สวัสดีครับ เพื่อนๆชาว Guitarthai ครั้งนี้ถือว่าเป็นความพิเศษสุดๆที่เราได้สัมภาษณ์ Slash มือกีต้าร์ แห่ง Gun’s Roses นับว่าเป็นการรอคอยที่ยาวนานมาก ก่อนหน้านี้ Slash ได้ให้สัมภาษณ์รวมสื่อมวลวชนทุกแขนงโดยเฉพาะรายการทีวีที่มากกันมากมายจริงๆ และ ต้องขอขอบคุณ Universal Music Thailand และ ผู้จัดอย่าง Terminal Extra ที่ให้ความอนุเคราะห์ให้เราได้เข้าไปสัมภาษณ์ประชิดตัวพร้อมกันโดยมี Guitarthai ,นิตยสารสีสัน ,นิตยสาร Guitarist และ พี่ซี๊ด หรือที่เรารู้จักกันในนาม DJ ซี๊ด นรเศรษฐ หมัดคง, เข้าสัมภาษณ์พร้อมกัน โดยใช้เวลาราว 15 นาทีให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยเราผลัดกันถามดังนี้ครับ

Guitarist : ใครเป็นมือกีต้าร์ที่เป็นฮีโร่ของคุณ?
Slash : มีเยอะมากๆเลยครับ Jeff Beck, Eric Clapton, Jimmy Page, Keith Richard, Jimi Hendrix, Mick Taylor, Gary Moore ที่เพิ่งเสียชีวิตไป , Joe Walsh, AC/DC , Rick Neilsen ….. ผมพูดไปได้เรื่อยๆเลยนะ มีมือกีต้าร์เยอะมากๆ ที่ผมฟังผลงาน และได้รับอิทธิพลจากพวกเขา
Guitarist : มีมือกีต้าร์รุ่นใหม่ๆที่คุณชอบบ้างมั้ย?
Slash : ผมไม่ค่อยได้ฟังผลงานของมือกีต้าร์รุ่นใหม่ๆเท่าไหร่นะ แต่จะรุ่นที่ต่อจากผม อย่าง Tom Merello, Kim จาก SoundGarden, James Hetfield ซึ่งจริงๆเขาก็รุ่นเดียวกับผมนะ , Dave Mustain , Kerry King มีมือกีต้าร์เก่งๆเยอะมากๆ อ้อ Zakk Wylde ด้วย มีมือกีต้าร์ที่เป็นนักปั่น จากหลายๆวงที่ผมไม่ได้พูดถึงอีกเยอะมาก .....เอ่อ เดี๋ยวนะ มีอีกคน ผมนึกชื่อเขาไม่ออก....
Guitar Thai : เป็นศิลปินเดี่ยวหรือปล่าวครับ? หรือเขาอยู่วงอะไร?
Slash : เขาเป็นศิลปินเดี่ยวครับ เป็นมือกีต้าร์บลูส์...เอ่อ
Guitar Thai : Joe Bonamassa?
Slash : ใช่ๆๆ Joe Bonamassa จริงๆเขาดังมานานแล้วนะ แต่ผมเพิ่งจะมีโอกาศได้ฟังงานของเขา เขาเป็นตัวจริงเลย ทีเดียว ....และผมยังมีมือกีต้าร์จากวงของ Myles.. Altered Bridge....เอ่อ..
Guitar Thai : Mark Trimonti?
Slash :ใช่เลย Mark Trimonti…จริงๆMyles เองก็เล่นกีต้าร์เก่งนะ
Guitarist : คุณรู้สึกกดดันบ้างหรือเปล่าที่จะต้องทำอัลบั้มเดี่ยวของคุณให้เป็น Masterpiece เพราะคุณเป็นฮีโร่ของมือกีต้าร์หลายๆคน
Slash : อย่างอัลบั้มล่าสุดหรอ? ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่นะ ผมก็แค่ทำดนตรีในแบบที่ผมชอบ จริงๆแล้วผมไม่ได้เป็นมือกีต้าร์ที่ดีในสตูดิโอ เลยนะ ผมว่าผมเล่นสดได้ดีกว่า มันก็ท้าทายนะที่จะเล่นให้ออกมาดีๆในสตูดิโอ ผมไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรเลยครับ
พี่ซี๊ด : ในอัลบั้มของคุณได้ศิลปิน และเพือนๆของคุณมาแจมกันเยอะมากๆ ในภาคของสตูดิโอ ..แล้วในส่วนของการเล่นสดละ? อย่างเพลงที่ Fergie(Black Eyed Peas) บันทึกเสียงไว้ ตอนเล่นสดใครจะเป็นคนร้องครับ?
Slash : Myles (Kennedy) เป็นร้องครับ , Myles ร้องทุกๆเพลงเลยในส่วนของการแสดงสด ตอนทำอัลบั้มนี้มีเพือนๆ มาแจมด้วยกันหลายคนมาก ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้แน่ๆที่จะให้ทุกคนไปร่วมทัวร์กับผม และมันก็ยากมากๆที่จะหานักร้องมาออกทัวร์ด้วยกันเพราะ เราอยากเล่นเพลงจาก Gun’n’Rose ด้วย เพลงมันเลยออกมาหลากหลายแนวมากๆ
Myles เข้ามาร่วมแจมกับผมในเพลงท้ายๆของอัลบั้ม และผมก็สติกระเจิงไปเลยกับ เสียง และ ความสามารถของเค้า ผมจึงชวนเค้าไปทัวร์ด้วยกัน ซึ่งเรามีเวลาซ้อม กัน 2 อาทิตย์ก่อนจะออกทัวร์ Myles เข้ามาซ้อมในช่วงสัปดาห์สุดท้าย และเค้าสามารถต้องได้ทุกเพลงจริงๆ ตั้งแต่เพลงจาก Gun’n’Rose ยัน เพลงที่ Fergie ร้องเอาไว้ ซึ่งมันมหัศจรรย์มากๆ
Guitar Thai : คุณมีซาว์ดกีต้าร์ที่ดีมากๆ มาตั้งแต่ยุค 80’s จนกระทั่งตอนนี้ปี 2011 แล้ว เทคโนโลยีการบันทึกเสียงมันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ในอัลบั้มล่าสุด คุณก็ยังมีซาว์ดกีต้าร์ที่สุดยอดอยู่ คุณทำอย่างไรครับถึงจะบันทึกเสียงกีต้าร์ให้ได้ซาว์ดอย่างที่ต้องการ?
Slash : การบันทึกเสียงของผมไม่มีอะไรซับซ้อนเลยนะ ผมใช้กีต้าร์ตัวเดิมตลอดเลย นอกจากงานที่บันทึกเสียงให้คนอื่นนะ ในงานของ Gun’n’Rose , Snakepit รวมถึงอัลบั้มเดี่ยวของผม ผมใช้กีต้าร์ตัวเดียวกันตลอดเลย และนั่นเป็นกีต้าร์ตัวเดียวที่ผมใช้ในการบันทึกเสียง และผมก็มี แอมป์ Marshall ที่ผลิตในช่วงปี 80’s
แต่ผมบันทึกเสียงทุกอย่างลงบนเทป ถึงแม้เทคโนโลยีมันจะพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราทำงานในสตูดิโอ ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เร็วขึ้น คุณสามรถทำอะไรได้มากขึ้นมากมาย แต่ในอีกทางนึง มันทำให้คุณภาพของเสียงแย่ลง คุณก็ต้องเลือกเอาระหว่างความสะดวกสบาย กับ คุณภาพของเสียง
Guitar Thai : คุณยังใช้ระบบ Analog อยู่
Slash : ใช้ครับ แต่อย่างที่รู้กันว่า เค้าเลิกผลิตอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกเสียงแบบนี้ไปหมดแล้ว ผมมีเทปเหลืออยู่สำหรับอัลบั้มหน้าเท่านั้น มันจะเป็นอัลบั้มสุดท้ายที่ผมจะใช้เทปบันทึกเสียงได้ เพราะผมไม่สามารถหามันได้อีกแล้ว หลังจากนั้นผมก็คงต้องหันไปใช้ ProTool
พี่ซี๊ด: ใครคือ ศิลปินหญิงที่ยอดเยี่ยมที่สุด เท่าที่คุณเคยร่วมงานด้วย?
Slash : Carole King ครับ เธอเจ๋งมากๆเลย เธอเป็นนักแต่งเพลงที่เก่งมากๆ เป็นนักร้องที่สุดยอด และ เธอเป็นคนที่มีความสามารถมากจริงๆ
Guitarist : ช่วยพูดถึงกีต้าร์ตัวแรกของคุณหน่อย?
Slash : มันเป็นกีต้าอะคูสติกที่มีสายเดียวครับ!! (หัวเราะ) เป็นกีต้าร์แบบ สแปนิช
Guitar Thai : คุณยังเก็บมันไว้หรือปล่าว?
Slash : ไม่แล้วครับ ผมไม่รู้มันอยู่ที่ไหนแล้ว ผมพกมันติดตัวไปไหนต่อไหนมานานมากๆเลยนะ
สีสัน : คุณอายุเท่าไหร่ตอนนั้น?
Slash : 15
Guitarist : คุณเล่นมันยังไง?
Slash : ก็ผมชอบเล่น Riff , สายเดียวมันสามารถเล่น Riff ได้สบายเลย
Guitar Thai : พูดถึง Riff, คุณแต่งพวก Riff อมตะทั้งหลายขึ้นมาอย่างไร? อย่าง Sweet Child O’Mine คุณแต่งขึ้นมา หรือ คุณ อิมโพรไวส์?
Slash : ก็ผมจะเล่นและ บันทึกเสียงไปเรือยๆ ผมมีกีต้าร์อยู่ในห้อง ผมจะพยายามเอาสิ่งที่อยู่ในหัวผมออกมา และง่วนอยู่กับมัน (Keep Fxxking with it!!) ดูซิว่ามันจะไปทางใหนต่อได้ กลองจะเป็นยังไง คุณไม่มีทางรู้หรอกว่ามันจะออกมาเป็นยังไง อย่าง Sweet Child O’Mine ผมก็ไม่รู้หรอกนะมันจะออกมาเป็นแบบนี้ ผมแค่มี Riff อันนึงที่ผมคิดว่ามันเจ๋งดี
พี่ซี๊ด : คำถามสุดท้ายนะครับ คุณคิดยังไงกับคำว่า “ถ้าไม่มี Slash ก็ไม่มี Gun’n’Rose”
Slash : มันก็ 15-16 ปีมาแล้วนะ ที่สมาชิกดั้งเดิมของ Gun’n’Rose ไม่ได้รวมตัวกันเลย ที่ทุกคนก้าวออกมาจากวงนั้น เพราะ ไม่มีใครสามารถเข้าใจ Axel ได้ ไม่มีใครรู้ว่าเค้าต้องการอะไร แล้วจะเอายังไงต่อ ที่ผมออกมาก็เพราะปัญหานี้ ซึ่งก็เป็นปัญหาเดียวกับที่ทุกคนเจอ ดังนั้น จะมีหรือไม่มี Gun’n’Rose มันก็เป็นปัญหาของ Axel ครับ