เค้าคิด riff & rhythms ดีๆแบบนี้ออกมาได้ยังไง ? ” ซึ่งเป็นคำถามที่ผมคิดว่าเพื่อน ๆและตัวผมเองคงเคยตั้งคำถามแบบนี้ จากการฟังงานดนตรีที่เราชื่นชอบ จุดหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นการเล่นของนักดนตรีที่ผมชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในแผ่น หรือโดยเฉพาะการเล่นสด ที่มีการด้นสด ( improvise ) แต่ละคนจะมีการใช้ sense of rhythmic – ซึ่งเป็นการสร้างแพทเทิร์นและสัดส่วนที่เป็นธรรมชาติ ในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งเกี่ยวพันไปถึงเรื่องพลังงานแห่ง Groove ของแต่ละคนด้วย สำหรับผม คำว่า Groove นี้อธิบายยากครับ ในมุมมองของผมเองนะครับ เข้าใจว่า groove เป็นพลังงานความรู้สึกของคน หรือกลุ่มคนจากการเล่นดนตรีด้วยรู้สึกจากภายใน( Feeling ) ส่งออกมาในรูปแบบของ Rhythm จากใจ ที่ทำให้ภายนอกมีความรู้สึกถึง.......บางอย่างได้ ( จะว่าไปแล้ว Groove คล้าย ๆพลังลมปราณ ในหนังจีนหรือเปล่า ผมก็แค่คิดเล่น ๆ ไปนะครับ) มาเข้าเรื่องต่อดีกว่า ใน Hot shot นี้ ผมเลยนำเอาการเล่น Riff หรือ Rhythm ที่แสดงถึง sense of riff (สัญชาติญาณ ในการสร้าง) ของนักกีตาร์ที่เรารู้จักกันดีมาให้ดูกันนะครับ
Ex.1a main Riff - Cupid 's Dead / NuNo Bettencourt : ( Extreme III 2003 )
ผ่านไปไม่นานสำหรับการ Tour 2005 กับวง population 1 ของเค้า สำหรับการกลับมาของ Nuno นั้น เค้าได้แสดงถึงการเป็นมากกว่าคำว่า guitar hero ไปแล้ว แต่งเพลง , ร้อง เล่น , เอนเตอร์เทน , produce ฯลฯ ที่น่าทึ่งก็คือ เค้าสามารถทำทั้งหมดได้ดีซะด้วย ซึ่งต้องมีพลังในการทุ่มเทมาก บวกกับ taste ทางดนตรีที่ดีเยี่ยม ใน Ex.1 นั้นเป็นการเล่น Riff pre -verse ในแบบ Funky metal sound ( Extreme ) โดยใช้ chord dominant 7 #9 ตัดตัว 5 คือ E7#9 ( E G# D F X ) – และ F7#9 ( F A Eb G# ) สลับกันไป ใน tonic chord ของ Key E major และ Key F Major: ซึ่งเพลงนี้ใช้ chord จาก 2 Key มา Link กัน โดยใช้ bIII7 ( G7 ) Key E major เป็นตัวเชื่อม ในท่อน pre- chorus ( C9 –B9-E7sus4 -E7- G7 -C9-B7#9 )
Ex.1b Riff variation 2 : Cupid's Dead :
ในส่วนของ Riff นี้ จะเป็นการ แปรเปลี่ยนทั้งหมด 3 Variation จาก rhythmic เดียวกันจาก main Riff ผมขอเอา Variation 2 มาให้เพื่อน ๆ ดูนะครับ เพราะมันโดดเด่น และเพิ่มสีสันของ Riff นี้ค่อยข้างชัดเจน เป็นการใช้โน้ต 6พยางค์เข้ามาช่วยในเรื่องความเร็วแบบฉับพลัน ในแบบ Funky เพียงแต่เข้าใช้ได้ถูกที่เวลาเท่านั้นเอง ซึ่งแสดงถึง sense of rhythmic ที่ผสมกับ เทคนิคมือขวาจากนรกของเค้าได้อย่างลงตัว Nuno เป็นคนหนึ่งที่เล่นได้ ดุดัน แข็งแรง และแน่นอนมาก โดยเฉพาะการดีด Alternate แนวตั้งได้รวดเร็วและแม่นยำเหมือนจับวาง ร่วมทั้งการ swing แขน และข้อมือขวาที่เป็นธรรมชาติมาก( relax ) ในส่วนของ Ex นี้การเล่นเสียงบอด( Mute ) และการ tie note ต้องฟังและเก็บรายละเอียดของเสียงให้ดี เพราะถือว่าเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของเสียงกีตาร์แนวนี้ เลยครับ
Ex .2 riff: Come As you are : Kurt cobain : Nirvana :nevermind
ในช่วง 90 ต้น ๆนั้น ผมจำได้ว่า แนวทางกีตาร์ได้มีปรากฏการณ์ ใหม่เกิดขึ้น เป็น sound กีตาร์ที่ ดิบจริง ๆ (ไม่พิถีพิถัน) เน้นการกระหน่ำอารมณ์ บนความเรียบง่ายในบทเพลง และวิธีการเล่น แต่มีชั้นเชิงในการเรียบเรียง สำหรับผมตอนนั้น มันเหมือนถูกหักล้างแนวคิดของการเล่นกีตาร์ในยุคก่อนมาเลย มันเป็นแนว Alternative ที่เน้นภาพรวมของอารมณ์เพลง มากกว่าเสียงกีตาร์ solo Kurt Cobain หัวแถวของแนวนี้ ได้พิสูจน์ให้ผมได้เห็นว่า “ เค้าสามารถดึงเอาทุกสิ่งที่ใช้ได้จริง เอาออกมาเล่น ” และมันก็คือของจริงที่ไม่มีใครเหมือน เค้าสร้างพลังขับดันในดนตรีแบบ Alter. และ รูปแบบการแต่งเพลงของตัวเอง ได้อย่างชัดเจน อย่าง Ex.2 นี้ก็เช่นกัน sense of rhythmic ของเค้านั้นเรียบง่าย แต่กับลงตัวท่วงทำนองอย่างเหนือชั้น เป็น riff บน chord เพียง 2 chord ( F#m &E5 ) + chromatic note +eight note กลายเป็น riff ระดับโลก ที่ท่วงทำนองจิ๊กโก๋ กวน ๆในแบบ Kurt ที่เป็นตัวเค้าอย่างชัดเจน ....... ในมุมมองของผมนะครับ บางอย่างอาจไม่ใช่เรื่องของการฝึกหนัก แต่อาจจะเป็นแค่เพียงการลองทำความเข้าใจง่าย ๆ ในวิธีคิด แล้วเลือกบางสิ่งออกมาจากความรู้สึกของตัวเอง
