Main Menu
 Home หน้าแรก
 login / สมาชิก
 BuyerBook
 รายการ TV
  คอร์ด / เนื้อเพลง
  วีดีโอ คลิป
  Webboard
  Classifieds
  ข่าวสารดนตรี
  Review & ทดสอบ
  งานคอนเสิร์ต
  บทความดนตรี
  Cools Links
  Artist Gear
 
  About Us

4210


 Interview :     Benni Chawes และ Anders Bergcrantz     6/20/2551    Acid head

ครั้งนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักดนตรีแจ๊ส 2 ท่าน ที่มาแรงมากๆในยุโรปนั้นคือ Benni Chawes และ Anders Bergcrantz ซึ่งทั้งคู่ได้มาร่วมเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเรา เริ่มต้นกันที่ Benni Chawes กันก่อนเลยครับ  และ Guitarthai ขอขอบคุณ คุณปิ๊กและคุณสา Hitman มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

GT : ช่วยเล่าถึงประวัติการศึกษาทางดนตรีของคุณครับ
Benni : ผมเริ่มต้นเรียนดนตรีครั้งแรกจาก พี่สาวของผม เธอสอนผมร้องเพลง ตอนนั้นน่าจะประมาณ 6-7 ขวบ มันเป็นการเรียนที่จะร้องเพลงจากคีย์นึง แล้วก็เปลี่ยนไปอีกคีย์นึง หลังจากนั้นผมก็เริ่มต้นที่หัดเล่นกลอง ต่อมาคือแซ็กโซโฟน,เปียโน  และหลังจากนั้นผมก็เริ่มต้นเรียนดนตรีในช่วง ไฮสคูล ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีในเดนมาร์ค และหลังจากนั้นผมก็่หน้าเข้าเรียนที่ berklee music school

GT : ใครเป็นนักดนตรีที่ส่งอิทธิพลต่อคุณในช่วงแรกๆ
Benni : Michael Brecker , Kenny Clarlland,Earth Wind & Fire ,Tower Of Power

GT : ฟังดูแล้วคุณเป็นคนที่ชอบดนตรีที่เน้นเรื่องของกรู๊ฟ
Benni : ใช่ !! และการที่ผมเริ่มต้นหัดเลียนเสียงเครื่องดนตรีเป็นครั้งแรก ผมก็เริ่มต้นหัดจากเสียงเบส ผมชอบพวกไลน์ของฟั้งกี้ และถ้าหากฟังจากงานของผมก็จะได้ยินเสียงเบสอย่างนี้เช่นกัน

GT : คุณมีวิธีฝึกสไตล์การเล่นที่เลียนเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ด้วยเสียงร้องหล่านี้ได้อย่างไรb

Benni : (หัวเราะ) ตอนอาบน้ำเลยครับ ตอนเช้าที่เราอาบน้ำ ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่เหมาะมากๆในการฝึก มันดีจริงๆ เพราะว่า ในห้องน้ำจะมีกำแพงที่ล้อมทุกด้าน ไม่ว่าเราจะร้องอะไรเราจะได้ยินสิ่งที่เราร้องทั้งหมด กำแพงจสะท้อนเสียงเหล่านั้นกลับมาที่เรา

GT : ในห้องน้ำยังมีเสียงของ เอ็คโค่ และรีเวิร์บด้วย
Benni : เสียงของรีเวิร์บมีมากในห้องนำ  ยิ่งการฝึกเสียงกลอง ยิ่งดีมากๆ


GT : คุณมีความคิดที่จะทำอัลบั้มซักชุดที่เป็น เพลงแบบอะแคปเปร่า หรือเพลงที่เป็นบีทบ็อกซ์หรือเปล่า
Benni : ไม่ครับ ผมแค่เพียงอยากให้มีเสียงอย่างนี้ เข้ามาอยู่ร่วมกับเพลงกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ

GT : การที่คุณจะทำเสียงพวกนี้ได้ ต้องมีการฝึกฝนเรื่องของ ear training  ที่ดีด้วยหรือเปล่า
Benni : แน่นอนครับ ผมมีทักษะการฟังที่ดี ก็เพราะ การฝึก ear training ที่เยอะมากๆ แต่ต้องฝึกมันอย่างจริงจังด้วย

GT : เวลาที่คุณเล่นคอนเสิร์ต เมื่อนักดนตรีคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นมือเปียโน หรือกีต้าร์ เวลาที่เขาใส่พวกคอร์ด เท็นชั่นเข้ามา เช่น ในอัลบั้ม มือเปียโนเล่น cmaj 7 แต่พอเล่นสด เขากลับ เล่น cmaj 13 คุณมีปัญหากับการร้องหรือเปล่าครับ
Benni : ไม่เลย !! ไม่มีปัญหากับผมเลย เพราะผมฝึก ear training มา และมันก็ช่วยเรื่องนี้ได้เยอะมากด้วย มือเปียโนสามารถ เล่นคอร์ด sub ยังไงก็ได้ ผมก็ยังคงอยู่ในคีย์เดิมของมันได้ นั้นก็เพราะการฝึก ear training นั้นเอง

GT : คุณเป็นทั้งมือเปียโน และนักร้อง ตรงนี้คุณมองตัวเองว่า ส่วนไหนที่เป็นตัวของคุณ มากกว่ากัน
Benni : ผมชอบคำถามนี้ (หัวเราะ) อืม.. 60 เปอร์เซ็นต์สำหรับมือเปียโน 40 เปอร์เซ็นต์กับการเป็นนักร้อง 

GT : ทำไมคุณถึงให้ Jakob Christoffersen มาเล่นเปียโนในอัลบั้ม แทนที่คุณจะลงมือเล่นเอง
Benni : คำถามนี้ดีมากๆ เหตุผลก็คือ ผมอยากทำหน้าที่ นักร้องอย่างสมบูรณ์แบบ และไม่ต้องกังวลกับ ดนตรีส่วนอื่นๆ  ผมก็แค่มอบหน้าที่นี้ ให้กับ Jakob ไป เพื่อให้ผมได้มุ่งหน้ากับ การร้องอย่างเต็มที่

GT : ดูเหมือนว่าคุณให้ความสำคัญของ ริทึ่ม ในอัลบั้มชุดนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งมีความเป็นฟังกี้สูง
Benni : ใช่ครับ และผมคิดว่า อัลบั้มชุดต่อไป น่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ด้วย (หัวเราะ)

GT : คุณคิดที่จะที่จะทำอัลบั้มที่เป็นแสตนด์ดาร์ดแจ๊ส หรือพวกโอลสคูลแจ๊สหรือ เปล่า
Benni : เมื่อไม่นานมานี่ ผมได้มีโอกาสได้นั่งเล่นกับ jakob เราเล่นเพลงแสตนดาร์ดกัน ซึ่งผมก็ไม่เล่นอย่างนี้มานานแล้ว มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ  แต่ถ้าถามว่าจะทำอัลบัมอย่างนี้หรือปล่า ผมคิดว่าคงไม่ แต่ผมมองว่า อยากทำอัลบั้มซักชุดในรูปแบบวงบิ๊กแบนด์หรือวงซิมโฟนีวงใหญ่ๆ มากกว่า อาจจะ เอาเพลงของ Frank Sinatra มาเล่นด้วย น่าจะเป็นอย่างนั้น

GT : การที่คุณจะทำงานเพลงที่ฉีกออกไปจากสิ่งเดิมๆอย่างนี้ พวกแจ๊สรูปแบบใหม่ๆ จำเป็นหรือเปล่าที่จะต้องเรียนรู้ ดนตรีแจ๊สแบบแสตนดาร์ดให้มาก
Benni : แน่นอน ครับ !! มันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างแน่นอน

GT : คำถามสุดท้ายครับ คุณมีอะไรอยากฝากถึง นักดนตรีชาวไทยหรือเปล่าครับ

Benni : ฟัง และเล่นครับ คุณต้องหัดที่จะแกะเพลงและวิเคราะห์มันออกมา มันเหมือนกับการที่คุณเรียนรู้การพูดจาก พ่อและแม่ หลังจากนั้น คุณก็พัฒนามันออกมาเป็นตัวของคุณเองในที่สุด

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket