรมากแต่กลับลงตัว มันได้ทั้งเพราะทั้งความร่วมสมัย We All Dream Of Love เพลงช้าอะคูสติกที่เนื้อหาดีทีเดียว ฟังได้เรื่อยๆสบายๆ สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้จากตัวของเขาก็คือ เรื่องของไอเดียที่พัฒนาจากสมัยก่อนที่มาถึงก็ปั่นกันลูกเดียว อาจเป็นเพราะอายุที่เริ่มมากขึ้นก็เลยกลายเป็นว่าทำเพลงอย่างไรให้ออกมาดูดีและลงตัวอีกทั้งสามารถใส่เทคนิคในการเล่นได้อย่างสารพัดและอีกทั้งยังสามารถดึงตลาดกลุ่มใหญ่ให้หันมาสนใจเขาได้อีกด้วยจากเพลงร้องนี่แหละครับ และสำหรับคนที่รักและขอบเขา อย่าลืมไปพบกับคอนเสริต์ของเขาในวันที่ 10 ก.ค. รายละเอียดสามารถดูได้ใน webboard หรือ หน้า home ในเวปเลยครับ
Artist : System Of A Down Album : Mesmerize Style : Metal Label : Sony BMG
Artist : Motley Crue Album : Red , White & Crue Style : Rock Label : Universal Music
คงเกิดอาการสงสัยกันอย่างถ้วนหน้าใช่ไหมครับ ว่านี่อัลบัมชุดใหม่หรือยังไง กับวงเเกล้มร็อคที่โด่งดังมากๆในอดีตแม้แต่ gun’s & roeses ยังต้องเล่นเป็นวงเปิดให้ในหลายๆครั้งและจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวงในการที่สมาชิกหลักอย่าง Tommy Lee ได้ลาออกไปทำโปรเจ็คอัลบัมของตัวเองแล้ว อีกทั้งเขายังได้ให้สมภาษณ์ว่าเขาเบื่อเพลงสไตล์เดิม แล้วจะมีอัลบัมชุดใหม่ได้อย่างไร แน่นอนครับนี่ไม่ใช่อัลบัมชุดใหม่แต่อย่างใดแต่เป็นอัลบัมรวมฮิตอย่างที่วงร็อกหลายๆวงในอดีตมักจะชอบทำกันในปัจจุบันอาจเพราะเนื่องจากไม่มีไอเดียในการทำเพลงหรือตังค์ไม่มีใช่ก็เลยรวมเพลงเพื่อหาตังค์ใช้ซะหน่อย อัลบัมชุดนี้ส่วนตัวแล้วผมว่าเป็นอัลบัมที่รวมเพลงที่เอาเปรียบคนฟังไปซักหน่อย อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ว่ามีแต่เพลงเก่าจากอัลบัมเก่าๆไม่ได้มีอะไรพิเศษออกมาให้ฟังแต่อย่างใดสำหรับแฟนเพลงที่ชื่นชอบพวกเขา แต่สำหรับนักฟังเพลงรุ่นใหม่ที่ไม่เคยได้รู้จักพวกเขามาก่อนรับรองคุ้มอย่างแน่นอนครับ เพลงในชุดนี้เป็นการรวมเพลงดังๆมันส์ไว้อย่างมากมายถึง 18 เพลง ไม่ว่าจะเป็น Live Wire, Black Widow, Shout At The Devil (เพลงที่สร้างชื่อเสียงให้พวกเขาเป็นอย่างมาก), Wild Side, Kickstart My Heart, Dr.Feelgood (ผมว่าเพลงนี้เป็นต้นฉบับฮาร์ดคอร์ในปัจจุบันได้อยู่เหมือนกัน) Motley Crue ก็จัดได้ว่าเป็นวงดนตรีร็อกที่ขึ้นหิ้งในระดับตำนานได้อีกหนึ่งวง แม้ว่าพวกเขาเกือบๆจะกลายเป็นอดีตไปแล้วจะด้วยเหตุผลใดก็ตามงานเพลงประเภทนี้ไม่ว่าจะเป็นของเขาหรือวงอื่นๆที่ปัจจุบันก็ยังคงมีออกมากันเป็นระยะๆก็สามารถแสดงให้เห็นว่าร็อกแอนด์โรลไม่มีวันตายครับ
Artist : Renee Fleming Album : Haunted Style : Contemporary / Classic / Jazz Label : Universal Music
อัลบัมชุดนี้เป็นอีกหนึ่งชุดที่ผมอยากนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง เพราะอันเนื่องมาจากการที่ได้เห็นรายชื่อผู้ที่มาร่วมงานด้วย โดยธรรมดาแล้วตัวของ Renee นั้นเป็นนักร้องสายคลาสิคไม่แน่อาจจะก้าวไปสู่โอเปร่าอีกด้วย และที่สำคัญอัลบัมชุดนี้เธอได้ผู้ร่วมงานที่ผมได้บอกไปถึงสองคนนั่นคือ Fred Hersch และ Bill Frisell สองท่านนี้นั่นแหละครับที่เป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเส้นทางของแจ็ส Fred Hersch เป็นมือเปียโนและ Bill Frisell เป็นมือกีต้าร์ สำหรับ Bill แล้วสุดยอดครับผ่านมาทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นป็อปยันบ็อบยิ่งพวกงานทดลองทั้งหลายเขาเล่นมาแล้ว และทั้งคู่ก็เคยทำงานร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง ที่นี้เมื่อกลุ่มนักดนตรีแจ็สหัวก้าวหน้ามาเจอกับคนคลาสสิค มันก็เลยน่าติดตามอย่างแน่นอน เพลงในอัลบัมชุดนี้มีทั้งหมด 14 เพลงในแต่ละเพลงก็จะเป็นทั้งเพลงแสตนดาร์ดแจ็สบางเพลงก็เป็นป็อปที่เรารู้จักกันจนถึงเพลงคลาสสิค แต่ทั้งหมดก็ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ให้อยู่บนคอนเซปต์เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความไพเราะ ในส่วนของดนตรีก็จะมีเพียงแค่เปียโนและกีต้าร์เท่านั้น แม้ว่าเครื่องดนตรีจะน้อยชิ้นแต่การที่เคยเล่นในแบบแจ็สจึงช่วยในการรู้ว่าอะไรควรเสริมให้แน่นหรือส่งให้นักร้องเด่นขึ้น เพลงที่น่าสนใจและอยากให้ฟังก็มี Hunted Heart เป็นเพลงดูเอ็ดระหว่าง Renee และ Fred เพลงต่อมา When Did You Leave Heaven ดูเอ็ดระหว่าง Renee และ Bill งานนี้ Bill ทำได้ดีเลยครับ ตัวเพลงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของบลูส์และแจ็สนุ่มๆตลบอบอวลทีเดียว ใครยากฟังคอร์ดและเบสล์เพราะๆก็เพลงนี้เลยครับ My Cherie Amour เพลงเก่าที่กลายเป็นเพลงที่มีคนนิยมอย่างไม่เสื่อมจนขึ้นหิ้งไปเรียบร้อยแล้วครับ ทำได้เพราะมากๆครับ In My Life เพลงนี้ความดังไม่ต้องพูดถึงแล้วครับ ยิ่งขึ้นชื่อว่าเจ้าของเพลงคือ The Beatles ก็ยิ่งมั่นใจได้เลยว่าเพราะอย่างแน่นอน ในเวอร์ชั่นนี้ทำออกมาได้เย็นดีจริงๆ liebest du um Schonheit มาเป็นเพลงคลาสสิคอย่างแท้จริงครับ แต่โค*ตเพราะเลยครับ เป็นการร้องดูเอ็ดกับกีต้าร์ และที่น่าทึ่งก็คือกีต้าร์ทำหน้าที่แบบเปียโนได้ดีมากๆ My One And only Love เพลงแสตนดาร์ดแจ็สอีกเพลงที่มีการคัพเวอร์ๆไปเล่นหลายเวอร์ชั่น ในเวอร์ชั่นนี้ผมเชื่อว่าคุณต้องตกในมนต์สะกดของความเพราะอย่างแน่นอน Psyche สุดยอดจริงๆกับเสียงร้องของเธอ เพลงนี้ร้องออกเป็นโอเปร่า แต่เพราะมากครับไม่รู้จะบอกอย่างไร หลังจากที่ได้ฟังอัลบัมชุดนี้แล้ว ก่อนๆหน้านั้นเคยมีคนบอกไว้ว่าดนตรีแจ็สและคลาสสิคไม่มีทางก้าวเข้ามาบรรจบกันได้อย่างแน่นอน นี่แหละครับคืออีกหนึ่งอัลบัมที่จะสามารถปิดความรู้สึกและความคิดเหล่านนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม และผมเองก็อยากจะบอกว่าจะเอาอะไรกันนักหนากับดนตรี ผมว่ามันเพียงแค่ว่าฟังแล้วชอบหรือไม่ชอบแค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ คุณว่าจริงไหม ?
Artist : Bruce Springsteen Album : Devils & Dust Style : Folk / Rock Label : Sony BMG
หายหน้าหายตาไปจากวงการเพลงนานอยู่เหมือนกันกับนักร้องนักแต่งเพลงรวมไปถึงนักดนตรีรุ่นใหญ่คนนี้ และก็คงจะได้ฤกษ์งามยามดีจึงออกอัลบัมชุดใหม่มาให้ฟังกัน แนวเพลงก็ยังคงความชัดเจนในแบบฉบับว่าฟังปุ๊ปและรู้ได้เลยว่านี่แหละเพลงของ Bruce Springsteen เพลงของเขาก็ยังคงเป็นเพลงที่สามารถนั่งฟังได้อย่างเรื่อยๆแบบประมาณว่าฟังแล้วสบายใจในยามวันว่างๆหรืออากาศโปร่งๆ Devils & Dust เพลงเปิดตัวเพลงแรกที่ให้เอกลักษณ์ของคำว่า Bruce Springsteen ได้อย่างชัดเจน ตัวเพลงเต็มไปด้วยบรรยากาศของท้องทุ่งที่ละลานตาไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี ยิ่งได้เสียงของฮาร์โมนิก้าเข้ามายิ่งทำให้เพลงมี่เสน่ห์ในแบบฉบับของมันอย่างยอดเยี่ยม ยิ่งได้ฟัง Reno ต่อยิ่งให้ความรู้สึกที่ต่อเนื่อง Long Time Comin’ เพลงโฟร์คที่เร่งจังหวะสนุกๆขึ้นมาหน่อย Jesus Was Only Son เพลงจังหวะเรื่อยๆ แต่เพราะมากอีกเพลงของเขา จริงๆแล้วผมมองว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ธรรมดามากแต่สิ่งที่เสริมให้มันดูดีขึ้นมาก็คือเสียงร้องของเขา นั้นเอง All I’m Thinking About เพลงจังหวะร็อคแอนด์โรลที่แน่นอนจะต้องมีคอร์ดแบบสิบสองห้องและเสียงของกีต้าร์สไลด์ เพียงแค่กีต้าร์สองตัวก็ทำให้เพลงเพราะได้ Matamoros Bank เพลงช้าๆบรรยากาศเหงาๆในยามค่ำคืนเพราะดีครับ ผมว่า Bruce Springsteenเขาเคยทำอะไรมาก็ยังคงทำเช่นนั้นตลอดไป เขาก็เป็นศิลปินอีกหนึ่งท่านที่ยังคงแนวทางที่ชัดเจนและไม่เคยหลงทาง ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะรู้จักเขาแต่เพียงเพลงดังอย่าง Secret Garden เท่านั้น ก็เท่ากับว่าคุณรู้จักเขาอย่างผิวเผินมาก แต่จริงๆแล้วหากคุณได้ลองฟังเพลงอื่นๆของเขา มันก็เหมือนกับคุณได้เข้าถึงความเป็นอเมริกา ในแบบฉบับท้องทุ่งเลยทีเดียว หากศิลปินไทยที่คุณชอบอย่างคุณธีย์ ไชยเดช คุณก็คงจะชอบ Bruce Springsteen ได้อย่างแน่นอน
Artist : Natalie Album : Natalie Style : Pop Label : Universal Music
แม้ว่าโลกนี้จะมีดนตรีที่ถูกค้นคิดและทำออกมาให้ฟังกันหลากหลายแนว เพลงหลายแนวที่ออมาบ้างก็แป็กบ้างก็มีเพียงแค่คนฟังเฉพาะกลุ่มด้วยหลายสาเหตุและเหตุผลที่แน่ๆก็คือเข้าใจยาก แต่ท้ายที่สุดแล้วก็มีแนวหนึ่งนั่นก็คือเพลง ป็อปนั่นเองที่สามารถเข้าถึงคนฟังได้อยู่ตลอดเวลาและก็สามารถขายได้ด้วยแม้ว่าจะทำออกมาห่วยขนาดไหนก็ตาม สามารถสังเกตได้จากเพลงในประเทศบางประเทศครับ ??? และที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อเธอคนนี้นั่นเอง ก่อนหน้านี้เธอเคยเกือบที่จะเลือกเดินบนเส้นทางการเป็นทนายแต่แล้วทุกอย่างก็เกิดการพลิกผันหันมาจับไมค์ร้องเพลงแทน อัลบัมชุดนี้แน่นอนครับเป็นเพลงป็อปร้อยเปอร์เซ็นต์ดูได้จากปก เพลงของเธอเข้าข่ายเพลงป็อปฟังง่ายสบายๆและเรื่อยๆ ออกจะติดฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีย้อนยุคนิดๆ Goin’ Crazy เพลงแรกมาดูดีทีเดียว ฟังแล้วหลับได้ง่ายๆครับ ทั้งดนตรีและเมโลดีร้องทำได้ลงตัวมากผมว่าเพลงประเภทนี้ในยุคที่ทุกคนหันเข้าหาฮิปฮอปเพลงที่ออกย้อนยุคนิดๆอย่างนี้หาฟังยากอยู่เหมือนกัน ตามติดมาด้วย Energy เพลงสไตล์อาร์แอนด์บีจังหวะปานกลางที่ได้นักร้องฮิปฮอปอย่าง Baby Bash มาร่วมแจม You Don’t Love Me No More อินโทรมาอย่างเท่ห์ครับ แต่ผมกลับรู้สึกเฉยยขึ้นมาเมื่อตอนที่เริ่มมีเสียงร้องเข้ามา แต่ยังไงก็ตามเพลงนี้ดนตรีดีเลยครับ Stay เพลงช้าที่เน้นความเป็นอะคูสติกของกีต้าร์ที่เล่นคอร์ดแบบลูป แต่ว่ายังทิ้งความเป็นฮิปฮอปเข้าไว้ด้วย อัลบัมชุดนี้ยังมีเพลงแถมมาให้ฟังอีกสองเพลง หนึ่งในนั้นก็คือเพลง Where Are You ที่ได้เสียงชายหนุ่มเข้ามาร่วมร้องไปซะเกือบครึ่งเพลงจึงได้ยินเสียงเธอ เป็นเพลงช้าจังหวะแบบ more than words ส่วนอีกเพลงก็คือ Goin’ Crazy เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ต่างตรงที่ภาษาที่ร้องเป็นสเปนครับ โดยร่วมๆแล้วผมว่าเพลงของเธอทำออกมาในแบบที่มีความสมัยใหม่แล้วเจือด้วยสไตล์เพลงแบบโบราณ ตัวเพลงก็ไม่ถึงกับฟังแล้วสะดุด ก็เป็นเพลงป็อปที่สามารถฟังได้เรื่อยๆ แบบเพลินๆมากกว่าครับ
Artist : Various Artist Album : Motown Remixed / Motown Unmixed Style : //// Label : Universal Music
ก่อนหน้านี้เราเคยมีอัลบัมประเภทนี้จากค่ายแจ็สชื่อดังอย่าง verve มาให้ฟังกันถึงสามชุดแล้ว และครั้งนี้ทาง Motown ค่ายเพลงโซลผุ้ยิ่งใหญ่ก็เกิดอาการทนไม่ไหวจึงต้องทำออกมาให้ฟังบ้าง และแน่นอนครับเมื่อมีอัลบัมremixedออกมาก็ต้องมีunmix ตามมาให้ฟังเปรียบเทียบกันตามระเบียบ งานนี้ทางต้นสังกัดงัดเอาเพลงดังๆมารวมและทำไว้อย่างมากมาย I Want You Back และ ABC เพลงเก่งอันเก่าแก่จากพี่น้องวง Jackson 5 ถูกนำมาทำใหม่จังหวะยังคงใกล้เคียงกับของเดิม เพียงแต่รู้สึกถึงบีทที่กระชับขึ้น Let’s Get It On เป็นเพลงของเจ้าพ่อเพลงโซลอย่าง Marvin Gay เดิมที่เดียวเพลงนี้เป็นเพลงโซลที่เท่ห์มากๆอยู่แล้ว ในครั้งนี้นำมารีมิกซ์ใหม่โดยเจือความเป็นโซลแจ็สเข้าไป Papa Was A Rollin’ Stone เพลงเท่ห์จากคณะ The Temptations แต่ในเวอร์ชั่นรีมิกซ์ในความรู้สึกที่เท่ห์กว่าแต่ฟังนานๆอาจเกิดการเบื่อบ้างนิดๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราจะรู้จักวงนี้จากเพลง My Girl ซะมากกว่า Quiet Storm เพลงที่มิกซ์ออกมาแบบเอซิดแจ็สนิดๆ Keep On Truckin’ มาเป็นโซลแจ็สเจือเอซิดนิดๆ War เป็นเอซิดแจ็ศที่เต็มไปด้วยฟั้งก์และละตินมันส์ๆ ได้เพอคัสชั่นมาช่วยเสริมเลยยิ่งเจ๋งเข้าไปใหญ่ ผมคิดว่าอัลบัมประเภทนี้ก็ยังคงมีออกมาให้ฟังกันอยู่เรื่อยๆ อัลบัมประเภทนี้นี้แม้จะเป็นเพลงเก่าแก่แต่มีคุณค่าครับและแน่นอนการทำเช่นนี้ออกมามันก็คือการขายไอเดียให้กับคนที่ชอบอะไรแปลกๆใหม่ๆ หากใครชอบก็ลองดูแล้วกันครับ
