ทุกครั้งที่ผมนึกถึงพลังเสียงของดนตรีในแนว
rock คำว่า Riff นี้ ถือเป็นคำแรกเลย ที่ดึงผมเข้ามาสู่โลกของดนตรีแนวนี้
เป็นคำสั้น ๆ ที่แสดงถึงพลังของท่อนกีตาร์เด็ด ๆ ที่เราต้องเลียวหลังกับมาฟังเมื่อได้ยิน
ซึ่งตอนนั้น ผมยังไม่สนใจท่อนsolo เลยครับ ก็แค่รู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของบทเพลง
แต่Riffกีตาร์ นี่ซิ ทำให้ผมยากจับกีตาร์ขึ้นมาหัดเล่นเลยที่เดียว
เพราะทั้งเล่นไม่ยากแต่เทห์ , สนุก และฟังรู้เรื่องมากกว่า
ที่ผมพูดมานี่คนชอบsolo อย่าโกรธนะครับ มันเป็นเพียงมุมมองหนึ่งที่ผมพยายามจะบอกกับเพื่อน
ๆว่า จุดเด่นของเสียงกีตาร์ร็อคที่สามารถสื่อสารกับคนฟังได้ง่ายที่สุด
ผมคิดว่าน่าจะเป็น Riff นี่ละ ซึ่งมันเปรียบเสมือนเพชรที่อยู่ในบทเพลงทีเดียว
ถ้าเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้ได้ อย่างเพลง Purple Haze,
Rock Bottom ,Smoke on the water, Back in Black, Crazy
Train ,Cochiseฯลฯ จุดที่น่าสนใจของกีตาร์ร็อคในปัจจุบันเท่าที่ผมลองสังเกตดูนะครับ
ก็มีนักกีตาร์หลายคนที่พยายามหารูปแบบใหม่ของเสียง รวมทั้งเทคนิค
และวิธีการเล่น จุดที่ผมสนใจเป็นพิเศษก็คือการหา new line
(หน้าที่ใหม่ ๆ)ให้กับบทเพลง ซึ่งเริ่มมองเห็นแตกต่างจากแนวคิดเดิม
ๆ ในยุคที่ผ่านมา ก็อาจเป็นไปได้ครับที่…. เราอาจพบทางออก
และวิธีคิด เล่นใหม่ ๆของกีตาร์ร็อคในปัจจุบัน แต่จุดหนึ่งที่ผมยังเห็นใช้กันอยู่ตลอดไม่เปลี่ยน
และพวกเค้ายังคงพยายามสร้าง Riffเด็ด ๆ ให้กับบทเพลง อย่างเช่นนักกีตาร์ร็อครุ่นใหม่อย่าง
Tom Morello (Audioslave) หรือ Vernon Reid (living Colour)
ทั้งคู่จัดอยู่ใน ประเภท Creative guitarisits ที่ยังมีกลิ่นอายของ
Jimi Hendrix เจือปนอยู่ ในความคิดของผมเองนะครับ ซึ่งใน
คราวนี้ เลยมาดูการสร้าง Riff แบบง่าย ๆกันนะครับ
Ex.1 rhythmic riff
Click
ที่นี่เพื่อ Download Movie Clip

อันนี้ เป็นรูปแบบที่ผมใช้บ่อย
ๆ รวมทั้งไอเดียการsoloด้วย ก็คือการเขียนโครงสร้างแบบคราว
ๆออกมาก่อน แต่จุดสำคัญในการคิด riff ของผมจะมี 2 แบบ
ก็คือ 1.วางทางเดินchord กับmelodic ซึ่งเป็นไอเดียคร่าว
ๆในตัวเพลงออกมาก่อนบางแล้ว เพื่อจะได้ให้รูปร่างของตัวเพลง
แล้วค่อยแต่งriff 2. ทดลองเล่นหลาย ๆแบบ จากmainไอเดีย
จนได้riffดี ๆออกมาก่อน แล้วจากนั้นวิเคราะห์ โครงสร้างจากriffไปหาrhythmic
melodic และchord ซึ่ง riff เพลงนี้ผมใช้แบบแรกนะครับ
ทางเดิน chord เพลงอยู่ในKeyG (I Vsus2 Vi(b5) I) และ
melodic เป็น E pentatonic minor เพลงนี้ผมจะคิด Riff
จาก chord Em7-5 (E G bB D) เป็นหลัก มันเป็นsound rock
riff ในแบบอนุรักษ์ ที่นิยมเล่นคู่กับสายเปิดของกีตาร์มาช้านานแล้ว
ตัวผมเองก็ได้อธิพลของsoundนี้มาเหมือนกันครับ ผมลองพยายามแต่งriff
จากrhythmic เพียงห้องเดียวก่อน แต่ผมคิดว่ามันจะลงตัวกับบทเพลงได้ดีถ้าได้สัก2ห้อง
ผมเลือกใช้ sixteennote เป็นหลัก แล้วค่อย ๆลองใส่ตัวหยุดrest
เข้าไปใน riff เพื่อเน้นup beat และเทคนิคใช้ pull off
กับแนวทำนอง มีการmuteด้วยนะจ๊ะ
EX.2 Riff Develop
Click
ที่นี่เพื่อ Donwload Movie Clip

พอจะได้ โครงสร้างคร่าว ๆ แล้ว แต่ผมยังรู้สึกว่า riff
ฟังดูแล้วเรียบเกินไป และขาดจุดเด่น การใช้ตัวหยุดก็ทำให้riffขาดความหนาแน่นลงไป
เพราะผม อยากให้ฟังออกมาแบบ Heavy ในแบบup beat หน่อย
ๆ ครับ ผมก็เลยลองเปลี่ยนใหม่เอาตัวหยุดออก แต่ยังคงใช้soundเดิมเป็นหลัก(Em7-5)
แต่คราวนี้จะให้beatที่ 3-4 มีสีสันมากหน่อย โดยผมเอาขั้นคู่
4Dimจากchord Em7-5มาใช้เพิ่ม ( 6 semitone) = E G bA
bB D แล้วลองทดลองเล่นผสมกับเทคนิคต่าง ๆไปเรื่อย ๆ จนผมชอบsound
ของเทคนิค Harmmer on กับสายเปิด ที่เล่น ในรูปแบบของคู่เสียงแบบ
octave ที่ช่วยทำให้ riff ฟังดูน่าสนใจและใหม่ขึ้น จากนั้นก็ขยายriff
ออกเป็น 2beat โดยการเปลี่ยนoctave ในรูปแบบเดิม เพื่อน
ๆจะสังเกตเห็นได้ว่าผม เพียงแต่เอาขั้นคู่เสียง และเทคนิคHammer
on มาช่วยเพิ่มสีสัน ของ riff นี้ ซึ่ง ผมคิดว่านี้เป็นตัวอย่างหนึ่ง
จากหลาย ๆไอเดีย และ หลายวิธี ที่จะนำเอาทฤษฎีมาประยุกต์
ทดลอง ใช้ กับriff ตัวเองดูนะครับ ของเพื่อน ๆ ดูนะครับ
" ผมคิดว่าถ้าเราสามารถพัฒนา Riff ให้ดีได้ เราก็สามารถพัฒนาการแต่งเพลงRockให้ดีได้เช่นเดียวกัน"
good riff good rock & no riff no rock