Main Menu
 Home หน้าแรก
 login / สมาชิก
 BuyerBook
 รายการ TV
  คอร์ด / เนื้อเพลง
  วีดีโอ คลิป
  Webboard
  Classifieds
  ข่าวสารดนตรี
  Review & ทดสอบ
  งานคอนเสิร์ต
  บทความดนตรี
  Cools Links
  Artist Gear
 
  About Us

12715


 Hotshot:     Steve Vai    4/27/2000    อ.โจ้
"สักวันหนึ่งเด็กคนนี้ต้อง ต้องทำให้โลกตะลึงด้วยเสียงกีตาร์ของมัน แน่นอนเลยวะ" Frank Zappa เคยกล่าวเอาไว้ มันเป็นคำพูดที่ไม่เกินเลยความจริงไปเลย ปัจจุบันนี้ชื่อของ Steve vai เป็นชื่อนักกีตาร์ ที่คนทั่วโลกรู้จักเขา เขาเป็นนักดนตรีมีจุดยืนของตัวเองที่ชัดเจน ผ่านงานหิน ๆ กับวงดัง ๆระดับ 4 ดาว มามากมาย ตั้งแต่ Frank Zappa , Alcatrazz , David lee Roth Whitesnake ฯลฯ ในช่วง Steve vai เป็นมือกีตาร์ในนามของ David Lee Roth (นักร้องนำของ Van Halen) หลักจากแยกทางเดินกับวง Van Halen Steve เริ่มถูกจับตามอง และเปรียบเทียบกับ Eddie Van Halen อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นการสอบที่หนักเอาการสำหรับ Steve vai ในช่วงนั้น เพราะตอนนั้นเขายังไม่มีเครดิต มากเท่าปัจจุบันนี้ แต่ต้องไปเปรียบเทียบกับมือกีตาร์ระดับ ตำนานอย่าง Eddie Van แต่เวลาได้พิสูจน์ให้เห็น ถึงความเป็น Steve vai เขามีความเป็นตัวเองอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น วิธีคิด และแนวการเล่นที่แตกต่างจากนั้นกีตาร์ในยุคเดียวกัน ในงานดนตรีของ Steve นั้นจะมีทั้งเนื้อหาดนตรี ที่แปลกใหม่ และเทคนิคที่มากมาย โดยใช้กีตาร์เป็นหลักคราวนี้ผม จึงเสนอ lick ที่ใช้โครงสร้างหลัก(Rhythmic) เหมือนกัน Lick นี้เป็นรูปแบบที่ Steve ใช้บ่อย ๆในงานดนตรีของเขา มาศึกษากันดูนะครับ

Ex.1a

Ex. 1b



ใน 2 Ex (Ex.1a ,Ex.1b) ที่ ใช้โครงสร้างในรูปแบบ Sequence ใน Sixteen note Triplet เป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มโน้ตที่ Steve ชอบใช้ บ่อย ในlick ส่วนใหญ่ของเขา ใน Ex.1a เป็น Lick สั้น ๆ ใช้เทคนิค Legato Phrase ที่ต้อง Slur technique ด้วยการใช้ Hummer -on และ pull - off อย่างแข็งแรง และต่อเนื่อง แต่ปัญหาคือเรื่องของน้ำหนักเสียง ช่วงแรกคุณควรจะฝึกให้โน้ตทุกตัวให้มีเสียงสม่ำเสมอก่อนและค่อยมาฝึกเรื่องการเน้นนำหนักที่หลังเพราะ ในlick นี้ ความยาก อยู่ที่นำหนักการดีดโน้ตใน Beat แรก เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่คุณต้องรักษานำหนักให้ได้สม่ำเสมอ และเสียงออกมา Smooth ทุกตัว

ส่วนใน Ex.1b เป็น Lick ที่สร้าง Phrase ได้สวยงาม และน่าสนใจ โดยใช้ที่ระบบ Chromatic(ครึ่งเสียง) เข้ามา ผสมผสาน กับ Scale หลัก (Dmajor scale) ทำให้ ลีลาของทำนองมีสีสัน ที่ทำฟังดูแปลกหูขึ้น และ ผมรู้สึกว่ามี Characteristics of Sound ( ลักษณะเฉพาะของเสียง) ของ Frank Zappa เจือปนอยู่ใน สุ้มเสียงของ Steve ใน barที่ 2 จากBeat ที่2 คุณ จะเห็นการใช้ เสียง Chromatic ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

จุดหนึ่งที่น่าสังเกตคือ รูปแบบการสร้างแนวทางการเล่นกีตาร์ ของ Steve จะมีแนวคิด แตกต่างกับทั้ง อาจารย์ของเขาเองอย่างชัดเจน คือ Bill Wescott , joe Satriani ซึ่งแสดงให้เห็นถึง Steve เป็นนักดนตรีที่มีจุดยืน ทางความคิดที่ชัดเจน และการอยู่ในระดับนี้ ต้องมีการวิธี การสร้างสรรความคิดที่มีทิศทาง และจุดขาย ตัวเอง อย่างชัดเจน ไม่ใช้การลอกความคิด หรือทำตามกระแสนิยม แนวการสร้างดนตรีของ Steve Vai จะเน้นการใช้ โน้ตนอกคอร์ดมาสร้างMelodic จึงมีเสียงที่ฟังระคายหูเป็นพื้น (Dissonance) และผสมผสานกับแนวคิดสมัยใหม่ ในระบบ Atonality ที่ได้รับอธิพลมาจาก Frank Zappa มาแบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะ Sound Lydian Mode ( C D E F# G A BC) ซึ่ง Zappa ชอบใช้ Steve เคยกล่าวว่า "แนวทางการเล่นที่มีทิศทางของตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ศึกษา คิด แสวงหา และฝึกฝนอย่างหนัก "

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket