Main Menu
 Home หน้าแรก
 login / สมาชิก
 BuyerBook
 รายการ TV
  คอร์ด / เนื้อเพลง
  วีดีโอ คลิป
  Webboard
  Classifieds
  ข่าวสารดนตรี
  Review & ทดสอบ
  งานคอนเสิร์ต
  บทความดนตรี
  Cools Links
  Artist Gear
 
  About Us

31754


 Interview :     วินัย ไตรนทีภักดี หรือหนึ่ง     12/15/2004    Santasak K.


GT:
แนะนำตัวเองหน่อยครับ
หนึ่ง: ชื่อ วินัย ไตรนทีภักดี หรือหนึ่ง ครับ เป็นคนกรุงเทพ อายุ 26 จบปริญญาตรีจากมหาลัยราชภัฏสวนสุนันทา(แต่ตอนนั้นยังไม่เป็นมหาลัยนะ) เอกดนตรีครับ

GT: เริ่มเล่นดนตรีได้อย่างไรอายุเท่าใด
หนึ่ง: เริ่มเล่นตอนประมาณอายุ 12 เล่นเพราะเห็นเพื่อนเล่นเลยอยากเล่นมั้ง แล้วก็ได้แรงดลใจจากสิ่งเหนือธรรมชาติ 5555 อันนี้ถ้าอยากรู้เจอผมลองถามดูละกัน

GT: เคยเรียนดนตรีหรือกีตาร์กับใครบ้าง
หนึ่ง: ผมเคยเรียนจริงๆอยู่แค่ 2 คน เคยเรียนกีต้ารคลาสสิก กับอ.วิรัช ที่ โรงเรียนดนตรี ศุภการเป็นอ.ที่ผมได้อะไรจากท่านมากที่สุดเพราะตอนนั้นแถบไม่รู้อะไรเลย อ่านโน้ตก็ไม่ออกก็ได้เบสิกต่างๆมาจากแกเพราะแกไม่ได้สอนให้เล่นแต่เพลงอย่างเดียว แกแทรกอย่างอื่นไปด้วย และที่ไปเรียนก็เพราะต้องการจะสอบเข้าเรียนดนตรี ส่วนอีกคนเรียนตอน อยู่มหาลัยแล้ว ชื่อ อ.นิรันดร์ แกจะสอนอยู่ที่ ร้าน Wilson ซึ่งเป็นร้านขายโน้ตหรือตำราดนตรีที่เรียกได้ว่ามีมากที่สุดในประเทศแล้วมั้ง เรียกได้ว่าที่นี้ไม่มีที่อื่นแถบไม่ต้องหา ก็ไปเรียนทางด้าน fusion jazz กับแก ก็ได้อะไรมามากพอสมควร เรียนอยู่รวมๆเวลาได้ 8 เดือน เพราะผมเรียนไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไร คือจะประมาณว่าพอมีอะไรสงสัยถึงไปเรียน พอเรียนจนรู้ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วหาย 555 ผมจะเป็นแบบนี้นะ คือไม่ชอบเรียนอะไรไปเรื่อยเปื่อยหรือนานๆ ผมจะเบื่อง่าย เอาแค่เรียนให้เข้าใจในสิ่งที่เราสงสัยก็พอที่เหลือมาฝึกเองทำความเข้าใจเองได้

GT: เครื่องดนตรีชิ้นอื่นที่เล่นได้ล่ะครับ
หนึ่ง: มี Keyboard กับ bass ครับ Keyboard เอาไว้เล่นบ้างเวลาทำเพลง แต่อย่าเรียกว่าเล่นเป็นเลยดีกว่าเพราะผมเล่นได้อยู่คีย์เดียว 5555 ที่เหลือ transpose เอา เล่นเพราะเราจำเป็นต้องใช้มันในการทำงานแค่นั้นละครับ

GT: กีตาร์มันมีเสน่ห์ยังไงหนึ่งถึงเลือกที่จะเล่นมัน
หนึ่ง: ไอ้ตอนคิดจะเล่น ผมก็ไม่ได้ไปรู้สึกว่ามันมีเสนห์หรืออะไรนะครับ
ก็คิดแค่ว่าอยากลองเล่นดู มันมีเสียงมั้ย จะฟังเป็นเพลงมั้ย คิดแค่นั้นจริงๆ และด้วยสิ่งแวดล้อมที่มีเพื่อนในห้องเล่นอยู่ 2 คนก็เลยตามๆกัน ( ตอนนั้นอยู่ม. 2)

GT: แนวดนตรีที่ชอบล่ะครับ
หนึ่ง: ผมจะมีข้อได้เปลียบอย่างนึงคือผมฟังทุกแนว ชอบทุกแนวและอินกับมันได้ง่าย ไม่ใช่ฟังแบบพยายามฟังนะครับ คือชอบถึงฟัง แต่หลักๆจะเอนไปทางร็อคซะส่วนมาก คือจะแนวอะไรก็จะมี feel rock ป่นอยู่ด้วย ก็เคยฝึกมาแทบทุกรูปแบบ คือจะชอบเพลงที่มีชั้นเชิงฟังไม่น่าเบื่อ
ชั้นเชิงนี่ไม่ได้หมายถึงว่ายากอะไรนะครับ แต่หมายถึงมีความน่าสนใจในตัวเพลงและผมไม่ได้ฟังแค่งานกีต้าร์ ผมฟังหมดเลยอัลบั้ม solo ของ มือเปียโน มือกลองผมฟัง

GT: หนึ่งคิดยังไงกับดนตรีร็อคยุคนี้ที่ไม่มีการ solo guitar
หนึ่ง: ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของยุคสมัยนะครับ อะไรที่มันเคยมีมากๆ มากจนคนเอียนสังวันมันก็ต้องจางลง อย่างกีต้าร solo สมัยก่อนเล่นกันจนไม่รู้จะไปเล่นอะไรแล้ว เร็วก็เร็วสุดแล้ว ยากก็ยากสุดแล้ว จะกายกรรมขนาดไหนก็มีหมดแล้ว มันก็สุดหมดแล้ว คนเรามันก็ต้องหาทางหลีกจากความจำเจเป็นเรื่องธรรมดาครับ ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก แต่รู้สึกเพียงแค่ว่าของพวกนี้ซักวันต้องวนกลับมา แต่จะเป็นในรูปแบบอื่น ผมคิดว่านะ

GT: หนึ่งคิดว่าเพลงพวก hard rock , heavy metal จะกลับมามั๊ย
หนึ่ง: คิดว่ากลับครับ แต่คงไม่ 100% แต่จะเป็นการผสมผสานมากกว่า เพราะตอนนี้เห็น hardcore ต่างประเทศเริ่มซาแล้ว แต่บ้านเรากำลังนิยม

GT: ถ้าหนึ่งได้ทำงานเพลง 1 อัลบั้ม แบบไม่ต้องสนใจตลาด หนึ่งอยากให้มันออกมาอย่างไร
หนึ่ง: ผมจะทำเป็น New age หรือ world music ครับ แนวๆนี้ผมชอบ มันไม่จำกัดจินตนาการดี

GT: นักดนตรีที่หนึ่งชื่นชอบ
หนึ่ง: ผมชอบเยอะมากนะ พูดไม่หมดแน่เลย ผมตอบแบบนี้ละกัน
ผมจะชอบนักดนตรีที่มีความจริงใจกับดนตรีเล่นแล้วสัมผัสได้ถึงจิตวิญญานของคนๆนั้น อันนี้ดูจะเวอร์ๆไปนิดนะ แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

GT: มีวิธีการฝึกฝนกีตาร์อย่างไร
หนึ่ง: ตอนเรียนก็ฝึกกันทุกเรื่องละครับ อะไรที่ทำไม่ได้ก็อยากทำได้ แต่ก็มีเหมือนกันที่บางอย่างผมฝึกยังไงก็เล่นได้ไม่ดี อันนี้ถึงมารู้ทีหลังว่าเป็นความถนัดของเรานั้นเองแต่ผมจะเน้นไปทางฝึกคิดมากกว่าเล่น จะเล่นอะไร ผมชอบที่จะวิเคราะห์รายละเอียดของมันไปด้วย ไม่ได้เล่นแบบ นกแก้วนกขุนทอง ส่วนปัจจุบันงานที่ทำค่อนข้างเยอะ ไม่มีเวลาไปนั้งฝึกเหมือนตะก่อน จะแค่เล่นๆให้มันอยู่ตัวมากกว่า แล้วงานที่ทำก็ต้องใช้กีต้ารซะเป็นส่วนมาก เลยคล้ายๆจะเหมือนฝึกไปด้วย

GT: มีวิธีฝึกพวก ear training,speed picking ยังไง
หนึ่ง: แกะเพลงครับ ผมบอกได้เลยว่าการแกะเพลงเป็นตำราที่ดีที่สุดในโลกเลย เราเรียนรู้ทุกอย่างได้จากบทเพลงยิ่งกับ ear training ยิ่งได้ผลโดยตรง แล้วที่สำคัญนักกีต้าร์อย่างเราๆ ควรจะหัดร้องเพลงไปด้วย ไม่ใช่ร้องแบบตามวงเหล้านะ หมายถึงร้องจริงๆ ให้มันได้ระดับเสียงได้อารมณจริงๆ สังเกตุดูได้ว่า มือกีต้าร์หรือนักดนตรีระดับโลกแถบทุกคนจะร้องเพลงดีหมดเลย ส่วนเรื่อง speed ผมจะไม่ค่อยไปเน้นมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมจะเน้น feel เป็นอันดับแรก แต่ผมก็เคยฝึกมานะครับก็ยังพอปั่นได้อยู่บ้าง ก็แนะนำให้แกะเพลงอีกนั้นละครับอย่าไปมัวนั้งฝึก lick ตามตำราเลย เสียเวลาปล่าว เอามันเป็นเพลงเนี้ยละชัดเจนที่สุด ในบทเพลงคือแหล่งรวมสุดยอด lick แล้วละ แต่ถ้ามันเร็วมากจนแกะไม่ออก อันนี้หาโน้ตหรือ tab มาได้ครับ เพราะผมก็เริ่มมาแบบนี้

   


GT: ตอนนี้ฝึกเรื่องอะไรอยู๋
หนึ่ง: ถ้ากับกีต้าร์คงตอบยากครับ นึกไม่ออก เพราะมาตอนนี้การที่ผมจับกีต้ารขึ้นมา 70% คือแต่งเพลง ไม่ได้มานั้งฝึกแบบเมื่อก่อน จะเน้นไปหาความรู้เกียวกับการแต่งเพลง หรือเทคโนโลยี เกี่ยวกับห้องอัดหรือเครื่องไม้เครื่องมือในการทำงานซะมากกว่า จะฝึกก็ฝึกเพลงที่ชอบๆหรือท่อนที่ชอบแล้วเล่นไม่ได้นั้นละครับ ถึงมานั่งฝึก แต่นานๆที

GT: เวลาที่หนึ่งจะ improvise นึกถึงอะไรบ้าง
หนึ่ง: ถ้าให้ตอบแบบตรงๆก็คือ นึก melody line ครับผมจะไม่มานั้งคิดสเกลอะไรมากมาย ไอ้เรื่องคิดมันคือตอนฝึก แต่ตอนเล่นมานั้งคิดมากไม่ได้ครับ เล่นไม่ออก จะดูอารมณ์เพลงกับลักษณะของ rhythm ของเพลงมากกว่า

GT: ถ้ามีทาง chord Dm7/G7/Cmaj7/A7/ หนึ่งจะใช้อะไร solo มีไอเดียอย่างไร
หนึ่ง: อย่างที่ตอบในข้อที่แล้วครับ ผมจะไม่ใช่คนที่ชอบใช้สเกลอะไรเยอะแยะ จะเน้นไปที่ทำ melody หรือไอเดียในการสร้าง melody มากกว่า เห็นมาเยอะว่าบางคนคิดมากเรื่องสเกลแล้วเล่นแต่สเกลออกมาคือไอ้สเกลเนี้ยมันไม่เป็นเพลงนะ แต่ไอ้การเอาโน้ตในสเกลมาเรียง นั้นละคือเพลง ส่วน chord ข้างต้นนั้นเล่นอะไรได้มากมายเลยครับ แต่ผมจะต้องดู Rhythm ด้วย ว่าเป็นไง และผมไม่ใช่สเกลหรือโน้ตที่ซับซ้อน ผมชอบอะไรที่มันง่ายๆแต่ฟังดูดีมากกว่า

GT: หนึ่งมีไอเดียในการแต่งเพลงช้าและเร็วอย่างไร
หนึ่ง: ก็ต้องดูตามรูปแบบครับ เช่นถ้าเราอยากได้เพลงช้า ที่เป็นเพลงร้อง เราก็ต้องมานึกว่าอยากได้ช้าแบบไหน เศร้า , อบอุ่น หรืออะไร แล้วผมก็มานั้ง คิดทางคอรด์กับ Rhythm ไปพร้อมๆกัน โดยผมอาจจะฮัมทำนองไปด้วยเลย แต่ในบางครั้งอาจจะวางคอรดไปก่อนแล้วมาใส่ทีหลัง อันนี้ไม่มีกฏตายตัวครับ เพราะบางทีถ้าเราไปแต่งเพลงโดยใช้วิธีแบบเดิมๆจะสังเกตุได้ว่ามันจะฟังซ้ำๆกันโดยไม่รู้ตัว ผมจะชอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ส่วนเพลงเร็วนี้ส่วนใหญ่ดนตรีจะมาก่อนครับ เพราะเพลงเร็วสีสีนหรือจุดเด่นมันจะไปอยู่ที่ดนตรี เราก็จะทำตรงนั้นก่อน แล้วค่อยมาสร้าง melody ลงไปอีกที

GT: เห็นมือกีตาร์หลายท่านออก vcd สอนออกมาเมื่อไหร่พวกเราจะเห็นงานประเภทนี้ออกมาบ้าง
หนึ่ง: ตอนนี้กำลังเขียนแผนการสอนอยู่ เพราะด้วยผมไม่ค่อยมีเวลาด้วย แต่ก็ทำเร็วๆนี้ละครับ ยังไงคงได้ดูกันแน่ครับ

GT: แล้วงานเพลงส่วนตัวคืบหน้าถึงไหนแล้ว
หนึ่ง: ถ้าหมายถึงงานวงผม ก็ทำกันอยู่ครับ แต่จะเสร็จเมื่อไร อันนี้คงตอบไม่ได้ครับ แต่คงไม่นานเกินรอ

GT: เป็นแนวอะไร
หนึ่ง: อันนี้ขออุปไว้ก่อน แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ Hardcore ที่มีเกลื่อนตลาดตอนนี้ และไม่ใช่ Fusion อย่างที่ใครๆคิดครับ

GT: สังกัดไหน
หนึ่ง: ก็อยู่กับพี่โอมเนี้ยละครับ Craftman

GT: มีกีตาร์ที่ใช้งานอะไรบ้าง
หนึ่ง: ไฟฟ้ามี 4 ตัว มี Steinberger GM7SA , PRS Custom24 ,Fender Tele Plus, Line6 Variax500 โปร่ง Taylor 614 CE และกีต้ารคลาสสิก asteva ของสเปนอีกตัวแต่เก่ามากแล้วครับ

GT: กีตาร์แต่ละตัวมีการปรับแต่งอะไรพิเศษบ้าง
หนึ่ง: ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยไปปรับแต่งอะไรมาก มายังไงก็จะเล่นแบบนั้นถ้าไม่ชอบก็จะไม่ซื้อแต่แรก จะมีก็อาจจะเปลี่ยน fret บ้าง แล้วแต่ตัว เปลี่ยน pickup ก็มีแต่ Tele plus ที่เปลี่ยนออกหมดเลยเพราะ pickup เดิมมีปัญหา เลยเปลี่ยนไปใช้ของ Dimarzio แทน

GT: แอมป์กับเอฟเฟคใช้อะไรบ้างครับ
หนึ่ง: ตอนนี้ใช้ Amp Tech21 รุ่น Power engine60 มันจะเป็น amp สำหรับอุปกรณ์ประเภท Direct เอฟเฟค line6 pod xt ,DM4 และ Tc electronic G major แต่ Tc จะใช้กับงาน studio มากกว่า

GT: อุปกรณ์ home studio มีอะไรบ้าง
หนึ่ง: Pc P42.4E Ram1.5gig , Soundcard Rme Hdsp9562 ,Tc powercore , Monitor yamaha MSP5 , Mixer Mackie 1202Vlz , Micpreamp TL รุ่น Fat2 , midi keyboardcontroller ของ Edirol รุ่น PCR50

GT: ปัจจุบันฟังงานของใครบ้าง
หนึ่ง: ช่วงนี้ผมจะกลับไปฟังงานเก่าๆช่วงปี 70-80' ซะเป็นส่วนมาก เพราะเรื่มเบื่อเพลงปัจจุบันที่มันคล้ายๆกัน แต่ก็ยังฟังวงใหม่ๆอยู่ครับ อย่าง Maroon5 นี่ก็ชอบตั้งแต่บ้านเรายังไม่มีใครรู้จักเลย ถือเป็นวงที่โดดเด่นดีไม่ซ้ำซาก

GT: หนึ่งมองวงการเพลงไทยและเทศในปัจจุบันอย่างไร
หนึ่ง: วงการเพลงบ้านเรายังต่างจากเมืองนอกเยอะอยู่ดีครับ เรียกได้ว่าเราล้าหลังเค้าเป็น 10 ปี และยิ่งตอนนี้ เพลงมันดูคล้ายกันไปหมด ศิลปินไม่ค่อยมีเอกลักษณของตัวเอง เอาแบบแนวในทำแล้ว Hit ก็ทำตามๆกันไป พอมันมีค่านิยมแบบนี้ขึ้นมาเพลงมันก็เลยไม่ไปไหน มีแต่ตามๆกัน แต่ก็สังเกตุได้ว่าศิลปินที่อยู่นาน ไม่ชั้วประเดี๋ยวประด๋าวส่วนใหญ่จะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนไม่เหมือนคนอื่นไม่ตามแฟชั่น หรือช่วงที่เค้าออกไม่มีใครเหมือนเค้า ผมอยากให้ศิลปินบ้านเรามีความคิดแบบนี้นะคือคิดให้มันมาก Ego กันได้สุดๆ ผมว่าเรื่องแบบนี้มันควรจะ Ego นะ ไม่งั้นเอกลักษณ์ไม่เกิด แต่ถ้าคิดกันแบบเดิม ชาตินี้เราคงไม่ไปไหนละครับก็หลอกขายพวกเดียวกันเองอยู่แบบเนี้ยละ ส่วนต่างประเทศทางฟังอเมริกาหรืออังกฤษก็มีอะไรมาให้เราได้ฟังเรื่อยละครับ ทางนั้นเค้าคิดกันไม่หยุดอยู่แล้ว ไม่รู้จะไปวิจารณ์ยังไง ไม่กล้าไปว่าเค้าอายบ้านเราเอง ญี่ปุ่นก็ดีครับ ผมชอบ Utada hikaru เด็กคนนี้เก่งมากในสายตาผม ฝรั่งเลยละ อยากให้บ้านเรามีแบบนี้มั่งจัง แต่ก็ต้องคอยกันไปละครับ ไม่รู้ชาตินี้จะได้เห็นรึปล่าว 555555


any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket