Main Menu
 Home หน้าแรก
 login / สมาชิก
 BuyerBook
 รายการ TV
  คอร์ด / เนื้อเพลง
  วีดีโอ คลิป
  Webboard
  Classifieds
  ข่าวสารดนตรี
  Review & ทดสอบ
  งานคอนเสิร์ต
  บทความดนตรี
  Cools Links
  Artist Gear
 
  About Us

6968


 Hotshot:     The Stone … The Rolling Stone    3/2/2002    อ.โจ้ คาไลโดสโคป
“ ผมไม่ใช่คนที่เล่นกีตาร์ที่เก่งกาจอะไร แต่ผมไม่เคยเห็นใคร ที่เล่นแบบผมเลยว่ะ” เป็นคำพูดเก๋า ๆ ของ Keith Richard (18th December 1943)นักกีตาร์ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งวง The Rolling Stone (best rock Band) ที่หนังเหนียวที่สุดในโลก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น หัวเรือใหญ่ที่ สร้างรากฐาน และ ตำนาน ให้กับดนตรีจนถึงปัจจุบันนี้ เฉกเช่นเดียวกับวง The Beatles ที่มีบทเพลงเยี่ยม ๆ ที่อมตะเอาไว้ไห้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และเมื่อกล่าวถึงบทเพลงของ The Rolling stone ก็ต้องพูดถึงบทเพลงของ The Beatles ซึ่งถือเป็นแม่เพลง หรือแม่แบบ ที่ไม่มีคำว่าล้าสมัย ทั้งแนวคิด , คำร้อง และท่อนต่าง ๆในบทเพลงสามารถใช้ศึกษาได้ตลอดทุกยุคสมัย เพื่อน ๆลองนึกภาพดูซิครับว่า วงระดับโลกอย่าง stone ที่ยังเล่นกันมาเกือบครึ่งศตวรรษ และยังเล่นกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ จะเป็นไปได้ยังไงที่ยังไม่หมดลมหายใจ ซึ่งตรงกันข้ามยังมีคนคอยติดตามงานของเขาอยู่ตลอด บัตรconcert ขายหมดก่อนเป็นเดือน ๆ ทั้งที่แพงหูฉี่ ในความคิดของผม มีเหตุผลเดียวคือ เพลงที่เขาแต่งเป็นเพลงที่ไม่ตาย ซึ่งมันเป็นบทพิสูจน์จนถึงปัจจุบันนี้ จึงทำให้ Stone มีทั้งแฟนเก่าที่เหนี่ยวแน่น รุ่นลุงพวกเรา ประมาณ 40ขึ้น และคนรุ่นใหม่ ๆ ชื่นชอบในบทเพลงที่มีเอกลักษณ์ที่เทห์ และไม่เหมือนใครของพวกเขา

ถ้าเพื่อน ๆได้ฟังเสียงกีตาร์ และ Riff ของ Keith Richard อาจจะรู้สึกเหมือนกับผม ว่าประโยคที่เขาพูดไว้ตอนต้น นั้นไม่ใช่คำพูดที่เกินเลย เขาเป็นนักกีตาร์ที่คิดทางเดินchord และ Riff ในบทเพลงได้หนักแน่นลงตัว เทห์ และมีเสนห์ มาก ๆ เพียงแค่เราหยิบกีตาร์โปร่งมาตี chord เพลง ของ Stone ก็สนุกแล้ว ตรงนี้ผมคิดว่า เป็นมุมมอง วิธีคิด และความเข้าใจเล่น ที่ผมขอเรียกว่า เป็นสัญชาติญาณ หรือ พรสวรรค์ ของแต่ละคนที่มีไม่เหมือนกัน แต่ Keith เข้าเจอสิ่งนี้ในตัวเขามาเกือบ 50 ปี แล้วมั้ง…. จริง ๆ จะมีนักกีตาร์ที่ปิดทองหลังพระอีกคนที่เล่นคู่กับ Keith ในช่วงหลัง (1976) ได้อย่างลงตัว ก็คือ Ron Wood มีการจัดไลน์กีตาร์ที่ยอดเยี่ยม เราลองมาดูการเพลงของพวกเขากันดีกว่านะครับ

Ex.1 Riff / SATISFACTION (I can’t get no)



เพลงนี้เป็นเพลงที่ใช่ Riff ได้ยอดเยี่ยมและลึกล้ำมาก สามารถนำมาใช่เป็นท่อน introduction และใช่เป็นท่อน Hook ได้อย่างกลมกลืน โดยฟังแล้วไม่เฟือ และฟังง่าย Riff เพลงนี้คิดจาก E dominant 7 scale (E F# G# A B C# D E ) โดยใช้ quarter- note eight-note เป็นหลักในบทเพลง และสร้างความรู้สึก strong beat ที่ 1 และ 2 โดยเฉพาะ beat2 นั้น จะหนักกว่าหน่อย จากการศึกษาวิธีเล่นและคิดของเขา ผมคิดว่า Keith เป็นนักกีตาร์ ที่ใช้ตัวหยุด rest เก่งคนหนึ่งของโลกเลยที่เดียว แต่ส่วนใหญ่เราจะชอบพูดถึงนักกีตาร์ที่เล่นเร็ว ๆ และชัดเจน เพื่อน ๆสังเกตไลน์ chord Acoustic (steel- string) ให้ดี ๆนะครับ ตรงนี้ เป็นการเล่นที่ ไม่ยากแต่คิดได้ลงตัว อาจจะเรียกว่าเป็นไลน์ที่ส่งเสริมได้สวยงาม ซึ่งบ้างที่ไม่ต้องคิดให้ยาก แต่มองหน้าที่และภาพรวมของเพลงให้ออก การตีchord ในเพลงของ Stone นี้สำหรับผมถือว่าเป็นการบ้านที่ยากครับ เพราะเราอาจคิดเราว่ากำลังเล่นในสิ่งที่ง่ายที่สุดของการเล่นกีตาร์ แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่แค่การเอากีตาร์มาสาด chord ไป ๆมา ๆ แล้วก็เลิก เพราะผมคิดว่าการเล่น chord ให้ดี ให้ไพเราะนั้น ก็ต้องฝึกหนักเหมือนการ solo เพียงแต่เราอาจจะมองข้ามมันไปแค่นั้นเอง การฝึกแรก ๆเพื่อนลอง ทำความเข้าใจพื้นฐานของpart rhythm หลักในบทเพลงให้แตกก่อน ต้องค่อย ๆ ฝึกฟังไลน์ต่าง ๆทั้งหมด โดยจับที่ melodie หลักในบทเพลงเป็นแกน พยายามฟังทั้งเพลงอย่าจับแต่ไลน์กีตาร์อย่างเดียว เพราะเราจะไม่เข้าใจอะไรที่เกี่ยวกับ band เลย และยังมีเรื่องของเทคนิคการเล่นอีกเช่น การใช้น้ำหนักในบทเพลง และการควบคุมวิธีการเล่นเพื่อให้ได้เนื้อเสียง chord ทีเราต้องการ Push ออกไป ฯลฯ สำหรับเพลง Satisfaction ถือเป็นเพลงครูเลยทีเดียวนะครับสำหรับการฝึก Riff และ Rhythm ลองหาฟังเพลงนี้ดูนะครับ อย่างลืมนะครับอย่างมองเพลงแค่ผ่าน ๆลองเก็บรายละเอียดส่วนอื่น ๆ ดูด้วยนะครับ

Ex.2 Five-string / Brown Sugar



ตอนนี้เป็นยุคของกีตาร์ 7 สายกำลังเป็นที่นิยม แต่ไอเดียนี้ Keith เคยใช้มาแล้ว เพียงแต่เก๋ากว่า ตรงที่กลับกัน เป็นการเล่นกีตาร์เพียง 5 สาย (five-string guitar) โดยเอาสาย 6 low E ออก ซึ่งมันน่าจะสวนทางกับดนตรี Rock n’roll ที่เขาเล่นอยู่ แต่วิธีคิดของเขากลับเลือกใช่วิธีการ open -tuned 5 สายที่ลงตัวกับ sound ในบทเพลง และดนตรีในแบบ Stone อย่างเช่นในEx.2 เพลงBrown Sugar เป็นเพลงที่Rhythm ที่ซับchordที่กระชับ และทางเดินchord ที่เทห์มาก ในGtr.1( 5 string) ใช้การ open G tuning : D G D G B D ซึ่งทำให้ sound และมิติของเสียงที่แตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะการเล่นสายเปิด ส่วนใน Gtr.2 ใช้การจูนปกติ (standard tuning) โดยเล่นการลูกรับในท้าย Riff ของ Gtr.1 ซึ่งเป็น Space ที่สวยงาม การใช้chord นั้น เขาใช้chond ในรูปแบบการ พลิกกลับ(inversion) ที่มีการเปลี่ยนต่ำแหน่งของกลุ่มโน้ตในchord เพื่อการ voicing ซึ่งเป็นการเคลื่อนตัวของเสียงไปในทิศทางที่เขาต้องการ ใน Riff นี้เขาคิดจาก progression Ic IVc V แต่มีการผลิกกลับ และนำมาเรียบเรียงในแบบของเขา แต่ตรงนี้ยากนะครับ เพราะเป็นเรื่องของวิธีคิด และต้องหัดฝึกคิดเองบ่อย ๆ ลองดูที่เขาทำเป็นตัวอย่าง ผมคิดว่าเขาใช้ตัวหยุด (rest) เยี่ยมมาก รวมทั้งการวาง chord ที่สั้น ๆ(2bar) แต่ได้ใจความที่น่าติดตาม สำหรับ The Rolling Stones พวกเขาเน้นความเป็นBand มากว่าการใช่เทคนิค หรือความสามารถเฉพาะตัวมาโชว์ พวกเขาขายเพลง และดนตรีของStone จริง ๆ โดยเฉพาะใครอยาก และตั้งใจจะเข้าใจ วิธีเล่นดนตรีแบบเป็น band จริง ๆ ลองไปหาดนตรี และการแสดงสดของStone มาศึกษา ดูนะครับ



any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket