ครั้งนี้ถือว่าเป็นการสัมภาษณ์ที่ค่อนข้างพิเศษทีเดียวที่ได้พูดคุยกับวงดนตรีเมตัลฝีมือเยี่ยมของโลก นั้นคือวง Dragon Force เราได้คุยกับเขาในช่วงเช้าวันที่ 24 ซึ่งสมาชิกทั้ง 6 ก็เป็นกันเองอย่างยิ่ง ทันทีที่เราแนะนำตัวว่ามาจาก www.guitarthai.com มือกีต้าร์รอบจัดอย่าง Herman Li ก็ทำการจัดแจง พูดติดตลกให้เพื่อนออกไปรอก่อน ให้มีเขากับ Sam เท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกีตาร์ (จริงๆแล้วทั้งหมดก็นั่งอยู่พร้อมกัน แต่จะหนักไปที่ Li และ Sam ) อาจจะไม่ได้เจาะลึกถึงเรื่องราวมากนัก แต่เราก็ได้อะไรจากพวกเขาเยอะทีเดียว

GT : รู้สึกอย่างไรกับการมาเล่นอีกครั้งในเมืองไทย กับคอนเสิร์ตที่ใหญ่กว่าครั้งแรกมาก
Sam : อืม..เยี่ยมมากคำถามนี้
LI : ประมาณ 3 ปีแล้วที่เรามาเล่น และครั้งนี้เรามาพร้อมอัลบั้มใหม่ และมันดีกว่าตอนนั้นแน่นอน และคุณก็จะไม่เคยเห็นอะไรเจ๋งๆอย่างนี้มาก่อนแน่นอน
GT : ในการแต่งเพลงของคุณแต่ละครั้งมักจะเริ่มต้นจากอะไร เช่น คอร์ดหรือว่าเมโลดี
Sam :ทั้งสองอย่างเลย แล้วแต่ว่าอะไรมาก่อน แต่มักจะมาพร้อมกันเพราะเริ่มคิดทางคอร์ดได้เมโลดีก็จะเกิดทันที
LI : อืม..และเมื่อมีทางคอร์ดที่แตกต่างกัน มันก็จะให้เมโลดีที่แตกต่างกันรวมถึงฟิลเพลงที่ออกมาแตกต่างกันด้วย
GT : แล้วเพลงส่วนใหญ่มาจากการแจมกัน หรือจากแต่ละคนคิดมาก่อนแล้ว
Sam : ก็จะมีจากการเล่นอิมโพรไวส์ของแต่ละคนเวลาที่มาแจมร่วมกัน และก็บางครั้งแต่ละคนก็จะเขียนเพลงมาจากที่บ้านและทำเป็นเดโมและอัดมาให้วงฟังกัน
GT : ทุกครั้งที่วงคิดเพลงกันมักจะเป็นเพลงเร็วที่แต่งก่อนหรือเปล่า
Sam : อืม..ผมคิดว่าไม่เสมอไปทุกครั้งนะ ในเพลงเราลองเล่นกันในหลายๆเท็มโป้
LI : ใช่!! และเราต้องหาความเร็วที่เหมาะสมที่สุดกับเมโลดีที่แต่งขึ้นมา
GT: มีบ้างหรือเปล่าที่แต่งเพลงช้ามา แล้วเกิดการเปลี่ยนมันมาเป็นเพลงเร็ว
Sam : โอ้!! ไม่มีแน่นอน
GT : ก่อนที่วงจะอัดเพลงเร็วซักหนึ่งเพลง ทางวงต้องซ้อมให้เร็วกว่าที่อัดออกมาให้ฟังกันหรือเปล่า เพราะครั้งนึงผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของ Steve Vai ซึ่งเขาเคยบอกไว้ว่า ทุกครั้งที่เขาจะอัดเพลงซักเพลง เขาจะต้องเล่นให้เร็วกว่าในแผ่น
Sam : อืม ..ไม่นะ ผมไม่คิดอย่างนั้น
LI : เราอัดเพลงแต่ละครั้ง เราจะซ้อมและเล่นในเท็มโป้ที่เรากำหนดว่าจะอัด ที่ทำอย่างนี้เพราะมันจะได้ความสดของพลังในการอัดและเล่นออกมา
Sam : เราเล่นและทำความเข้าใจในเพลงที่จะเล่นไปด้วยกันทั้งหมดทั้งวง
GT : ท่อนที่กีต้าร์โซโล่ของเพลงนั้นมักเริ่มคิดจากอะไร
LI : ผมก็จะดูจากเพลงทั้งหมด แล้วก็ลองนั่งอิมโพรไวส์ไปกับมัน เพื่อหาไอเดียที่เหมาะๆ
GT : แล้วกับเพลงของวงที่เป็นเพลงเร็วซะส่วนใหญ่ มันส่งผลที่ยากต่อการคิดหาเทคนิกใหม่ๆในการเล่นโซโล่มากแค่ไหน
Sam : โอ้!! (หัวเราะ) ยากมากๆเลยทีเดียว และมันก็ยากขึ้นเรื่อยๆจนเราทำมันมาถึง 3 อัลบั้ม และทุกๆชุดจะเห็นว่ามันยากมาก เราค่อยๆเปลี่ยนมันเรื่อยๆ
LI : เราปรับมันยากมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเห็นได้ว่าการแจมกับเพลงจะช่วยได้เยอะ เมื่อลองศึกษามือกีต้าร์อย่าง Steve Vai ,Joe Satriani , Tony McAlpine หรือ Paul Gilbert หรือทุกคน เช่นกัน ถ้าให้พวกเขาลองโซโล่ในเพลงเดียวกัน หรือคอร์ดเดียวกัน มันจะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาเป็น และมันก็จะเกิดไอเดียใหม่ๆที่น่าสนใจขึ้นมาจากการแจม
GT : มีหลายคนมักจะบ่นว่าเพลงของคุณในส่วนของท่อนโซโล่นั้นยากมากทีเดียวนะ
Sam : (หัวเราะพร้อม Li) จริงเหรอ
GT : และพวกเขาก็ใช้เวลาค่อนข้างนานที่เดียวในการแกะเพลงของคุณ
LI : (หัวเราะ) ผมก็เป็นนะ ถ้าแกะเพลงใครยากๆ
Sam : ใช่ๆ ผมก็เป็น (หัวเราะ)
LI : อย่างเพลงของ Steve Vai หรือ Marty Friedman ก็ใช่เวลาแกะนานเช่นกัน
Sam : เมื่อใครก็ตามที่จะหัดแกะโซโล่ของคนอื่นที่ยากๆ วันนี้อาจจะแกะได้ไม่ละเอียดแต่วันต่อๆไปถ้าทำทุกวันมันจะกลายเป็นสิ่งที่คุณคุ้นเคยและได้ยินมันมากขึ้นและเล่นมันได้ละเอียด
LI : ใช่ !! และพวกคุณก็ทำมันได้ เมื่อคุณรู้สึกเข้าถึงเพลงมากขึ้น ลองคิดดูถึงมือกีต้าร์ซักคนหรืออย่าง Joe Satrini กว่าที่เขาจะเล่นได้อย่างนี้ กี่โน็ตแล้วที่เขาเล่นผิดไป
GT : มีคำแนะนำถึงมือกีต้าร์หรือนักดนตรีที่ต้องการเล่นเพลงของคุณหรือเปล่า
Sam : ผมคิดว่าการแกะเพลงเป็นสิ่งที่ดีที่ควรเรียนรู้ของเด็กทุกๆคนที่หัดเล่นกีต้าร์ และวันข้างหน้าคุณก็จะเล่นดีขึ้น
LI : ใช่ !!
GT : ด้วยความที่วงมีมือกีต้าร์ที่เป็นชาวเอเชียอย่าง Li ทำให้มีไอเดียในการทำเพลงที่แตกต่าง อย่างเพลง Operation Ground And Pound ที่มีเมโลดีออกเป็นเพลงจีน
LI : เพลงนี้ ไม่ใช่ผมแต่ง (ชี้ไปที่ Sam)
Sam : (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องที่ตลกมากเลยนะ กับเพลงนี้
LI : คุณรู้อะไรไหมว่า Sam ชอบเล่นวีดีโอเกมส์มากๆ และเราก็มักจะได้ยินเพลงที่อยู่ในเกมส์ ซึ่งมันก็เป็นเพลงสไตล์ญี่ปุ่น
Sam : ใช่ !! แล้วเพลงที่เราเล่นมันก็มักจะได้ไอเดียมาจากในเกมส์เหล่านี้ และเพลงนี้ก็เช่นกัน
GT : ใครเป็นฮีโร่ของ Dragon Force บ้าง
Sam : อืม.. เรามีฮีโร่ค่อนข้างเยอะมากเลยนะในชีวิต
LI : แล้วอย่างตอนเป็นเด็กๆหละแซม
Sam : อืม..ตอนเป็นเด็กก็ต้อง Iron Maiden , Motley Crue
LI : Slayer
Sam : ใช่ๆ Slayer แล้วก็เหล่าเมตัลแบนด์ทั้งหลาย
LI : อืม.. มันเหมือนกับว่าเป็นช่วงเวลามากกว่า เวลาที่ผ่านและเราโตขึ้นเราก็จะฟังมากขึ้น และมีอีโร่มากขึ้น
Sam : อย่างปัจจุบันนี้ ถ้าผมอายุ 15 ผมอาจจะฟังและบ้า Greenday อยู่ก็ได้ (หัวเราะ)
GT : แล้วกับพวกแจ็สหละ
Sam : ไม่ ไม่เลย ผมไม่ชอบแจ็สเลย
LI : แต่ก็มีนะที่ฟัง พวกมือกีต้าร์ที่เล่นฟิวชั่น
Sam : อืม..ใช่ๆ
GT : วงเคยคิดจะกลับไปทำงานเพลงอย่างในยุคแรกๆเลยหรือเปล่า
LI : ไม่!! (พูดพร้อม Sam) ไม่มีทางกลับไปทำอย่างนั้นแน่นอน
Sam : ผมคิดว่า ถ้าใครที่ฟังเพลงของพวกเรามาตลอด จะเห็นได้ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ
GT : ทุกวันนี้พวกคุณก็ต้องฟังเพลงจากวงใหม่ๆเยอะหรือเปล่า
Sam : ใช่ เยอะทีเดียว
GT : งั้นพอจะบอกได้หรือเปล่าว่า ทุกวันนี้คุณฟังใครอยู่บ้าง
Sam : อืม ..ยังไม่มีใครที่เจาะจง
LI : ผมฟัง อัลบั้ม Scéncs ของ Marty Friedman อยู่
Frédéric Leclercq: ผมกำลังฟัง Stone Sour อยู่ ผมเป็นพวกอินเทรนด์ (หัวเราะทั้งวง)
GT : ช่วยบอกได้ไหมว่าการที่พวกคุณชอบเล่นเกมส์ และเพลงจากเกมส์ไหนที่สร้างแรงบัลดาลใจที่นำมาแต่เป็นเพลงมากที่สุด
Sam : อืม..ผมไม่สามารถบอกได้หรอกว่าเกมส์ไหนที่ได้รับอิทธิพลมากที่สุด เพราะตอนเป็นเด็กเราเล่นเกมส์เยอะมากๆ แต่รู้ว่าการเล่นกีต้าร์ออกมาให้เหมือนเพลงในเกมส์มันเจ๋งทีเดียว
LI : แต่มีเกมส์นึงที่เป็นเกมส์บนคอมพิวเตอร์ที่ชอบเพลงในเกมส์มากนั้นคือ The Last Ninja ประมาณปี 86 ไม่รู้ว่าเคยเล่นกันหรือเปล่า
GT : คิดว่าไม่เคยเล่นนะ แต่เพลงส่วนใหญ่ของคุณก็มักจะได้มาจากเกมส์สไตล์ต่อสู้
Sam : ใช่ ใช่เลย (พูดพร้อมกับ Li) เราเล่น Play Station กันและก็ชอบเพลงประกอบมันมาก
LI : พวกเกมส์ญี่ปุ่น (ทำเสียงประกอบแบบในเกมส์ตอนที่ยิงต่อสู้กัน)) เราดัดแปลงมันออกมาให้อยู่ในเพลง
GT : ช่วยบอกถึงอุปกรณ์ที่ทั้ง LI และ Sam นำมาใช้ในคอนเสิร์ตครั้งนี้
LI : เอ่อ..มีกีต้าร์ Ibanez , Pre Amp ของ RockTron มันทำได้หมดเลยทั้งการเล่นโซโล่ใส่เสียงดิสทรอชั่นและเสียงคลีน ทุกสิ่งตอบสนองผมได้ดี และก็ใช้เป็นไวเลส (wireless )ทั้งหมด แล้วก็มี Whammy Pedal ส่วน Sam ใช้ Ibanez Iceman นี่คือหลักๆทั้งหมด
GT : คุณมีเหตุผลอะไรที่เลือกใช้ Ibanez
LI : โอ้!! เมื่อครั้งแรกๆที่ผมหัดเล่นกีต้าร์ ผมเจอกับซาวด์จากกีต้าร์ที่ห่วยมาก แต่ Ibanez ให้ซาวด์ที่ดีมากๆ
GT : เคยคิดถึงการ scallop กีต้าร์หรือเปล่า
LI : ไม่เลย เพราะผมชอบการเล่นที่สัมผัสและรู้สึกได้ถึงเนื้อไม้ การ scallop ทำให้การเล่นกีต้าร์ของผมรู้สึกแย่มากๆ
GT : เป็นคำถามสนุกๆนะ งั้นคุณก็เล่นเร็วกว่า Yngwie นะซิ เพราะไม่ต้อง scallop
LI : (หัวเราะทั้งวง) ไม่ๆ ไม่เลย เราเล่นในสไตล์ที่แตกต่างกัน
GT : แล้วสายกีต้าร์ที่ใช้หละ
LI : อืม.. D’addario เบอร์ 10 แล้วจูนลง ครึ่งเสียง ส่วน Sam ใช้เบอร์ 9 – 46
GT : แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ฟังงานชุดใหม่จาก Dragonforce
Sam : เราจะเริ่มอัดในเดือนตุลาคม และน่าจะเสร็จในปีหน้า
LI : อืม..ใช่ ปีหน้า
GT : ผมได้ข่าวมาว่า คุณจะกลับเมืองไทยอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม สำหรับงาน Work Shop ของคุณ
LI : ใช่ !! เดือนกรกฎาคม เอ่อ..น่าจะช่วงวันที่ 14 เป็นงาน กีต้าร์คลีนิค
GT : อาจจะมีมือกีต้าร์ในไทยขึ้นไปแจมกับคุณ
LI : จริงเหรอ !! (ทำหน้าตกใจมาก) ผมคงแย่แน่ๆ (หัวเราะทั้งวง) ผมคงต้องกลับไปฝึกหนักกว่าเดิมแล้ว
GT : ผมคิดว่าคนๆนั้นคงต้องฝึกหนักมากๆเพื่อเล่นกับคุณ
LI : โอเคๆ ผมเจอปัญหาใหญ่แล้วหละ (หัวเราะทั้งวง)
GT : นอกจากนี้ยังมีหลายๆคนในเว็ปของผม เล่นเพลงของคุณด้วยนะ
LI : โอ้!! เยี่ยมมาก (ทำหน้าตื่นเต้น)
GT : แล้วในการมาเล่นครั้งนี้ วงมีอะไรพิเศษๆให้แฟนเพลงหรือเปล่า
LI : ถ้าคุณได้เห็นพวกเราเล่นในอังกฤษ ที่มีคนกว่า 50,000 ทุกอย่างในเมืองไทยก็เช่นกัน (หัวเราะ)
