|
|
Download:
พี่จิ
(จิรพรรณ อังศวานนท์)
โดย
เปิ้ล |
|
สวัสดีครับ ผมมีความยินดีมากที่พี่จิรพรรณ อังศวานนท์ ได้ให้โอกาสเราเข้าไปสัมภาษณ์ มาให้เพื่อน ๆ ได้ทราบถึงประวัติและแนวความคิดของพี่เค้านะครับประสบการณ์และมุมมองของพี่จิในเรื่องของดนตรี นั้นมีมากมายขยายความกันไม่หวาดไม่ไหวเราลองมาฟังพี่เขาเล่าให้พวกเราได้ฟังกันดีกว่านะครับ
|
GT : อยากให้พี่ช่วยเล่าประวัติให้พวกเราฟังกันหน่อยครับ
พี่จิ : ผมเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 12 เล่นกับเพื่อนที่อัสสัมฯโดยเริ่มเป็นนักร้องก่อนกับวงชื่อ THE YOUNGSTERS จากนั้นก็มาเริ่มเล่นกีตาร์โดยอาศัยถาม ๆ จากรุ่นพี่ที่อยู่ในวงบ้างแล้วมาฝึกด้วยตัวเอง จากการแกะเพลงจากแผ่นเสียง แล้วก็ไปดูวงโน้นวงนี้เค้าเล่นบ้าง จนกระทั่งมาเรียนที่ธรรมศาสตร์ ซักตอนปี 3 พอปี 4 ก็มาเล่นกับวง นิด จิ ออ เป็นโฟล์คร๊อคก็เป็นวงที่ดังพอสมควรในแวดวงมหาวิทยาลัย
GT : เป็นยุคเดียวกับวง FANTACY FIVE
พี่จิ : FANTACY FIVE เค้ามาก่อน แต่ก็เป็นเพื่อนสนิทกันมา มีการจอยกันอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งผมเรียนจบ มือกีตาร์วง FANTACY เค้าเกิดป่วยขึ้นมา เค้าก็เลยมาชวนผมทันที เล่นอยู่ประมาณ 2 ปี วง FANTACY เค้าจะไปเล่นที่เมืองนอก ตัวผมเองอยากไปเรียนที่ BERKLEE ก็เลยตัดสินใจไม่ไปกับวง ระหว่างนั้นก็มาเจอกับเพื่อนกลุ่ม BUTTERFLY พวก สุรสีห์ พวก กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา ก็เลยมาตั้งวงชื่อ TRIANGLE LAKE ก็เลยติดลมไม่ได้ไปเรียน ระหว่างนั้นก็ตั้งบริษัท BUTTERFLY ขึ้นมา เริ่มจากการแต่งเพลงโฆษณาแล้วมันเกิดฮิตขึ้นมา ก็เลยติดพัน ทำงานกับ BUTTERFLY ทั้งหมด 15 ปี ในช่วงท้ายที่ทำงานกับ BUTTERFLY ก็ร่วมก่อตั้งวงฟองน้ำกับอาจารย์ บรู๊ช ขึ้นมา หลังจากฟองน้ำ ก็มาร่วมงานกับ คุณ สินนภา สารสาส ก็ทำ
เอกรงค์ออกมา ผมก็ทำกับ คุณ สินนภา มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบัน ในช่วงปลาย BUTTERFLY ก็เริ่มสนใจธุรกิจ เปิดร้าน THE GLASS เปิดห้องอัด เปิด BIT (BUTTERFLY INSTITUTEOF TECHNOLOGY) สอนการบันทึกเสียงแต่ตอนนี้หยุดไปแล้วจาก THE GLASS ก็มาทำ IMEGERIES จนกระทั่งปัจจุบัน ลาออกจาก BUTTERFLY มาเปิดบริษัท ECRU ทำกับคุณ สินนภา 2 คน งานใหญ่ก็จะมี ควบคุมดนตรีทั้งหมดของ ASIAN GAMES ผลงานมีเยอะมากแต่ที่เด่น ๆ ก็จะมีของคุณ วิยะดา โกมารกุล อัลบั้ม หัวใจอย่างเดียว แล้วก็ออกอัลบั้ม LOVE THEME เป็นการรวมผมงานเด่น ๆ ของผมกับคุณสินนภา แล้วก็มีพวกเพลงประกอบละครโสมส่องแสง ปลาหนีน้ำ เยอะมาก นอกนั้นก็ทำ PROJECT PRESENT ต่างประเทศ พวกเพลงประกอบวีดีโอ ฉายที่ฮ่องกง ตอนนี้กำลังทำ เอกรงค์ 3 อยู่แล้วก็งานส่วนตัวที่ยังไม่เสร็จสักที
GT : ช่วงแรกที่เริ่มฝึกกีตาร์พี่มีวิธีฝึกฝนตัวเองยังไงครับ
พี่จิ : ก็เริ่มจากการแกะเพลงพวก BEATLES แต่ช่วงนั้นไม่ค่อยได้เล่นกีตาร์มากเล่นเบสเป็นส่วนใหญ่ มาแกะกีตาร์จริง ๆ ก็พวก JOBIM นี่แหละพวก BOSSA NOVA ซื้อแผ่นมาฟัง ก็ชอบเลย แล้วที่มาแกะมากอีกคนนึงคือ WEST MONTGOMERY ชอบมากเลย เลยมาหน่อยก็เป็นพวก JAMES GANG ,SANTANA , LED ZEPPELIN, BLACK SABBATH ตอนหลังก็เริ่มเบื่อเพราะว่าเครื่องมันไม่พร้อม เป็นวง 6 ชิ้น ชื่อวง HOME แต๋ม (ชรัส เฟื่องอารมณ์) เป็นคนร้องนำ
GT : ตอนที่นี่แกะพวก JOBIM พวก CHORD 4 เสียง 5 เสียง พี่เรียนรู้ตรงนี้ได้ยังไงครับ
พี่จิ : มันก็คงไม่ถูกต้องทั้งหมดก็พยายามมากที่สุด คือ แกะมาแล้วก็เล่นเลย ผมมีวงชื่อ BODY AND SOULรับงานตามโรงแรมเล่นพวก BOSSA ,SIMON GARFUNKEN ได้เงินเยอะดีแต่เครื่องก็ไม่ค่อยพร้อมอีกก็เลยเบื่อ เผอิญมาเจอพวกนิจิออ เล่นกีตาร์โปร่งกันมันก็ง่ายดี เล่นพวก CROSBY พวก AMERICA
GT : แล้วมาเริ่มเรียนรู้พวกทฤษฎีดนตรีตอนช่วงไหนครับ
พี่จิ : ช่วงที่อยู่ FANTACY FIVE ช่วงนั้นเรียนจบแล้ว ก็ซื้อหนังสืออะไรมาอ่านเพราะมีเวลาว่างเยอะเรียนเองมาตลอดทุกอย่างช่วงหลังที่เข้มมากก็ตอนมาเจอพวก อาจารย์ดนู อาจารย์บรู๊ซ ซึ่งเวลาพวกนี้คุยกันจะคุยเรื่องเกี่ยวกับคนตรีตลอดเวลา
GT : ในเรื่องของงานดนตรีส่วนตัวจะมีมาให้พวกเราได้ฟังเมื่อไหร่ครับ
พี่จิ : คงจะเป็นต้นปีหน้าก็คงเสร็จ เป็นสไตล์ GUITAR WORKS เป็นหลาย ๆ รูปแบบเป็นป๊อบ เพลงช้าบ้าง อีกงานก็คือ เอกรงค์ 3 ซึ่งเป็นดนตรีไทยประยุกต์กับพวก SYNTHESIZER ซึ่งตอนนี้เราก็เริ่มพัฒนาไปอีกขั้น เริ่มมีคนร้องเข้ามา
GT : งานเพลงของพี่จิจะมีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่แล้ว
พี่จิ : ก็มีแฟนเพลงอยู่พอเค้าเห็นชื่อเค้าก็ซื้อ ซึ่งถ้าได้เป็นพันแผ่นมันก็ OK แล้วจะได้มีสตางค์เข้ามาบ้าง อยากจะอยู่อย่างนี้โดยที่ไม่ต้องไปรับจ้างใครเขาอีกเราผลิตงานปีละ 2 ชุด โดยมีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 5,000 คน ออกไปเค้าซื้อแน่นอน และเราไม่ทำให้เค้าผิดหวังเนี่ยแค่นี้เราก็อยู่ได้แล้ว ถ้ามันเป็นอย่างนี้เราก็จะเข้า LOOP โดยที่ไม่ต้องมีอะไรมา FORCE
GT : และตอนที่พี่ไป PRODUCE งานให้ KALEIDOSCOPE กับ ออโตบาห์น เป็นมาอย่างไรครับ
พี่จิ : เป็นมือปืนรับจ้างครับทุกแนวเลย คือ ตัวเองเป็นคนโชคดีที่อยู่ในช่วงของพวกฟิลิปปินส์ ได้สัมผัสกับพวกนี้ คือ สมัยก่อนคนที่จะเรียกว่าเก่งนี่ก็คือ เล่นได้ทุกอย่าง BOSSA, SWING, LATIN, ROCKABILLY งานของ HIROCK ก็จะเป็นการรับจ้างแต่งานของ ออโต้ บาห์น คิด PROJECT ขึ้นมาเองแล้วก็ไปเสนอที่คีตาตอนที่ทำเนี่ยก็คิดว่าอยากจะทำในสิ่งที่มันไม่มีในท้องตลาดอย่างก่อนหน้า HIROCK เนี่ยมันก็จะมี ROCK ประเภทจุ๋มจิ๋มก็นำเสนอ HIROCK ออกไปก็เป็นที่ฮือฮาอย่างใน HIROCK ก็มีคนมาช่วยเยอะทำคนเดียวไม่ไหว เราเป็นคนวางแนวทางแล้วก็ส่งให้เค้าไปทำแล้วก็ฟัง
GT : แล้วกับปัจจุบันกับการสอนดนตรีที่ ECRU ล่ะครับ
พี่จิ : ตอนที่ ECRU มีสอนอยู่ 4 อย่างที่หลัก ๆ ก็จะมีเปียโน ไม่ใช่เป็นโรงเรียนที่เปิดรับคนเยอะ ๆ คือเป็นการสอนตัวต่อตัว มีครู 3 คน มีครูมิ(สินนภา สารสาส) ครูจีน่า และครูปลา เค้าจบเปียโนมาโดยเฉพาะ รองลงมาก็จะมีกีตาร์ แต่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เพราะว่าสอนเองส่วนมากก็จะเป็นคนรู้จักกัน ลูกเพื่อนมาเรียนโดยสอนให้เค้าเกิดความสนุกสนานกับดนตรี คือ สอนตามความถนัดความชอบของแต่ละคน ส่วนมากสอนเสาร์ อาทิตย์ สอนทฤษฎีกีตาร์ด้วย ไม่มีหลักสูตรชัดเจนแล้วมีสอนเรียบเรียงเสียงประสานเครื่องดนตรีเกี่ยวกับ ORCHESTRA โดย อาจารย์ ดนู ฮันตระกูล แล้วก็มีสอนร้องเพลงโดยอาจารย์ภัทรา
GT : ทุกวันนี้ซ้อมกีตาร์อย่างไรครับ
พี่จิ : ไม่มีตารางแต่ซ้อมทุกวัน ที่หนักที่สุดคือตอนที่เล่นกับวงฟองน้ำ ซ้อมหนักมาก เพราะต้องเล่นเร็วมาก ซึ่งกว่าจะเร็วได้ มันต้องเริ่มจากช้าก่อน ต้องเพิ่มทีละนิด ระบบ FINGERING ต้องปรับใหม่หมดไปเรียนระบบ FINGERING กับฮักกี้ อยู่พักนึงฝึกใหม่หมด ฮักกี้เค้าจะมีวิธีฝึกความแข็งแรงของนิ้วให้มันเพิ่มขึ้นด้วย คือคนที่เล่นดนตรีมันเหมือนถูกหลอก แต่ระหว่างที่ถูกหลอกน่ะ มัน HAPPY คือมันอยู่ตรงไหนไม่รู้ มันอยู่ตรงโน้นโดยที่ไม่สนใจว่าจะไปยังไงแต่จะไปให้ได้คือพวกที่เล่นกีตาร์ดี ๆ หรือพวกที่ได้ดีทางดนตรีจะเป็นอย่างนี้ทุกคนอย่างผมเนี่ยสมมุติว่าอาทิตย์หน้าจะมีซ้อมกับวงฟองน้ำก็ต้องทำให้เหมือนกัน คือครูเค้าไม่ดุอยู่แล้วแต่เราก็อายเอง วิธีฝึกของผมมันไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับปัญหาที่เจอมากกว่า คือมีอยู่ช่วงนึงผมไปเจอหนังสือ JAZZ เล่มนึง ซึ่งดีมากเลยก็ได้เล่มนี้อ่านแล้วเข้าใจหมดเลยใช้ WORK ได้เลยมีทั้ง CHORD FUNCTION,DIATONIC PROGRESSION MAJOR กับ MINOR ก็เล่นได้หมดแล้วซึ่งทำให้สามารถคิดเองได้ ซึ่งตอนหลังที่สอนเราก็สอนให้เค้าคิดเองเป็นเหมือนกันไม่ให้จำ ช่วงที่ผมฝึกกีตาร์เยอะก็จะเป็นช่วงที่อยู่วงฟองน้ำกับ TRIANGLE LAKE ในขณะเดียวกันตอนนั้นเราก็เริ่มแต่งเพลงมันก็กลายเป็นว่ารายได้มาจากการแต่งเพลง จนกระทั่งปัจจุบัน นี่พึ่งกลับมาเล่นกีตาร์ตอนที่เล่นที่ IMARGERIES เพราะว่าอยากเล่นมาก อย่างกีตาร์เนี่ยมันต้องมีเวลาส่วนตัวสัก 2 -3 ชั่วโมง ชั่วโมงนึงมันไม่พอเพราะกว่าจะ WARM-UP อะไรอีกพอชั่วโมงนึงผ่านไปมันจะเริ่มติดลมซึ่งผมเคยเล่นมากที่สุดตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึงตี 4 ไม่รู้ตัวเลย
GT : มุมมองของพี่เกี่ยวกับพวกเทปผีซีดีปลอมครับ
พี่จิ : มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ซึ่งผมมองว่าอย่างอเมริกาเค้าน่าชื่นชมเพราะเค้าต่อสู้ในเรื่องของลิขสิทธิ์อย่างมากตัวผมเองก็โดนกับเพลง "ความรัก" ที่ทำให้ออโต้บาห์น ซึ่งเพลงมันดังทั่วประเทศถามยอดไปยังไงมันก็ 9 หมื่นบอกเราขายไม่ได้ ผมก็เลยหยุดทำงาน PRODUCE จนกระทั่งมาเข้าที่ WARNER ตรงนี้มันทำให้เราท้อมาก ซึ่งตรงนี้มันไม่ใช่แค่ดนตรีอย่างเดียวมันเป็นการทำลายความคิดสร้างสรรค์ของประเทศชาติเรา มันทำให้ประเทศชาติเราฉลาดน้อยลงด้วยถ้าเราส่งเสริมการโกงกันแล้วมันก็ทำให้เราไม่กล้าคิดทำให้ประเทศเราโง่เลย ในขณะเดียวกันประเทศอื่นเค้ามีการส่งเสริมให้ประชากรของเค้ามีความคิดสร้างสรรค์แล้วรัฐบาลของเค้า PROTECT บุคคลเหล่านี้ด้วย เช่น มาเลเซีย สิงค์โปร์ เกาหลี เค้าสนับสนุนคนของเค้าเรื่องการศึกษา การศึกษาเค้าดีกว่าเราเยอะ อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเค้าจะมองเราเหมือนกับที่เรามองเขมรน่ะ เราจะเป็นอย่างนั้น พวกเราจะโง่ขึ้นทุกวัน มันน่ากลัวมากซึ่งถ้าจะแก้ ต้องแก้ที่ระบบการเมืองเลย ที่ตัวนักการเมือง ถ้าเรามองว่ามันไม่เกี่ยวกับตัวเรา มันไม่ใช่ไง สักวันนึงมันต้องถึงตัวเราแน่นอน ซึ่งเราก็พยายามต่อสู้ในทางศิลปะเราพยายามสร้าง STANDARD ในเพลงให้มากขึ้น เปิดประตูใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ พวกแผ่นที่ COPY เนี่ยมันเป็นผลร้ายมากเลยต้นทุนมันแค่ 30 กว่าบาท ไอ้คนที่ COPY มันกำไรมหาศาลเลยนะมันเป็นโจรที่เลวร้ายมากเลย มันทำลายระบบธุรกิจใน INDUSTRY นี้ พูดง่าย ๆ ทำลายทุกอย่างยกเว้นครอบครัวของมันเพราะมันก็รวยขึ้นและมันก็เอาเงินเหล่านี้ส่งลูกไปเรียน MBA เมืองนอก แล้วไอ้พวกนี้มันก็เก่งกลับมาเพื่อจะมาสร้างอาณาจักร โกงให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีก ซึ่งมันน่าเศร้ามาก
เพราะอย่างศิลปินต่างประเทศเนี่ย ทางโน้นเค้าจะยกย่องว่าเป็นคนที่ไม่ใช่คนธรรมดาแล้วก็ไอ้ความคิดที่เป็นพิเศษ คนพวกนี้ไม่ได้มีได้ตลอดเวลามันจะมีช่วงที่ PEAK ช่วงนึงช่วงเดียวและหลังจากนั้นมันก็จะหมดไป เค้าจะไม่มีความชำนาญที่จะทำมาหากินอย่างอื่นแล้ว ซึ่งก็ควรจะตอบแทนเค้าในชีวิตบั้นปลายที่เค้าไม่มีงานจะทำ เพราะถ้าทุกคนมั่นใจว่า กูคิดอะไรมา แล้วไม่ถูกโกงเนี่ย อาจจะเป็นไปได้ว่าเค้าอาจจะไม่หมด สามารถสร้างสรรค์ไปได้เรื่อย ๆ จนกระทั่งเค้าจากโลกนี้ไป
GT : เวลาที่พี่ IMPROVISE พี่คิดถึงอะไรบ้างครับ
พี่จิ : คิดถึง MELODIC มากกว่า จากทำนองในหัวเราด้วย เล่นตามใจนึกมากกว่า ไม่คิดว่า SCALE นั้นจะต้องโน๊ตนั้นโน๊ตนี้จะเชื่อหูตัวเองมากกว่า เล่น 10 หนไม่เหมือนกัน (หัวเราะ) พี่จะทดลองไปเรื่อย ๆ เวลาพี่เล่นพี่เล่นสดจริง ๆ ชึ่งสดจริงๆ แต่ไม่ถึงกับหน้าแตกพอเอาตัวรอดไปได้
GT : ในงานของเอกรงค์ชุดใหม่มีการเปลี่ยนแปลงบ้างอย่างไรครับ
พี่จิ : คราวนี้ก็จะมีอิเล็คทรอนิคส์มาผสมมากขึ้น ซึ่งแต่ก่อนเป็น CLASSIC กับ ROCK N' ROOL ซึ่ง คุณ มิเค้าจะเป็น CLASSIC มาใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้าผสมกับเครื่องดนตรีไทย
GT : มือกีตาร์ที่พี่ชื่นชอบละครับ
พี่จิ : อย่างพวก ROCK N ROLL เนี่ยชอบ พร(เภกะพันท์) คือ เค้าจะเล่นกำลังดีเหมาะสมกับเพลงนั้น ๆ เค้าจะไม่โชว์มากเลย เล่นดีมาก คุมอยู่ทั้ง SOUND และน้ำหนักการเล่นอีกคนก็ฉ่าย (สมชัย ขำเลิศกุล) นี่ก็รอบตัวดี ถ้าเป็นพวกชาโดว์เนี่ยเค้าจะละเอียดมากทำได้ดี เอ๋ WIZARD เป็นเด็กที่เล่นได้แน่นและคิดเองได้ SOUND ปรับได้ดี ด้านเทคนิคก็มี หมู KALEI ซึ่งเค้าเป็น แบบ ROCK โปรดก็เป็น แบบ JAZZ ต่างประเทศก็ WEST MONGOMERY ในหัวใจตลอดเวลา PAT METHENY, ERIC CLAPTON, JIMI PAGE, JEFF BECK แล้วก็ SRV พวก STEVE VAI , JOE SATRIANI, ERIC JOHNSON เนี่ยเก่งแต่ไม่ใช่ HERO ของผม
GT : อุปกรณ์ที่ใช้อยู่ล่ะครับ
พี่จิ : กีตาร์มี 11 ตัว มี GIBSON LESPAUL DELUXE ปี 60 มี GIBSON SIGNATURE HOWARD ROBERTS มี FENDER TELECASTER CUSTOM ,IBANEZ LEE RITNOUR, GUILD S70 มีกีตาร์ RINT CUSTOM รุ่น จิรพรรณ มี GIBSON CHET ATKIN, OVATION รุ่นแรกเลยเป็นโปร่งไฟฟ้า พี่ใช้ AMP FENDER ไม่ค่อยใช้ EFFECT เสียบตู้อย่างเดียว ผมมี EFFECT ROLAND GT16 แล้วก็ใช้ PRE-AMP MESA/BOOGIE TRIAXIS
GT : พี่มองวงการดนตรีเมืองไทยว่าเป็นอย่างไรครับ
พี่จิ : ไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งช่วงหลัง ๆ เนี่ย โดยเฉพาะดนตรี POP ตั้งแต่ไม่มีเต๋อเนี่ยแย่ลง แต่ในต่างประเทศก็แย่เหมือนกัน เพราะคนที่มาบริหารบริษัทแผ่นเสียงไม่ค่อยมีใครรักดนตรีเค้ามองทุกอย่างเป็นธุรกิจหมด ทุกอย่างเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาสัก 80-90% เพราะฉะนั้นเพลงในยุคหลัง ๆ จึงไม่ค่อยมีคุณค่าอยู่ได้ไม่ค่อยนาน
GT : พี่มีอะไรจะฝากถึงน้อง ๆ บ้างมั้ยครับ
พี่จิ : ถ้าสนใจจะเป็นนักดนตรีก็หลีกหนีการฝึกฝนไม่ได้ ทุกคนต้องซ้อม ไม่มีนักดนตรีเก่ง ๆ คนไหนที่ไม่ซ้อมหรือซ้อมน้อย แล้วเก่งได้ ทุกคนที่ผ่านมาวัน ๆ อยู่กับกีตาร์ วันละ 5-6 ชั่วโมง แล้วก็อย่าเป็นนักดนตรีแต่ในฝันที่อยากจะมีชื่อเสียงหรืออยากจะร่ำรวย มันต้องหลงไหลในเสียงดนตรีก่อนแล้วสิ่งเหล่านั้นมันจะมาเอง
ถ้าคุณใช่ แต่ถ้ามัวแต่ไปคิดถึง ความร่ำรวยและชื่อเสียงเป็นโจทย์แล้วเนี่ยมักจะจอดทุกราย เพราะว่ามันจะท้อไปก่อน แล้วถ้าผมมีผลงานอะไรก็ฝากด้วยละกัน
สำหรับเพื่อนๆคนใดสนใจที่จะเรียนดนตรี หรือ e-mail ไปคุย เรื่อง ดนตรีกับ พี่จิ ซึ่งทางพี่จิฝากมาบอก
ว่ายินดีตอบ ทุกๆ e-mail หรือจะติดต่อไปที่ ECRU MUSIC CO.,LTD.810/12-14 THARAROM2,SUKHUMVIT 55,KLONGTON,BANGKOK.10110 TEL: 3924320,3924484
|
วันนี้เรามีเพลงมาให้พวกเรา
Download
กันอีกแล้วนะครับคราวนี้เป็นเพลงของ พี่จิ
(จิรพรรณ อังศวานนท์) มีทั้งหมด 2 เพลงเพลงแรก คือ How i love you เป็นเพลง
ในอัลบัมส่วนตัว JI'S PROJECT ส่วนเพลงที่2 Resonance of Thailand เป็นเพลงใน
อัลบัม EKARONG III ทั้ง 2 เพลงนี้พี่จิฝากบอกมาว่า สงวนลิขสิทธิ์ สำหรับฟังเพื่อความบันเทิง
ภายในบ้านเท่านั้นนะครับ.
1. How
I love you
2. Resonance
of Thailand
|
|
|
|
|