Main Menu
 Home หน้าแรก
 login / สมาชิก
 BuyerBook
 รายการ TV
  คอร์ด / เนื้อเพลง
  วีดีโอ คลิป
  Webboard
  Classifieds
  ข่าวสารดนตรี
  Review & ทดสอบ
  งานคอนเสิร์ต
  บทความดนตรี
  Cools Links
  Artist Gear
 
  About Us

10165


 Hotshot:     Gilbert Return    6/25/2005    อ.โจ้ กีตาร์ไทย


หลังจากชุด Burning organ .ในปี 2002 ที่ Paul ได้มา workshop #2 ในบ้านเราพอดี ก็เกือบ3 ปีแล้วนะครับ สำหรับ Paul นั้น ถือเป็นนักกีตาร์ ที่มีแฟนคลับในบ้านเราเยอะมาก ทั้ง VDO สอน , M.R. Big , Live ฯลฯ เรียกได้ว่า มีกันแทบทุกครัวเรือน สำหรับการกลับมา ใน World tour กับงานอัลบั้มใหม่ Space ship one เต็มรูปแบบคราวนี้ คงทำให้เพื่อน ๆหลายคนคงเริ่มนับถอยหลังกันแล้ว hot shot คราวนี้ก็เลยถือโอกาสลง Lick ของ Paul ให้เล่นแก้เหงา ไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ

Ex.1 Skipping Lick

. ผมจำได้ว่าเป็น ไอเดียนี้เป็นเทคนิคการเล่นแบบจรวดทางเรียบ รูปแบบหนึ่งที่ Paul ชอบใช้ ตอนโชว์ ซึ่งมีแนวคิดคล้าย ๆ กับ Ex.1 นี้ เค้าจะเล่นบน E Harmonic minor scale (E F# G A B C D#E) เป็นเสียง ที่ชาว Neo คุ้นเคย เพียงแต่ Paul ใช้เทคนิคการ ข้ามสายโดยเน้น up beat /6พยางค์ เริ่มจากตัวโน้ต 3 ,5 ,6 ใน Em sound และเป็น high note ของ Lick นี้ด้วย ช่วยสร้างท่วงทำนอง ที่เป็นสีสันให้กับกลุ่มโน้ตตัว #7, 1 , 2 ที่ใช้เล่นวนไปมา lick นี้เป็นการใช้ เทคนิค pull off + Hammer on + up stroke อย่างลงตัว และต่อเนื่องครับ


Ex.2a Main Riff : Scarified / Racer X


สำหรับเพลงนี้ เป็นเพลงที่นักปั่นคุ้นเคยกันดี ตอนที่เค้าอยู่กับวง Racer X (1986) ใน Main riff นี้ เค้าคิดจาก Gm scale มาสร้างประโยคบน แบบถาม –ตอบ ในriff ของเค้า โดยสร้าง จุดให้น่าสนใจขึ้นจากการ up beat ที่3 ที่มีการเปลี่ยนสัดส่วนตัวโน้ตให้มี speed มากขึ้น และเบรคด้วยeight note ในbeat ที่ 4 ตามด้วย ตัวหยุด ในbar ถัดไป ผมคิดว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนกับการกระแทกกับ อะไรบ้างอย่าง ฟังแล้วสนุกดีครับ




Ex.2b Arpeggio :Scarified/ Racer X

ในมุมมองส่วนตัวของผมนครับ Paul นั้นจัดเป็นนักกีตาร์ที่สร้างสีสัน ในรูปแบบการArpeggio ได้น่าตื่นตาตื่นใจคนหนึ่งเลยที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเลือกใช้ในบทเพลง , การวางchord และทิศทางของท่วงทำนอง ‘ฯลฯ จุดสำคัญอีกจุดก็คือ การเลือกใช้เทคนิคได้อย่างมีชั้นเชิงในรูปแบบของตัวเอง ในเพลงนี้ผมเลยเอาท่อนVerse 2 ใน riff variation แล้วเปลี่ยนสีสันของเพลงด้วย arpeggio บน chord Eb Maj7 C9/E F F#o7 สังเกตLine bass จะเดินเป็น chromatic ซึ่ง sound ของchord ผมจะจำการเคลื่อนที่เป็นคู่ ๆ เพราะกลุ่มโน้ตจะใกล้เคียงกัน และง่ายต่อการเข้าใจ ฟังแล้วมีกลิ่นอายของ classical music ซึ่งถือเป็นอิธิพลที่สำคัญอันหนึ่งของเค้าเลยที่เดียว จริง ๆarpeggio จะยาวกว่านี้มาก ผมขอลงแค่เป็นแนวทางละกันนะครับ โครงสร้างยังใช้ไอเดียจาก main riff แต่เพิ่มโน้ต 6 พยางค์ เข้าไปเพิ่มท่วงทำนอง ให้ลื่นไหลและต่อเนื่อง




any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket