Main Menu
 Home หน้าแรก
 login / สมาชิก
 BuyerBook
 รายการ TV
  คอร์ด / เนื้อเพลง
  วีดีโอ คลิป
  Webboard
  Classifieds
  ข่าวสารดนตรี
  Review & ทดสอบ
  งานคอนเสิร์ต
  บทความดนตรี
  Cools Links
  Artist Gear
 
  About Us

9617


 Hotshot:     Crossroad    8/16/2000    อ.โจ้
เมื่อนึกถึงหนังดี ๆที่เกี่ยวกับดนตรีซักเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะหนังที่เกี่ยวกับกีตาร์ สำหรับผมจะนึกถึงหนังเรื่อง Crossroads เป็นเรื่องแรก เป็นหนังที่สร้างความประทับใจ และให้แง่คิด มุมมอง กับคนที่สนใจดนตรีได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ คนกีตาร์ และผู้ที่สนใจดนตรี Blues ซึ่งผมคิดว่าเป็นหนังที่สามารถดึงดูด ให้คุณหันมาสนใจ และเข้าใจดนตรี Blues ได้ดีขึ้นเลยที่เดียว

Crossroads เป็นหนังที่กล่าวถึงความมุ่งมั่งของเด็กหนุ่มที่ต้องการแสวงหา จิตวิญาณของการเล่นดนตรีที่แท้จริง แห่งบลูส์ ซึ่งดนตรีบลูส์ที่เขาเข้าใจในตอนแรกยังเป็นแค่เปลือก และเสียงที่เหมือนบลูส์เท่านั้น ยังไม่ใช่ดนตรีที่มาจากก้นบึ้งแห่งหัวใจ และจิตวิญาณของเขาเอง และจะเกิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้นั้น? ไม่ได้มาจากการเป็นนักซ้อมอย่างหนัก หรือ ฟังเพลงมากเพียงอย่างเดียว นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่อาจมองข้ามไป ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับดนตรีทั้งหมด ซึ่งมันอาจเป็นส่วนหนึ่งใดส่วนหนึ่งของชีวิตของคุณ ที่คุณต้องเข้าใจและนำออกมาใจด้วยความคิด และจิตนาการของตัวเอง "คุณต้องเข้าใจตัวคุณเองก่อน แล้วดนตรีของคุณถึงจะออกมา"

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่ได้ดูลองไปหาเช่าดูนะครับ อาจเรียกได้ว่าเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่สามารถสร้างแรกผลักดัน ในการเล่นดนตรีของคุณได้มากขึ้น หนังเรื่องมีนักกีตาร์ระดับโลกแต่ง เพลงประกอบ และบรรเลงให้กับหนังเรื่องนี้ เช่น การดวลกีตาร์กัน ระหว่าง Ry Cooder V.S. Steve Vai หรือนักประพันธ์ ,นักกีตาร์คลาสสิค อย่าง วิลเลี่ยม คาเนนไกเซอร์ ก็มาร่วมด้วย ครับ

Intro ซะยาวเลย สำหรับ Shot Movie คราวนี้ จะเป็น ท่อนจากเพลง Eugene's trick bag ที่เป็น Cadenza ของหนังเรื่องนี้ (เป็นท่อนที่บรรเลงเดียวโดยไม่มีดนตรี) ซึ่งตัวเอกในเรื่องจะใช้รูปแบบของดนตรี classic โดยนำเพลง caprice No.5 ของท่าน คีตกวี Niccolo Paganini มาเลยผสมผสานในแนวทางการเล่นของเขาเอง ซึ่งเป็นเพลงที่คุณจะได้พบชั้นเชิงในการ เรียบเรียง และ แต่ง ของ Steve Vai ในรูปแบบ Neo- classic

Ex.1 Eugene's Trick Bag / Steve Vai

Ex.1a Transcription

ใน Ex.1 นี้เป็นท่อนที่อยู่ใน Introduction ซึ่งเป็น Arpeggio chord ใน Am E7 A7 Dm ซึ่งผมขอยกตัวอย่างมาแค่ 4 chord ก่อน ในการArpeggio chord นี้ คือการใช้ triad chord ( Am ,Dm) จะมี โน้ตตัว 1 (root) 3 ,5 กับ Dominant 7(E7 ,A7) = 1, 3, 5, 7 ด้วยความเร็ว tempo ประมาณ 100 -120/ sixteen-note จึงทำให้กลายเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างยาก จึงควรจัดรูปแบบการดีด และทำ transcription ใหม่ (จัดทางนิ้วใหม่) ให้ลงตัว จะทำให้คุณเล่นได้ง่าย และคล่องตัวมากขึ้น อย่างใน Ex.1a ผมได้ทดลอง transcription เปลี่ยนแปลงทางนิ้วใน bar1,2 คือchord Am ,E7 ใหม่ แต่ก็ยังไม่ค่อยสมบรูณ์ครับ ถือเป็นแนวทางแล้วกันนะครับ ทางนิ้วอันใหม่นี้ ทำให้ผม สามารถเคลื่อนที่นิ้วได้คล่องตัวกว่า Transcription แบบแรก การทำTranscription ผมไม่ได้คำนึงถึงรูปแบบการเคลื่อนที่ในแต่ละสายมากนัก แต่เน้นที่ความคล่องตัวเป็นหลัก ผมใช้การ Hummer -on และ Slide เข้ามาช่วยการเคลื่อนที่ของโน้ตและนิ้ว ร่วมทั้งจังหวะการเปลี่ยนการดีดpickด้วย แต่เรื่อง Sound ผมคิดยังไม่ค่อยสมบรูณ์เท่าไร เพื่อน ๆลองไปทำดูนะครับ

Ex.2



ใน Ex.2 เป็น theme ของเพลงไวโอลิน Caprice no.5 / Niccolo PaGanini ซึ่ง Steve vai นำเอามาเรียบเรียงใหม่ ในภาคกีตาร์ไฟฟ้าได้อย่างสวยงาม และลงตัว มีทางเดินchord ใน theme อยู่ 3 chord = Am E7 Am เป็นแนวทำนองที่นำมาใช้ได้โดดเด่น และลงตัว ทางนิ้วที่จัดไว้ค่อนข้างยาก ลองทำ transcription เองดูนะครับ โดยใช้รูปแบบการจัด pick แบบ Alternating (สลับขึ้นลงโดยตลอด)
Ex.3

เป็นช่วง ที่อยู่ในท่อน Climax ของบทเพลงนี้ ที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วที่มีการไล่เสียงแบบ Sequence ควบคู่กับเทคนิคสายเปิด E ที่ทำให้ทำนองมีการเลื่อนไหลอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งแสดงถึงการเรียบเรียงของ Steve vai เพลงนี้มีการวางรูปแบบของการนำเสนอที่ตื่นตาตื่นใจ และ เขาสู่ Climax ได้อย่างยอดเยี่ยม คราวนี้ มาเน้นเรื่องการทำ Transcription ซึ่งประโยชน์ของการทำ Transcription ก็เพื่อทิศทางของเสียงเป็นไปตามความต้องการของคนเล่น หรือ ทำให้จัดทางนิ้วในผู้เล่นแต่ละคนสะดวกขึ้น ซึ่งแล้วแต่เหตุผลอื่น ๆอีกด้วยว่าต้องการทำไปเพื่ออะไร เช่น ต้องการเสียงที่ไพเราะขึ้น , ต้องการเน้นความเร็วในบทเพลง ฯลฯ แต่การใช้วิธีนี้ จะมีผลในเรื่องอารมณ์เพลง เพราะของเนื้อเสียงและทิศทางที่ออกมาจะแตกต่างกัน ซึ่งผมคิดว่าควรจะฟังและให้ความสำคัญกับจุดนี้ เพราะถ้าคุณเปลี่ยนรูปแบบทางเดินนิ้วมือซ้ายใหม่ จะทำให้การเคลื่อนที่ของนิ้วและเสียงของทำนองโดยร่วม และการจัด pick มือขวาอาจไม่ Smooth ทั้งหมด ต้องฟัง และทดลองดูหลาย ๆ แบบนะครับ เพื่อได้เสียงที่พอใจ และทางนิ้วที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket