เรื่อง soundcard ครับ  
 
- ผมคิดดูว่า ผมมีงบอยู่ 2หมื่นไม่เกินี้ ผมว่าจะหั่นครึ่ง ไปซื้อซาวน์การ์ด กะ ตู้ลำโพงไว้ฟังเวลาจะมิก ดีไหมครับ
- ให้พี่ๆช่วยแนะนำอีกครั้งครับ ว่า ในงบไม่เกิน 1หมื่นบาท จะใช้ Sound Card ยี่ห้ออะไรดีในงบนี้ ที่ใช้งานได้ดี คุ้มราคา (ถ้าได้ถูกๆก็ดีครับ อยากประหยัดงบไว้เพื่ออย่างอื่น) อ่อ..ขอที่เหมาะกับโปรแกรม Cubaseนะครับ
- คือปัจจุบันผมใช้ซาวน์ ไรมะรู้พันก่าบาท เวลาใส่เอฟเฟค เสียงร้องมันดู เสี่ยวๆ ไงไม่รู้ครับ ไม่รู้ว่า เป็นที่ซาวน์ หรือเป็นที่ผม ไม่มีประสบการณ์ ก็ไม่ทราบ และเสียงเวลา มิกดาวน์ มาลองไปเปิดเทียบกับเพลง ทั่วๆไป มันจะค่อยกว่ามากเลย และ ไม่ค่อยใส ฟังจะไม่ค่อยชัด ไม่ทราบว่า ถ้าซาวน์ ที่พอใช้ได้ในงบที่ผมบอก มันจะช่วยให้ ซาวน์ ที่เป็น midi และ Audio ที่เราอัดสด ดีขึ้นหรื่อไม่ครับ

- ผมสังเกตุเห็นหลายๆคน มักจะใช้ซาวน์การ์ด มากกว่า หนึ่งอัน เป็นเพราะอะไรครับ ในความเข้าใจผมคิดว่า บางอันมันจะอัดสดดี หรือบางอันมันจะมีข้อดีแต่ละอย่างของมันเฉพาะตัวเลยต้องใช้มากกว่าหนึ่งอัน เพื่องานจะได้ออกมาดีที่สุด อันนี้ผมเข้าใจถูกไหมครับ

- ขอบคุณพี่ๆมากครับที่ช่วยเด็กน้อยอ่อนประสบการณ์ คือ ในบางคำที่พี่ๆใช้เรียกกันบางทีผมอ่านแล้วก็งง บ้างเข้าใจบ้าง อยากให้พี่ลองใช้คำง่ายๆดูครับ คือ..ผมไม่มีความรู้ด้านนี้เลยจริงๆ กลัวไปหมดไม่กล้าจะซื้อซาวน์มาใช้เลย กลัวว่า ซื้อมาแล้ว จะใช้กับคอมเราไม่ได้บ้าง ไม่ดีบ้าง ซื้อมาแล้วต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก กลัวโดนหลอกบ้าง เลยไมได้ซื้อสักที แต่ขอบคุณพี่ๆที่ให้ความกรุณาครับ ขอบคุณมั่กๆ
-

   สมาชิกแบบพิเศษ   ๐ป๋าเบ้น๐      19 มี.ค. 50   เวลา 15:59:00       พิมพ์   แจ้งลบ   ส่งหาเพื่อน    IP = 124.120.83.165
 


  คำตอบที่ 1  
 
- FireWire Solo ครับ จ่ายไปหมื่นมีเงินทอนมานิดหน่อย แต่ต้องมี FireWire port นะครับ
ส่วนลำโพงงบประมาณนี้ยากครับ มีนะมีครับ แต่ใช้ลำโพงบ้านดีๆ ยังดีกว่า monitor ราคา
ต่ำอีกครับ ถ้าไม่แคร์ว่าจะต้องเป็น ลำโพง Monitor ลองไปดูที่นี่ครับ

http://www.patid.com/main/index.php?option=com_smf&Itemid=37&topic=2856.0

พูดถึง Wharfadale Daimond 8.1 หาซื้อคงลำบากแล้ว จะ
มีก็แต่ 9.1 amp ราคาประหยัดก็ TULA แต่ 9.1 ผมไม่เคย
ลองแต่เห็นเค้าว่ากันว่าใช้ได้ดีเหมือนกัน

"แต่อย่าไปหลงผิดซื้อ Daimond 8.2 Active ที่เด็ดขาดครับ"
ย้ำหน่อยเคยแนะนำรุ่นน้อง มันไปที่ร้านแล้วที่ร้านมีแต่ 8.2 เค้าคิดว่ารุ่น
สูงกว่าก็ต้องดีกว่าสิ แต่ซื้อมา Bass บึ้มเลยครับ ใช้ทำงานเพลงลำบาก
มากครับ ^-^;;

ของอย่างนี้ รุ่นสูงกว่าแพงกว่า ใช่ว่าจะดีกว่าเสมอไป และที่สำคัญขนาด
ของ ดอกลำโพง ต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดห้องที่เราใช้ทำงานด้วย

- เสียงมันแปลกๆคงเพราะสัญญานมันไม่เข้ากันครับ ปรับยังไงก็คงไม่ดีขึ้น แต่ถ้าได้เจ้า
Soundcard ที่สามารถเสียบ Guitar ได้นี่คุณภาพระดับ Multieffect บางรุ่นเลยครับ

เสียง MIDI นั้นเดี๋ยวนี้ มี Plug-in ที่ให้เสียงที่ค่อนข้างสมจริง แต่ต้องใช้ soundcard
ที่มี ความหน่วง ต่ำด้วยไม่งั้นเล่นๆแล้วรู้สึกว่าเสียงออกช้้า จำเป็นมากเวลาอัดครับ

- soundcard จริงๆแล้วตัวเดียวก็พอครับ ผมก็เป็นคนนึงที่เคยใช้เยอะๆ เพราะพวก joystick
port ของ Soudcard เนี่ยใช้เป็น MIDI I/O ได้ มันก็ประหยัดเงินได้เพราะถ้าซื้อ MIDI port
ก็สองสามพันจะจ่ายแพงกว่าทำไมในเมื่อมีอยู่แล้ว ไปซื้อสาย Joystick เป็น MIDI 300 กว่า
บาทเอง ^-^;;

ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ MIDi เยอะ ก็ไม่จำเป็นครับ และเดี๋ยวนี้พวกอุปกรณ์ MIDI ทั้งหลาย
ต่อ USB ได้เป็นส่วนใหญ่ เช่น keyboard ใบ้รุ่นใหม่ๆใช้ USB สะดวกกว่าด้วยไม่ต้องเสียบ
ปลั๊กเพราะใช้ไฟจาก USB

   ken_ardency      19 มี.ค. 50   เวลา 23:02:00   IP = 124.120.123.132
 


  คำตอบที่ 2  
 
- FireWire Solo นี่คือชื่อซาวน์ การ์ดใช่ปะคับ ผมลองดูในกูเกิ้ลคือตัวนี้ปะคับ
http://www.m-audio.com/products/en_us/FireWireSolo-main.html
- FireWire port นี่คืออะไรครับ
- ส่วน เรื่อง ลำโพง อย่างนี้ แสดงว่า ถ้าเราไม่ยึดติดว่ามันเป็น มอนิเตอร์ ใช้เครื่องเสียงบ้าน ก็ประหยัดเงินกว่าใช่หรือเปล่าครับ
ขอบคุณพี่ ken_ardency มากๆเลยครับ เพราะเห็นพี่ตอบหลายกระทู้เลย แบบไม่มีกั๊กด้วย ขอบคุณมากๆครับ ถ้าไม่มีพี่คงแย่

   สมาชิกแบบพิเศษ      ๐ป๋าเบ้น๐      20 มี.ค. 50   เวลา 0:57:00   IP = 124.120.73.96
 


  คำตอบที่ 3  
 
ยินดีครับ ผมเองก็ประจำอยู่บอร์ดนั้นเช่นกัน มีเรื่องอะไรลองสมัครแล้วแข้าไป
ถามที่นั่นบ้างก็ได้ครับ ที่นั่นมีคนเก่งและความรู้มากกว่าผมอีกหลายคน

- ใช่ครับเป็น soundcard แบบ external
- FireWire หรือ IEEE 1394 คือช่องเสียบคล้ายๆ USB แต่หัวไม่เหมือนกันครับ
คอมพิวเตอร์ PC ไม่ค่อยมีมาให้ส่วนใหญ่จะมีใน Mainboard spec สูงๆ แต่หาก
ไม่มีสามารถซื้อแบบ PCI มาใช้ได้ครับไม่กี่ร้อย ไปบอกร้านขายอุปกรณ์คอม
ว่าซื้อ FireWire PCI ส่วนใหญ่ก็รู้ครับ

- ลำโพงนี้รุ่นที่กระทู้นั้นกล่าวถึง ตัวลำโพง + amp แล้วประมาณ หมื่นบาท แต่
monitor ที่ถูกที่สุด อยู่ที่แปดพันกว่าบาท ก็ไม่ประหยัดกว่าหรอกครับ

มี Monitor ก็ดีกว่าแหล่ะครับ แต่ monitor ถูกๆคุณภาพไม่ค่อยดีหน่ะครับ ถ้าจะ
ซื้อให้ใช้งานได้จริงๆ ผมคิดว่าอย่างน้อยๆต้องมีซัก 17-18,000 บาท ของ YAMAHA
ถึอว่าคุณภาพได้มาตรฐาน

เห็นว่างบจำกัด เจ้า 8.1 ผมเคยฟังแล้วทำงานได้ดีราคาก็ประหยัดผมยังอยากได้เลย

หากจะเลือกเครื่องเสียงบ้านมาใช้ก็ต้องเลือกดีๆหน่อยครับ งานอย่างที่เราจะทำเนี่ย
ไม่ต้องการย่านใดเด่นจนเกินไปในขณะที่เครื่องเสียงบ้านส่วนใหญ่ เน้นเสียงทุ้มเพื่อ
ความตึ๊บ แต่ถ้าหาดีๆก็พอจะมีครับลำโพงบ้านที่นำมาใช้งานเพลงได้

แต่จะให้แนะนำรุ่นนี่คงไม่ไหวผมไม่ได้เล่นเครื่องเสียงเพราะไม่มีปัญญาถูกๆก็มีแต่
ส่วนใหญ่จะแพง ^-^;; อีกอย่างของอย่างนี้มันแล้วแต่คนถนัดด้วยครับ บางคนชอบ
เสียงกลางเยอะหน่อย บางคนชอบยี่ห้อนั้นมากกว่ายี่ห้อนี้ อะไรประมาณนี้ เป็นอะไร
ที่ฟันธงลำบากมากเรื่องลำโพง

แนะนำเวลาลองลำโพง ติดแผ่นเพลงที่เราฟังประจำไปด้วย เพราะเราจะคุ้นเคยกับ
มันดี เลือกรุ่นที่ไม่มีย่านใดเด่นจนเกินไป โดยเฉพาะเสียงทุ้ม ควรได้ยินแต่ไม่มาก
จนเกินไป และลำโพงที่ดีควรได้ยินชัดทุกอย่างครับถ้าห้องตามบ้าน ขนาดลำโพง
ที่แนะนำอยู่ที่ 5 นิ้วครับ

ถ้ายังไม่แน่ใจ ใช้ของที่มีอยู่ไปพลางๆก่อนครับ ทำงานให้จบ แล้วต่อไปซักพักคุณ
ก็คงจะรู้เองว่าต้องการอะไร ลำโพงแบบไหนขอเพียงมีใจที่จะทำงานให้ดีขึ้น เช่น

- Mix งานเสร็จแล้วไปฟังเครื่องอื่น bass น้อยไป น้อยก่วาตอนเราฟังที่บ้าน ก็แสดง
ว่าลำโพงที่คุณใช้อยู่ให้เสียงทุ้มมากเกินไป ถ้าผลเป็นในทางกลับกันก็แสดงว่าลำโพง
ให้เสียงทุ้มน้อยไป

เรื่องนี้ว่ากันยาวครับ กี่หน้าก็ไม่จบ เหอๆ ใจเย็นๆไม่ต้องรีบร้อนครับ ผมว่าระบบการ
ฟังที่ดี สภาพห้อง หรือที่ sound engineer เรียกว่า acoustic เนี่ยเห็นผลและสำคัญ
กว่าอุปกรณ์ที่ใช้อีก อย่าง soundcard ใช้แค่ได้มาตรฐานไม่ต้องแพงมากขอให้เพียง
พอต่อการใช้งานแค่นั้นก็พอแล้ว แต่ในทางกลับกันต่อให้มี soundcard รุ่นที่ดีที่สุด
อย่าง ProTools HD ราคาหลายแสน ถึงเป็นล้าน แต่ระบบการฟังไม่ดีก็จบงานที่มี
คุณภาพลำบากครับ

เริ่มบ่นยาวไปละ ขออภัยครับเริ่มเมาแล้ว หวังว่าคงช่วยให้ตัดสินใจได้นะครับ

   ken_ardency      20 มี.ค. 50   เวลา 4:00:00   IP = 124.120.123.132
 


  คำตอบที่ 4  
 
ผมเพิ่งหัดใช้Program นี้อยู่พอดีครับ ไปหาหนังสือ ไม่เห็นมีขาย ได้แต่มั่วๆเอาอะครับ ยังใส่เสียงBassไม่เป็นเลยครับ ไม่มีBassของจริงซะด้วยสิ

   กีต้าร์ร้ายๆ      20 มี.ค. 50   เวลา 13:05:00   IP = 203.188.10.161
 


  คำตอบที่ 5  
 
โอ๊วววว... บ่นมาเยอะๆก็ได้ครับ ชอบฟังคนที่เป็นแล้วบ่น เพราะเราจะได้ข้อมูล
เวลาฟังเพลงที่เราทำ ถ้าเราตั้งลำโพงของเราให้กลางหมดทุกอย่าง จะช่วยไม่ให้หลอกหูไหมครับ เพราะจะได้ไม่มีอะไรเด่นเกินออกมา
แต่ผมว่าจริงอย่างที่พี่พูดเลยว่า ซาวน์ไม่ต้องแพงก็ได้ ถึงเราจะมีซาวน์แพงๆ แต่ลำโพงเราห่วย ก็ฟังรายละเอียดได้ไม่ดีอยู่ดี
ขอบคุณอีกครั้งครับ แต่เห็นทีผมคิดว่าคงจะเอาซาวน์ก่อน แล้วเก็บตังเพิ่มอีกแล้วค่อยเอาลำโพงที่ใช้ได้ไปเลยดีเดียวจบดีกว่า ใช่มะครับพี่

   สมาชิกแบบพิเศษ      ๐ป๋าเบ้น๐      20 มี.ค. 50   เวลา 20:04:00   IP = 124.120.89.54
 


  คำตอบที่ 6  
 
ครับเก็บเงินไว้ดีกว่าครับ ถ้าไม่ต้องซื้อลำโพงแล้วจะว่าไป M-Audio FireWire
Solo ก็อาจจะไม่เพียงพอกับการใช้งานในภายภาคหน้านะครับ ไม่พอสำหรับ
ผมคนนึงละ

ต้องขออภัยถ้าทำให้ไขว้เขว ผมแนะนำตัวนี้ตอนแรกเพราะเห็นว่าจำกัดงบจริงๆ
และยังต้องซื้อลำโพงอีก

แต่จะว่าพอก็ว่าพอสำหรับ Bed room studio หรือ งานอัดเสียงตามบ้านนะครับ
ที่คุณจะเสีย โอกาสหลักๆเลย คือ

- มี mic แค่ช่องเดียว วันนึงเกิดอยากอัด guitar โปร่งใช้ไมค์สองตัว ตัวนึงที่คอ ตัวนึง
ที่ bridge ทางแก้ ซื้อ mic pre-amp เพิ่ม "เสียเงินเพิ่มข้อที่ 1"

- output น้อย ต่อ surround ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ทำก็ช่างมัน

- หูฟังมีอันเดียว ตอนอัดร้องลำบากถ้าไม่ได้แยกห้องร้อง และในกรณีที่มีคนคุมอัด
คนนึงคนร้องคนนึง ทางแก้ ซื้อ headphone amp "เสียงเงินเพิ่มข้อที่ 2" หรือคนคุม
อัด อยู่ในความเงิยบงันไป ^-^; ซื้อ jack แยกก็ไม่ work อ่ะครับ เสียงมันเบาลงถ้าแยก
โดยที่ไม่มีตัวขยายอย่าง head phone amp อ่ะนะครับ ทางแก้ที่ถูกที่สุด Headphone
amp บ้านหม้อครับ ไม่กี่ร้อยใช้งานได้ไม่ต่างจาก samson ราคาสองพัน ต่างกันแค่
ไม่สวยและไม่มียี่ห้อ

ก็มีเท่านี้แหล่ะครับ แล้วไอเสียเงินเพิ่ม ข้อที่ 1 กับ 2 เนี่ย รวมกันแล้ว สามารถซื้อรุ่น
ที่ดีกว่าและคุ้มค่ากว่าได้ครับ เช่น M-audio Firewire 410 หรือ ที่อยากแนะนำจริงๆ
คือ Focusrite Saffire LE ครับ ตัวนี้คุณภาพเสียงพิสูจณ์แล้วดีกว่า M-audio แน่นอน
ครับราคาพอๆกับ FireWire 410

แต่ผมสนับสนุนการใช้อุปกรณ์อย่างพอเพียงนะครับ ถ้าสิ่งเหล่านั้นคุณไม่ได้ใช้แน่ๆ
ก็ซื้อ FireWire Solo ก็ได้ครับ จะได้เก็บไว้อีกหมื่นไว้เป็นทุนซื้อ ลำโพงที่สำคัญกว่า
ก็เป็นทางเลือกที่โอเคเช่นกัน

มาเสนออีกทางเลือก กลัวว่าวันนึงคุณต้องใช้งานมากขึ้นแล้วจะมาโทษผมที่แนะนำ
M-audio FireWire solo เท่านั้นครับ

   ken_ardency      22 มี.ค. 50   เวลา 6:29:00   IP = 124.120.114.5
 


  คำตอบที่ 7  
 
อ้อ ไม่มี MIDI I/O อีกข้อนึง FireWire Solo ไม่มี MIDI I/O กรณี ที่
จำเป็นต้องต่อพวก อุปกรณ์MIDI จริงๆ อุปกรณ์ชิ้นนั้นต่อ USB ไม่
ได้ถ้าต้องซื้อ MIDI USB เพิ่มก็ สองสามพันบาท "เสียเงินเพิ่มข้อที่ 3"
รวมข้อนี้ด้วยราคาก็ แพงกว่า ทั้ง FireWire 410 กับ Saffire LE แล้ว
ครับ

ทางแก้ถูกที่สุดคือ อย่างที่ผมบอก ใช้ สาย MIDI ที่ต่อกับช่อง Joystick
ของ soundcard ที่มีอยู่ ราคาสามร้อยกว่าบาท

   ken_ardency      22 มี.ค. 50   เวลา 6:40:00   IP = 124.120.114.5
 


  คำตอบที่ 8  
 
ถ้าอย่างนี้ ถ้าผมอดใจเอาFocusrite Saffire LE นี่ดีกว่าไหมครับ เพราะผมเป็นคนที่ ชอบซื้ออะไร ซื้อแล้วจบ ระดับนึงเลย คือเข้าใจว่ายังไงมันก็ไม่จบง่ายๆหลอกครับ แต่ว่า ใช้งานได้ระดับนึงเลย แล้วราคาซักเท่าไหร่ครับ
คือ ขอเล่าตัวผมเองนิดนึง เพื่อพึ่จะแนะนำตัวที่ผมต้องการได้
ผมเป็นนักดนตรีกลางคืน นี่แหละคับ แต่ดันไม่ชอบเล่นเพลงตลาด ชอบเล่นบลูส์ ร้านมันเล่นก็น้อย ก็เลยมีวันเล่น2 -3 วัน ส่วนตัวไม่ชอบเล่นทุกวันด้วย เลย กะเอาแบบนี้ แล้วบังเอิญมีคนชวน ทำเพลง ผมก็ชอบแต่งเพลงอยู่แล้ว คือ ผมกะเอาทางนี้เป็นอาชีพเลยล่ะคับ ผมเลยอยากได้ของที่ใช้งานได้ระดับนึงเลยคับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ สำรับข้อมูลดีๆครับ พี่ ken_ardency

   สมาชิกแบบพิเศษ      ๐ป๋าเบ้น๐      22 มี.ค. 50   เวลา 23:45:00   IP = 124.120.71.19
 


  คำตอบที่ 9  
 
อ่ออีกอย่งนึงครับ คือ ไม่ทราบว่า เด๋วนี้ ซาวน์การ์ดมันทำมาเป็น แบบ external หมดเลยหรอครับ แต่ส่วนตัวผมชอบนะ แล้วมันจะต่างกับ แบบธรรมดาหรือเปล่าครับ หรือว่าดีกว่า หว่า....


   สมาชิกแบบพิเศษ      ๐ป๋าเบ้น๐      22 มี.ค. 50   เวลา 23:49:00   IP = 124.120.71.19
 


  คำตอบที่ 10  
 
หากระงับกิเลศได้ ผมว่ารุ่นนี้ใช้ได้นานครับต่อให้ต่อไปเปิดห้องอัดก็
อาจจะซื้อของมาเพิ่มอีกอย่างสองอย่าง ก็อัดกลองได้แล้วครับ

รุ่นที่ดีกว่านี้ก็คือ saffire เฉยๆอ่ะครับ ราคาประมาณ 20,000 บาท มา
พร้อม DSP ช่วยประหยัด CPUเวลาใช้ Effect ตอนทำงานครับ แต่ส่วน
นี้ใช้ช่วยเฉพาะ Effect ที่มันให้มานะครับ ตัว LE มันตัด DSP ออกไป
แล้วลดราคาครับ

อีกรุ่นที่ผมชอบมากๆ และคิดว่ามันคุ้มค่ามากๆ คุ้มค่าทึ่สุดในเวลานี้ก็ว่าได้คือ TC
electronics konnekt 24Dถ้าไปซื้อที่ตัวแทนจำหน่าย ราคา 20,000 บาทเพื่อนผม
เพิ่งไปซื้อมา ที่ว่าคุ้มก็คือมี DSP และ แถม Plug-in ราคาแพงมาให้ 2 ตัวครึ่ง ^_^;;
คือสามนั่นแหล่ะครับ แต่มีตัวนึงแถมแบบ lite version มาให้ตัดบาง function ออก

ที่น่าสนใจหลักๆคือ ไอสองตัวที่มันแถมมาเนี่ย ถ้าซื้อ ก็ตัวละ 30,000 แล้วครับ รวม
กันก็หกหมื่นถ้ารวมอีกครึ่งตัวที่แถมก็ 75,000 ^-^'' แต่ราคาการ์ดมันแค่ 20,000 เอง
แล้วต้องมี card ของยี่ห้อนี้ถึงจะใช้ได้ คุณภาพก็เจ๋งมา มีแล้วใช้ Mix ทำ Mastering
งานคุณภาพได้เลย ไอตัวที่แถมไม่มี crack ให้ใช้ด้วย

อันนี้ตัวเดียวจบจริงๆ ฝรั่งแห่กันซื้อเต็ม เค้าไม่ใช้โปรแกรม crack กัน ซื้อเจ้านี่มา แถม
ทั้ง โปรแกรม แถมทั้ง option จนจบงานได้อย่างนี้มีแต่คนรีบคว้าไว้ ผมเองก็คนนึงที่เล็ง
ไว้เหมือนกันผมใช้ mac ไม่ค่อยมีของเถื่อนให้ใช้มากอย่าง Windows (แต่ก็มีพอทำงาน
แหล่ะ แต่อยากใช้ของถูกกฎหมาย)

ตั้งแต่ FireWire 410, Saffire LE, Saffire, Konnekt 24D ขึ้นไปผมว่าใช้งานระยะยาวได้
เลยครับ แต่ M-audio คุณภาพอาจจะด้อยกว่า แต่ไม่ถึงกับแย่
____________________________________________________
PCI เป็น internal ก็มีครับ แต่ที่ไม่แนะนำเพราะอีกไม่นานมันจะเลิกใช้
ไม่รู้ว่าจะใช้ได้อีกนานเท่าไร สำหรับ เครื่อง Mac เป็น PCI-e หมดแล้ว
ครับ ผู้ผลิต hardware ช่วงนี้ก็จะดันแต่ External ออกมาเพราะคงไม่
แน่ใจทิศทางผลิตและตลาด ปล่อยออกมาแล้ว มาตรฐานเปลี่ยนต้องมา
นั่งรับผิดชอบลูกค้า เปลี่ยน card ให้ใหม่อีก ไม่เปลี่ยนก็เสียลูกค้า เพราะ
อย่างนี้ soundcard ที่เป็น PCI ไม่ค่อยมีออกมาใหม่ระยะนึงแล้ว

อีกอย่าง PCI ใช้แล้วงบมักจะบานปลายครับ ส่วนใหญ่มีแต่ช่อง In ช่อง out
ไม่มี Mic ไม่มีนู่นไม่มีนี่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม ตรงกันข้ามกับพวกนี้ มีมาให้
พร้อมหมดเลย บางยี่ห้อคุณภาพก็ใช้ได้ดี ถ้าไม่ใช่คนยึดติด Tube หรือ
หลอด มาก

ถ้าได้มาแล้วอาจจะมีเสียงวิพากษ์วิจารว่า "ทำไมไม่ใช้ PCI ละ PCI ดีกว่าชัวร์กว่า"
คนบางคนก็ยังยึดติดกับอะไรเดิมๆเราใช้งานได้ก็ไม่ต้องไปสนใจครับ บางทีผมไป
เจอเพื่อนใหม่ที่ทำเพลงเหมือนกัน พูดว่าใช้ FireWire ก็เจอประโยคอย่างนี้เหมือน
กัน ผมก็ยิ้มแล้วไม่พูดอะไร ผมคนนึงกล้ายืนยัน ถ้าเครื่องคอม spec ไม่แย่ ใช้
FireWire ทำงานได้สบายครับ

   ken_ardency      23 มี.ค. 50   เวลา 2:08:00   IP = 124.120.115.137
 


  คำตอบที่ 11  
 
แล้วตัวFocusrite Saffire LE ที่พี่ว่าคุ้มเนี่ยมันเท่าไหร่หรอครับ ราคามันต่างกับ electronics konnekt 24D ที่เพื่อนพี่ซื้อมาราคา 2หมื่น มากไหมครับ
ผมก็คิดเหมือนกันนะครับ ถ้าเป็นแบบ External มันสะดวก พกพา และไปใช้กับเครื่องไหนก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่า เครื่องนี้ใช้ได้หรือไม่ได้ เพียแค่มี usb ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ จุ๊ฟๆๆ

   สมาชิกแบบพิเศษ      ๐ป๋าเบ้น๐      23 มี.ค. 50   เวลา 20:32:00   IP = 124.120.74.11
 


  คำตอบที่ 12  
 
ขอแค่มี FireWire port ครับ ไม่ใช่ USB ผมอธิบายว่ามันคล้ายๆ
เฉยๆ แต่ไม่เหมือนกันอ่ะครับ

อันนี้ราคาตั้งในเว็บนะครับ ไม่รู้ซื้อจริงจะได้ลดรึเปล่าน่าจะลดนะ

Focusrite saffire 22,000 บาท
Focusrite saffire LE 15,900 บาท
M-audio FW 410 15,900 บาท
T.C. electronics Konnekt 24D 21,500 ยาท (แต่เพื่อนผมซื้อ 20,000)

สังเกตุว่า saffire LE กับ FW410 ราคาเท่ากัน ดูหลายๆอย่างแล้วเทียบ
คุณภาพแล้ว saffire LE เป็นฝ่ายชนะครับ ^o^ เสียดายตอนที่ผมซื้อ
saffire LE ยังไม่นำเข้ามา T_T

อ่อ ผมเข้าใจผิดนิดนึง ไอที่ผมบอก saffire LE ซื้ออุปกรณ์เพิ่มอัดกลองได้เนี่ย ไม่ได้
ครับผมเข้าใจผิดต้องขออภัยครับ ผมนึกว่ามี optical I/O

ทุกรุ่นที่กล่่าวมี มี TC. Electronics konnekt 24D รุ่นเดียวที่ เพิ่ม Input และ Output
ได้ถึง 14/14 I/O (2 mic/inst/line, 2 line inputs and 4 line outputs, 8 ADAT and
2 S/PDIF (optical and coaxial) inputs and outputs) ซึ่งเพียงพอต่อการอัดกลอง
ชุดที่ไม่ใหญ่มากได้ครับ หรือถ้ายังไม่พออีกก็ซื้อ konnekt 24D มาต่อเพิ่มได้อีกครับ
เสียบ konnekt ได้พร้อมกัน 4 ตัว สรุปเพิ่ม I/O ได้มากสุด 56 I/O หรือ 56 channels
นั่นเอง

ในขณะที่รุ่นอื่นที่บอกๆไปนั้นมีทางเดียวคือเปลี่ยน soundcard เท่านั้นหากต้องการอัด
กลอง ถ้ามองในระยะยาวแล้ว Konnekt 24D คุ้มค่าที่สุดแล้วในขณะนี้ ถ้าพูดถึง องค์
ประกอบของมันนะครับ ส่วนคุณภาพแล้วแต่คนชอบครับ

แต่ถ้าคิดว่า ทำที่บ้านอย่างเดียว อัด Guitar กับร้อง ไม่ได้อัดกลองแน่ๆ ไม่ได้ทำห้อง
อัดเป็นจริงเป็นจัง ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงกว่าครับมันแล้วแต่การใช้งานของแต่ละคน
ตอนนี้ก็ต้องตัดสินใจเองแล้วครับ

ผมแค่เสนอเป็นทางเลือก ในการตัดสินใจ ตอนเลือกจะเลือกอันไหนก็คงต้องแล้วแต่
คุณละครับ

* optical, S/PDIF เป็น ช่องสัญญาน แบบ Digital ครัับ
** I/O ย่อมาจาก Inputs / Outputs

   ken_ardency      24 มี.ค. 50   เวลา 21:34:00   IP = 124.120.115.28
 


  คำตอบที่ 13  
 
ทำที่บ้านอย่างเดียว อัด Guitar กับร้อง ไม่ได้อัดกลองแน่ๆ ไม่ได้ทำห้อง
อัดเป็นจริงเป็นจัง นี้เหมาะกับซาวการ์ดตัวไหนครับ พี่ ken_ardency

   aeimzaza   30 ส.ค. 54   เวลา 18:52:00   IP = 118.172.170.219
 




any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
All Rights Reserved (C) Copyright 1999 - 2005


Thailand Web Stat