Main Menu
 Home หน้าแรก
 login / สมาชิก
 BuyerBook
 รายการ TV
  คอร์ด / เนื้อเพลง
  วีดีโอ คลิป
  Webboard
  Classifieds
  ข่าวสารดนตรี
  Review & ทดสอบ
  งานคอนเสิร์ต
  บทความดนตรี
  Cools Links
  Artist Gear
 
  About Us

 Music News :     ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551   26 พ.ย. 51    
ได้รับความเอื้อเฟื้อแผ่น CD จาก Universal Music, Warner Music, EMI, Sony BMG, Platinum, United Home Entertainment,Virtuoso, Smallroom, S.stack กีตาร์ไทยขอขอบพระคุณอย่างสูง


Artist : John Mayer
Album : Where is the light is
Styles : Rock/Blues
Label : Sony BMG

พ่อหนุ่มสุดฮ็อตแห่งวงการดนตรีที่ทุกคนต่างเฝ้ารองานของเขาอยู่ตลอดเวลา และครั้งนี้เขามาด้วยสามเซ็ทพิเศษ กับงานบันทึกการแสดงสด โดยที่เขาแบ่งการแสดงเป็นสามช่วงนั้นคือ การเล่นแบบอะคูสติก,เล่นทรีโอและ เล่นกับแบนด์ งานนี้ John คุมโทนและการแสดงอย่างยอดเยี่ยม จะเห็นได้ชัดเลยว่าอารมณ์ที่วางไว้ค่อยๆต่อเนื่องจนพีคสุดๆ และความเป็นตัวของเขาเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากๆ ในการเล่นของบูลส์ เพลงที่นำมาเล่นก็คละเคล้ากันไปจากทุกอัลบั้ม แต่จะมีเพิ่มเพลงที่เขาชอบๆเขาไป ซึ่งก็เป็นโทนบลูส์ ไม่ว่าจะเป็น Every day I have the blues,Bold as Love, I don’t need no doctor งานชุดนี้ John ซัดแบบเต็มแม็ค ผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะดีใจกับงานที่มีมือกีต้าร์ชั้นยอดโชว์เต็มที่กับสำเนียงบลูส์ และหากใครไม่จุใจกับซีดี ก็มี ดีวีดีออกมาโดยมีการเพิ่มเติมในส่วนของ document ให้ดูกันจุใจครับ




Artist : Extreme
Album : Saudades De Rock
Styles : Metal Funk
Label : Platinum

เป็นการรอคอยที่ยาวนานมากและไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับมารวมกัน จนกระทั้งเราเริ่มเห็นภาพลางๆจากการที่ Nuno ได้ Gary ขึ้นร่วมแจมอยู่หลายเวที และในที่สุดพวกเขาก็มีอัลบั้มชุดนี้ แม้ว่าจะขาด Mike Mangini มือกลอง และแทนที่ด้วย Kevin Figueiedo มือกลองจาก Drama God และสิ่งที่แรกที่เราเจอคือจังหวะขัดใจแบบฟั้งกีที่คุ้นเคยจากเขา Star เพลงเปิดตัวมันส์ๆ ที่โดนอย่างแรง ริฟกีต้าร์ขืนๆกับริทึ่มแน่นๆ ต่อด้วย Learn to Love น่าจะเป็นเพลงที่สาวก Extreme โหยหามาอย่างยาวนาน หลายเพลงในชุด Nuno คงความดิบของซาวด์ไว้ แม้ว่าจะไม่ถึงขนาด มาสเตอร์พีชอย่าง Wating For The Phunchline แต่ผมว่าเป็นรองน้องๆได้เลย ไลด์กีต้าร์ ของ Nuno ไม่ได้โชว์แบบสุดๆ อย่างที่ทำไว้ในอดีต แต่ผมว่าแม้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่คิดว่าใครจะแกะไลด์เขามีหนักใจแน่นอน เพราะเต็มไปด้วยความเฉียบ สวนตัวแล้ว Nuno น่าจะเลยความรู้สึกนั้นไปแล้ว เขากลับไปมองที่การแต่งเพลงมากกว่า กับเรื่องของซาวด์ แต่อย่างนึงที่เขาทำได้ดีก็คือ เขาเข้าใจว่าเพลงแบบไหนเหมาะกับงานเดี่ยวของเขา และแบบไหนเหมาะกับ extreme แม้ว่าชุดนี้จะแอบมีใส่ความชอบของตัวเองอย่างเพลง Flower Man เข้าไป แต่ก็ให้อภัยครับ เพราะเพลงเจ๋ง หากจะให้คะแนนชุดนี้ ผมว่าถ้าผมมีเท่าไหร่ผมขอเทหมดใจสำหรับความคิดถึง Extreme เลยครับ




Artist : In Flames
Album : Whoracle
Styles : Melodic Death Metal
Label : Platinum

ต้นฉบับแห่งเมโลดิกเดธเมตัลอห่งสวีเดนผู้เป็นแรงบัลใจให้กับวงเมตัลรุ่นต่อๆมา งานชุดนี้คืองานชุดที่ 3 ของพวกเขา ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงไลน์อัพที่ท็อปฟอร์มของวง เพราะหลังจากงานชุดนี้ออกมา ก็มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกเกิดขึ้น เอกลักษณ์ที่ยังคงอยู่คือความเป็นเมโลดิกเมตัลของดนตรี แต่ขณะเดียวกัน สำเนียงการร้องนั้นเป็นเดธครับ
ภาคดนตรีเป็นมตัลแบบที่ช่วงยุค 90 ทำกัน ทั้งริฟและโซโล่มีอยู่ครบ Jesper Stromblad น่าจะติดเป็นมือกีต้าร์ในดวงใจใครหลายๆคน อัลบั้มชุดนี้ยังมีเพลงบรรเลง ด้วย เป็นเพลงที่ไม่หวือหวา แต่เน้นเรื่องทีมเวิร์ค ได้ดี รวมถึงเพลงที่เขาคัพเวอร์วง Depech Mode ทำได้เท่ห์เลยครับ ในเรื่องของทีมเวิร์คผมว่างานชุดนี้เหนียวทีเดียว สมกับการได้เป็นที่ยกย่องว่าเป็นหนึ่งในต้นฉบับแรงบัลดาลใจต่อวงรุ่นหลัง




Artist : Kings Of Leon
Album : Only By The Night
Styles : Rock
Label : Sony BMG

อีกหนึ่งวงที่ไม่น่าพลาดแต่อย่างใด พวกเขามีส่วนผสมของความเก่าแต่เก๋าแบบร็อก 70 ในขณะเดียวกัน ก็มีความเป็น U2 รวม ถึง Suede ซะด้วยซำ้ พวกเขาไม่ใช่วงประเภทที่ซัดเสียงดิสทรอชั่น กับพาวเวอร์คอร์ด เหมือนไม่มีสมอง แต่เขาโชว์ศักยภาพออกมามากกว่านั้น ทั้งเรื่องของอารมณ์และ การเรียบเรียงเพลง อีกอย่างคือเรื่องของซาวด์วงเท่ห์ครับ แม้อาจจะทำให้นึกถึง U2 อยู่บ้าง แต่เขาก็นำไปปรับให้เข้าตัวเองได้ดี นอกจากนี้ Matthew Followill มือกีต้าร์ของวงยังได้รับการยกย่องว่าเป็นมือกีต้าร์รุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง จากนิตยสาร Rollin Stone ส่วนตัวผมแล้ว หาก Matthew ได้ลองอยู่กับวงบลูส์หรือฮาร์ดร็อกก็น่าจะไปได้ดีเช่นกัน กับสำเนียงโซโล่กีต้าร์ของเขา แต่ที่สำคัญที่โดนใจกับ Kings Of Leon กลิ่นของความเป็นดนตรี ยุค 70 ที่โมเดิร์น เนี่ยะแหละครับ




Artist : Hackneyed
Album : Death Prevails
Style : Death Metal
Label : Platinum

วงดนตรีจากเยอรมันที่อายุน้อยมากทีเดียว และดูท่าจะเป็นดาวรุ่งของค่ายซะด้วย พวกเขาเป็นเดธเมตัลที่เล่นออกมาเป็น โอลสคูล หรือแบบโบราณ ไม่เน้นความซับซ้อนอะไรมาก ว่ากันตรงๆทุกเม็ด จุดเด่นของวงน่าจะตกไปอยู่ที่กลอง เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้เพลงมีสีสรรมากที่สุด จะกระชากหรือ โหมหนัก ก็เขานี่แหละครับ ส่วนการร้องก็พกความเป็นเดธมาอย่างเต็มที่ เสียงร้องให้ตำ่เข้าไว้ โดยภาพรวมแล้วผ่านครับ ชุดแรกยังทำได้มาตรฐานได้ดีเท่าๆกับวงรุ่นใหญ่ๆ ชุดต่อไปน่าจะมีอะไรใหม่ให้เราได้ยลกันมากกว่านี้ครับ




Artist : The Script
Album : The Script
Style : Rock
Label : Sony BMG

วงหน้าใหม่ที่ได้การตอบรับอย่างมหาศาล ถึงขนาดที่สื่อเมืองนอกบอกว่านี่คือวงที่ดีที่สุดในไอส์แลนด์ต่อจาก U2 ก็ว่าได้ ส่วนตัวผมแล้วคิดว่า คำกล่าวนี้ ไม่ผิดแต่อย่างใดเลยครับ พวกเขาทั้ง สาม มาพร้อมทั้งฟอร์มการเล่น,ซาวด์ สมบูรณ์มาก แต่พวกเขายังเดินตามทางที่ U2 ได้สร้างไว้ อัลบั้มชุดนี้มีส่วนผสมที่ชวนให้นึกถึง U2 และ Sting อย่างยิ่ง แต่พวกเขาก็พยายามที่จะฉีกตัวเองออกไป ถ้าจะเห็นผลมากกว่านี้ชุดหน้าแน่นอนครับ อย่างไรก็ตามพวกเขาคือวงชั้นเยี่ยมที่ยุคนี้หางานดีๆยากจริงๆ




Artist : Depapepe
Album : Depanatsu drive drive
Style : Acoustic / Easy Listening
Label : Sony BMG

พวกเขาทั้งสองกลับมาอีกครั้ง กับผลงานสบายๆ รวมเพลงฮิต ของพวกเขา อีกทั้งยังเป็นตัวปลุกกระแสกีต้าร์อะคูสติกให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย อัลบั้มชุดนี้รวมเพลงไว้ถึง 13 เพลงด้วยกัน รสชาดและบรรยากาศของอะคูสติกเต็มอิ่มครับ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่น่าฟังไว้คือ เมโลดี ที่พวกเขาแต่งขึ้นได้อย่างลงตัว ไม่ต่างกับเพลงร้องแต่อย่างใด หลายๆเพลงมีเมโลดีที่ติดหูรวมถึงทางคอร์ดที่รองรับ เรียกว่าเพลงบรรเลงก็เท่ห์ได้




Artist : Steve Tyrell
Album : Back To Bacharach
Style : Easy Listening
Label : Platinum

โปรดิวเซอร์อีกคนที่ควบตำแหน่งนักร้องไปด้วย ซึ่งตัวเขาเองก็ยังร่วมทำงานกับ ฺBurt Bacharach และงานชุดนี้ก็เป็นงานที่นำเพลงของ Burt Bacharach มาร้องในสไตล์ของเขา ด้วยตัวเพลงที่ดีเยี่ยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นความเพราะจึงบรรจุอยู่เต็มอัตรา ทั้งยังเต็มไปด้วยอารณ์สบายๆ งานเรียบเรียงดนตรีถือว่าทำออกได้รู้ถึงการฟัง อย่างต่อเนื่อง หากจะบอกว่างานชุดนี้มาเป็น สมูธแจ็สก็คงไม่แปลกแต่อย่างใด




Artist : ฺBill Withers
Album : The Best Of
Style : Soul
Label : Sony BMG

มนต์เสน่ห์ของดนตรียุค 70 นั้นคงไม่มีใครที่จะปฎิเสธถึงความฮิพได้อย่างแน่นอน และสำหรับศิลปินท่านนี้ เช่นกัน รางวัลแกรมมี่ 3 รางวัลคงเป็นตัวบ่งบอกถึงความสำเร็จของงานได้อย่างดี งานเพลงของเขาไม่เป็นแค่เพียงโซลเท่านั้น เขายังผสมเอาแจ็สและความเป็น อาร์แอนด์บีเข้าไปอีกด้วย และหากใครที่เคยฟัง Just The Two Of Us มา Bill Withers นี่แหละครับต้นฉบับของเสียงร้อง นอกจากนั้นยังมีเพลงดีๆอีกรวม18 เพลงเต็ม




Artist : Lisa
Album : Only Feel Good
Styles : Contemporary Jazz/House
Label : Sony BMG

ของดีในวงการดนตรีนั้นมีอยู่เยอะทีเดียว เพียงแต่เราค้นไม่พบเท่านั้นเอง เช่นเดียวกับงานชุดนี้ ถ้าไม่หยิบขึ้นมาฟัง ไม่มีทางรู้ครับ ดูภายนอกก็เหมือนป็อปดีๆนั้นเอง แต่เมื่อเริ่มต้นฟัังทุกอย่างกลับหมดครับ
สิ่งแรกที่พบคือ เธอมีส่วนผสมหลายอย่างมาก มีความเป็นแจ๊สเต็มที่ และก็มีความเป็นอัฟริกันมิวสิคสูงมาก รวมถึงมีการนำเทรนของดนตรีเฮาร์มาผสม ก็เลยออกมาเป็นดนตรีเต้นรำที่มีความฮิพ และมีคุณภาพที่สูงมาก ดนตรีส่งให้เธอแสดงความสามาถออกมาได้อย่างเต็มที่ เธอแหวกความจำเจที่มีอยู่ในทุกวันนี้ได้อย่างสิ้นเชิง งานลูกผสมเช่นนี้หาได้ยากทีเดียว และยิ่งเป็นงานที่ดีด้วยแล้ว ชุดนี้หละครับ เยี่ยม





Artist : Keiko Lee
Album : In Essence
Styles : Jazz
Label : Sony BMG

สาวเสียงใหญ่นุ่มลึกอีกคนที่ยังมีผลงานอย่างต่อเนื่อง โดยธรรมดาแล้วเราจะได้ยินเพลงของเธอจะเป็นเพลงสแตนดาร์ดแจ๊สหรือ คอนเท็มโพรารี่แจ๊สรวมถึงฟิวชั่น แต่มาครั้งนี้เธอพลิกบทบาทโดยการนำเพลงป๊อปทั่วๆไปอย่าง Ain’t No Sunshine ,How Deep Is Your Love , Nothing’s Gonna Change My Love For You ,(You Make Me Feel Like) A Natural woman เป็นต้น มาทำเป็นสไตล์ของเธอ เรื่องของเทคนิกการร้องและนำ้เสียงนั้นหายห่วงแน่นอนครับ แต่สิ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือ การเรียบเรียงดนตรีครับ ทีมที่ทำเพลงให้เธอนั้นเจ๋งมากครับ หลายๆเพลงแสดงถึงความมีกึ๋นทางดนตรีทั้ง Chord change หรือ ท่อนต่างๆนั้นทำมาได้เท่ทีเดียวครับ นักดนตรีในชุดนี้ยังคงวนเวียนอยู่กับฝรั่งและยังมีนักดนตรีแจ๊สระดับซุปเปอร์สตาร์อย่าง David Sanborn และ Rendy Brecker มาร่วมแจมด้วย




Artist : The Brubeck Brothers Quartet
Album : Classified
Styles : Jazz
Label : Platinum

สองพี่น้องสืบสายเลือด Brubeck ซื่งแท้จริงเขาคือลูกของ Dave Brubeck นั้นเอง ครั้งนี้เขาทั้งสองนำทีมมาเล่นในสไตล์ออกโมเดิร์นแจ๊ส ซึ่งแตกต่างจากพ่อโดยสิ้นเชิง ในแง่ของความลึกทางดนตรียังเทียบชั้น Dave Brubeck ไม่ได้ แต่ศาสตร์ทางอิมโพรไวส์ผ่านเลย และงานชุดนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเยี่ยม จาก Jazz time การเล่นของเขาผมมองว่าเขาจะเล่นออกมาในแบบโมเดิร์นแต่ขณะเดียวกัน เขาก็ยังคงความเป็น เทรดดิชั่นแบบโอลสคูลไว้บ้าง แต่ที่เห็นชัดจากไลน์อิมโพรไวส์ของความเป็นโมเดิร์นแจ๊สก็คือ ไลน์ของกีต้าร์ ส่วนหนึ่งที่พวกเขาพยายามคือ การนำกลิ่นของดนตรีคลาสสิกเข้ามาใช้ด้วย ในอัลบั้มชุดนี้ เขายังนำเพลงของดัง Blue Rondo a la Turk ของ Dave ผู้เป็นพ่อมาเล่นด้วย




Artist : Lisa Ono
Album : 1989 – 1996
Styles : Bossanova
Label : Sony BMG

หลายๆคนที่รู้จักบอสซาโนว่าก็เพราะเธอคนนี้แหละครับ ตลอดเวลาอันยาวนานในวงการดนตรี เธอมีส่วนทำให้วงการบอสซ่าโนว่าแพร่หลายมากๆ โดยเฉพาะประเทศไทย กล้าบอกได้เลยว่าคตนที่ฟังบอสซ่าโนว่าต้องรู้จักเธอแน่นอน ด้วยสำเนียงและสำเนียงที่บ่งบอกถึงคำว่าใช่ ในบอสซ่า และบีทแซมบ้า งานชุดนี้เป็นการรวมงานของปี 1989 – 1996 ซึ่งหากว่ากันจริงๆแล้วงานของเธอมีเยอะมากๆ ค่อนข้างยากต่อการ รวมเลยต้องแยกออกมาเป็นปีเลยครับ งานชุดนี้รวมเพลงบอสว่าเย็นๆไว้ถึง 21 เพลงเต็มด้วยกันและแน่นอนครับในจำนวเพลงเหล่านี้ต้องมีเพลงของ Jobim ที่เธอนำมาคัพเวอร์ด้วยเช่นกัน




Artist : Monkey
Album : Journey To The West
Styles : Electronica
Label : Platinum

ครั้งหนึ่งหากยังจำกันได้ว่าโลกนี้มีวงอิเล็กทรอนิก้าชื่อดังอย่าง Gorliraz เกิดขึ้นมา ด้วยฝีมือของ Damon Albram แห่งวง Blur และประสพความสำเร็จอย่างแรงทั้งยอดขายและทั้งการยอมรับทางงานศิลปะ จนมาถึงครั้งนี้ Damon ได้เข้าร่วมทำโปรเจ๊คใหม่เพื่อเป็นเพลงประกอบละครโอเปร่า เรื่องใหญ่ที่นำเอาพงศาวดารจีนอย่าง “ไซอิ๋ว” มาทำ และก้ดูเหมือนว่าจะเป็นการทำเพลงให้ออกมาโมเดิร์นมากๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ Damon ที่เขาเข้าใจถึงตัวชิ้นงาน นั้นคือการที่เขาทำมันออกมาโดยมีกลิ่นและวัฒนธรรมทางดนตรีของจีนอยู่ หากเปรียบงานชุดนี้คืองานสร้างจินตนาการครั้งใหม่ในรูปแบบความเป็นตะวันออกโดยผ่านมุมมองคนตะวันตก




Artist : /////
Album : Star Wars / The Clone Wars
Style : Ost
Label : Sony BMG

หนังเรื่องแรกในรูปแบบแอนนิเมชั่นจาก Lucas Flim พ่อมดยักษ์อีกคนที่สร้างตำนาน มาครั้งนี้เขายังได้มือดีอย่าง John Williams ผู้ที่ทำงานร่วมกันมายาวนาน และ Kevin Kiner ผู้ที่ทำเพลงประกอบซี่รี่ย์ชื่อดังในอเมริกาไม่ว่าจะเป็น Stargate SG-1,Star Trek: Enterprise, Superboy และ CSI: Miami งานเพลงยังคงเน้นความอลังกาลตามเนื้อหาของหนัง ไม่มีคำว่าตกหล่นในเรื่องของอารมณ์เพลงแน่นอน




Artist : Nuvo
Album : Now 2.0
Style : Rock
Label : Sony BMG

กลับมาอีกครั้งกับวงที่มีชื่อใหม่ตลอดกาล ครั้งนี้พวกเขาย้ายบ้านหลังใหม่ พร้อมกับวัตถุดิบจากเพลงใหม่ งานในชุดนี้เหมือนกับการผสมเข้ามาของนูโวในยุคเก่าๆ ที่มีความเป็นป๊อป แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งความเข้มข้นแบบนักดนตรี และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ เพลงสร้างสรรเกี่ยวกับความรักต่อสิ่งแวดล้อมที่พวกเขามีอยู่ตลอด งานนี้เป็นเหมือนเพลงที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี เวลาและประสพการณ์ที่ยาวนานรับประกันครับ




any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket