ทางเดินของคอร์ด (Chord Progression) จากมุมมองของเพนตาโทนิค (ตอนที่ 1)

- ปิดเทอมแล้ว พอจะมีเวลาว่างๆ ได้เขียนอะไรสนุกๆ อีกแล้ว

- ความจริงผมตั้งใจว่าจะเขียนเรื่อง chord progression มาตั้งนานแล้ว และก็เขียนปูพื้นไว้แล้วด้วย

- ดังนั้น ตอนนี้จะถือว่าเป็นเป็นตอนจบของนิยายที่เคยเชียนไปแล้ว
http://www.guitarthai.com/lessonboard/question.asp?QID=1150
http://www.guitarthai.com/lessonboard/question.asp?QID=1153
http://www.guitarthai.com/lessonboard/question.asp?QID=1155

- ต้องขอออกตัวอีกว่า ผมจะเขียนสั้นๆ ห้วน จะได้อ่านง่ายๆ

- และผมไม่ใช้นักดนตรี หรือเรียนมาทางนี้ ผมอ่านเอง ศึกษาเอง ดังนั้นหากพบว่าตรงไหนไม่ถูกต้อง
ไม่ต้องเกรงใจอะไรผมนะครับ ทักท้วงผมได้ ผมไม่มีอะไรจะเสีย(หน้า)

- จุดประสงค์ที่ผมทำนี้ ก็เพื่อให้น้องๆ ที่อยากจะเข้าใจเรื่องนี้ ได้เริ่มต้นได้ หรือมีหลักยึด
ส่วนจะเรียบเรียงในขึ้นสูงอะไรต่อไปนั้นก็คงต้องศึกษากันอย่างจริงจัง ผมรู้แค่นี้ ก็เขียนแค่นี้

RST

9 เม.ย. 54 เวลา 15:07:00

พิมพ์

แจ้งลบ IP = 125.26.80.174

คำตอบที่ 1

(ทบทวน)

- สิ่งที่จะช่วยให้จำความสัมพันธ์ต่างๆ ได้ดีคงหนีไม่พ้น "วงกลมของตัวที่ห้า" (Circle of Fifths)

- "วงนอก" เป็นพวก chord ทาง Major ส่วน "วงใน" เป็นพวก chord ทาง minor

- "ที่ตรงกัน" ระหว่างวงนอกกับวงใน จะเรียกว่าเป็น "ญาติ" กัน (เช่น C กับ Am)
(ต่อไปผมจะเรียกว่าเป็น "ครอบครัว" เดียวกัน)

- ใครอยู่คู่ใคร ก็จะอยู่กันอย่างนั้น ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร (C กับ Am ไม่เคยทิ้งกัน)

- ถ้าหยิบโน้ตขึ้นมาตัวหนึ่ง (จำให้ดีนะ) ตัวถัดไปตามเข็มนาฬิกาจะเป็น "คู่ห้า" ของตัวที่เราหยิบมา
(ถ้าหยิบ C ขึ้นมา จะได้ G เป็นคู่ห้าของ C หรือถ้าหยิบ G ขึ้นมา ก็จะได้ D เป็นคู่ห้าของ G)

- แต่ถ้าหยิบโน้ตขึ้นมาตัวหนึ่ง (จำได้ดีอีกนั่นแหละ) ตัวถัดไปทวนเข็นนาฬิกาจะเป็น "คู่สี่" ของตัวที่เราหยิบมา
(ถ้าหยิบ C ขึ้นมา จะได้ F เป็นคู่ 4 ของ C)

ดูภาพประกอบ รับรองไม่งง ไม่ลืมแน่นอน

RST

9 เม.ย. 54 เวลา 15:30:00 IP = 125.26.80.174

คำตอบที่ 2

คราวนี้มาทบทวนเรื่อง Pentatonic บ้าง

- Pentatonic ของ Major scale จะตัดโน้ตตัวที่ 4 และตัวที่ 7 ของ Major scale ออก
(จาก 1-2-34-5-6-78 เลยเหลือแค่ 1-2-3 -5-6- 8)

- ส่วน Penatatonic ของ Minor scale จะตัดโน้ตตัวที่ 2 และตัวที่ 6 ของ minor scale ออก
(จาก 1-23-4-56-7-8 เลยเหลือแค่ 1- 3-4-5 -7-8)

(ดูรูป) ถ้าเราให้ root อยู่สายที่ 3
- Pentatonic Major จะมีรหัสว่า 2-3-3 (ห่าง 2 ช่อง แล้วก็ 3 ช่อง และ 3 ช่อง)
- Pentatonic minor จะมีรหัสว่า 3-2-2
(จำให้ได้นะครับ 2-3-3 คือ Major ส่วน minor คือ 3-2-2 ดูรูปประกอบ จะได้ไม่ลืม)

แล้วถ้าเค้าเป็นครอบครัวเดียวกัน เค้าจะหันหลังพิงกัน (ดังรูป C กับ Am อยู่บ้านเดียวกัน)

และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ถ้าเค้าอยู่บ้านเดียวกัน "เค้าจะมีโน้ตเหมือนกันทุกประการ" ต่างกันแค่ตัวเริ่มต้น

(วันนี้เท่านี้ก่อนละครับ)

RST

9 เม.ย. 54 เวลา 16:27:00 IP = 125.26.80.174

คำตอบที่ 3

(ขอเติมให้มันสมบูรณ์ก็แล้วกันนะ)

- สำหรับ Key C (หรือ Am)
จะมี Pentatonic Major คือ C F G (พอเป็น chord ก็คือ C F และ G)
และมี Pentatonic minor คือ D E A (พอเป็น chord ก็คือ Dm Em และ Am)

เป็นที่น่าสังเกตว่า

- ถ้าเค้าอยู่บ้านเดียวกัน (C กับ Am หรือ F กับ Dm) พอสร้างเป็นคอร์ด เค้าจะมีโน้ตเหมือนกันถึง 2 ตัว (มากที่สุดแล้ว เพราะถ้าเหมือนกัน 3 ตัว มันก็ต้องเป็นคอร์ดเดียวกันแล้วแหละ)

- ถึงแม้ว่าคู่ 5 (G) จะเป็นคู่ประสานที่กลมกลื่นกันมากที่สุดกับ root แต่พอเป็น Pentatonic กลับไม่มี C เค้าหายไปไหนก็ไม่รู้ ยิ่งถ้าเป็น G7 ที่บวก F (ตัวที่ 4) เข้าไป ยิ่งให้เกิดความรู้สึกโกลาหล เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่ ตัวประสานทั้ง 4 และ 5 มาหมดแล้ว แต่ตัวหลักไม่อยู่ มันจะให้ความรู้สึกที่ต้องการ root ให้ปรากฏตัวเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นพอเล่น G7 พอตามด้วย C มันจะให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง

RST

11 เม.ย. 54 เวลา 1:58:00 IP = 125.26.89.255

คำตอบที่ 4

สรุปตอนที่ 1 (ซะที)

1. จากโน้ต 8 ของ scale ปกติ เราเอามา 5 ตัว เรียกว่า Pentatonic

2. โน้ตเพียง 5 ตัวนี้ พิษสงเหลือร้าย อาจจะเรียกว่าเป็น scale ที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้

2. โน้ต 5 ตัวนี้ มีทางเลือกอีก 2 ทางเท่านั้น ทางหนึ่งคือ Major และอีกทางคือ Minor ขึ้นอยู่ว่าเริ่มตัวไหน

3. โน้ต 5 ตัวนี้ เอาไปปั้นเป็น chord (เลือกมาแค่ 3 ตัว) จะปั้นได้แค่ 2 chord เท่านั้น ไม่ขาดไม่เกิน
(ถ้าผมไล่โน้ตทั้ง 5 เช่น C D E G A ผมจะเล่น chord C หรือ Am ประกอบก็ได้ แต่จะไม่สามารถหา chord อื่นที่เข้ากับโน้ตทั้ง 5 ตัวนี้ได้พร้อมๆ กัน)

RST

11 เม.ย. 54 เวลา 2:25:00 IP = 125.26.89.255

คำตอบที่ 5

(ว้า ลืมไปอีกข้อ สำคัญด้วย)

4. scale ที่ 1 (C และ Am) จะขาดโน้ตตัวที่ 4 และตัวที่ 7 (จากโน้ตทั้งหมด 8 ตัว)
scale ที่ 4 (F และ Dm) จะขาดโน้ตตัวที่ 3 และตัวที่ 7
scale ที่ 5 (G และ Em) จะขาดโน้ตตัวที่ 1 และ 4

ดังนั้นหากต้องการเล่นโน้ตให้ได้ครอบทั้ง 8 ตัวใน 1 เพลง จำเป็นต้องรวม Pentaronic ทั้ง 3 scale เพลง(ที่เพราะ)จึงประกอบด้วย chord อย่างน้อย 3 chord เป็นอย่างต่ำ

RST

11 เม.ย. 54 เวลา 2:46:00 IP = 125.26.89.255

คำตอบที่ 6

ขอบคุณมากครับ ความรู้เน้นๆ^^

suksoo

12 เม.ย. 54 เวลา 23:48:00 IP = 58.8.231.208

คำตอบที่ 7

ที่ว่า
จะมี Pentatonic Major คือ C F G (พอเป็น chord ก็คือ C F และ G)
และมี Pentatonic minor คือ D E A (พอเป็น chord ก็คือ Dm Em และ Am)

ผมสงสัยนิดนึงครับ ทำไมบรรทัดนี้ถึงบอกว่าเพ็นทาโทนิคเมเจอร์/ไมเนอร์ มี3ตัวคือ คือตัวที่ 1 4 5 หละครับ คือจะบอกว่าโน้ตตัวที่1 4 5 ของเพ็นทาโทนิคมันคืออะไรครับ?

suksoo

12 เม.ย. 54 เวลา 23:54:00 IP = 58.8.231.208

คำตอบที่ 8

ตอบคุณ suksoo

ผมเขียนสั้นไปนิดหนึ่ง คนอ่านจะงงได้ ต้องเขียนว่า

จะมี Pentatonic Major คือ C F G (พอเป็น chord ก็คือคอร์ด C และคอร์ด F และคอร์ด G ซึ่งเป็นคอร์ดทาง major)

และมี Pentatonic minor คือ D E A (พอเป็น chord ก็คือคอร์ด Dm และคอร์ด Em และคอร์ด Am ซึ่งเป็นคอร์ดทาง minor)

(คือไม่ใช่ C F G รวมเป็นหนึ่งคอร์ดนะครับ)

แต่ถ้ายังสงสัยว่าทำไม 1 4 5 ถึงได้เป็นคอร์ดทาง major ก็ต้องกลับไปอ่านตอนก่อนหน้านี้แล้วแหละครับ

คงทำให้เข้าใจมากขึ้นนะครับ

RST

13 เม.ย. 54 เวลา 10:44:00 IP = 125.26.84.151