ครั้งนี้เรามาทดสอบสาย Cable กันบ้าง โดยเป็นสายที่ใช้เชื่อมกับ Effect ทั้งหลายที่พ่วงๆกันอยู่ ซึ่งหลายๆท่านอาจจะเห็นว่าไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญเท่าใดนัก ก็แค่สายพ่วง Effect ใช้แบบใหนก็ได้ เพราะมันสั้นๆ ส่วนใหญ่นักดนตรีจะให้ความสำคัญกับเครื่องดนตรีเป็นหลักเช่น กีตาร์ต้องดี ใช้ Pickup เยี่ยม แอมป์ต้องเป็นหลอดเสียงพุ่ง หรือ Effect ต้องเป็น True bypass เพื่อเสียงจะได้ไม่ Drop แต่...................ไม่มีใครนึกถึงอุปกรณ์เล็กๆ ที่มีหน้าที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือสาย cable ที่เราใช้ส่งสัญญาณ ไฟฟ้า จากกีตาร์ไปยัง Effect หรือ ตู้แอมป์บ้างเลย เพราะอะไร ซึ่งหลายๆท่านมองข้ามข้อนี้ไป ซึ่งถือว่าเป็นจุดผิดพลาดได้อย่างมากกับเรื่องของ Sound ครับ พอเล่นกีตาร์หรือ แอมป์ เล่นออกมาเสียงไม่อุ่นหนา หรือมีเสียงรบกวน ก็โทษกีตาร์หรือแอมป์บ้าง บางคนถึงกับต้อง รื้อวงจรเอา Pickup มาต่อใหม่ สุดท้ายพอไม่หาย ก็โทษว่า Pickup ไม่ดี หรือกีตาร์ไม่เหมาะกับ Pickup ตัวนี้บ้าง หรือบางคนก็โทษกับโชคชะตา แบบนี้ก็มีครับ พูดมาตั้งเยอะ คืออยากจะให้เห็นความสำคัญกับเรื่องของสายเคเบิ้ลบ้างครับ เพราะมันมีส่วนสำคัญกับเสียงมากครับ ถ้าสายเคเบิ้ลที่มีคุณภาพสูง จะลดเสียงรบกวน สัญญาณจะสะอาด เสียงจะอุ่นหนา เต็มๆ ครับ ซึ่งถ้าเราให้ความสำคัญกับเครื่องดนตรีมากเท่าใด เรื่องสายเคเบิ้ลก็เหมือนกันครับ คราวนี้เราจะมาทดสอบสายเคเบิ้ลในที่นี้เอามาพ่วงกับ Effect ครับ ยี่ห้อ George L's ครับ เรามาดูกันเลยครับ
 |
 |
หน้าตาทั่วๆไปของ George L's Cable จะมีลักษณะตัวสายค่อนข้างเล็ก และที่ Jack จะมีปลอกยางหุ้มอยู่ เพื่อป้องกันการกระแทก และชำรุด ซึ่งสวมอยู่ที่ด้านท้าย
 |
 |
เมื่อแกะออกมาดูแล้วจะมีคล้ายๆ ฝาปิดเป็นเกลียวหมุนออกได้ ทำหน้าที่ Lock ตัวสายเคเบิ้ลให้ติดกับตัว Jack ซึ่งหมุนเข้าออกได้ง่าย และมีปลอกยางหุ้มอีกที โดยการออกแบบถือว่าทำได้สะดวกมากครับ เพราะแค่นำสายเคเบิ้ล มาเสียบเข้าตรงรู Jack หมุนเกลียวปิดฝา หุ้มปลอก เสร็จแล้วครับ พร้อมเล่นเลย ซึ่งสะดวกสำหรับเวลาที่เราต้องการใช้สายที่เราต้องการกำหนดความยาวเอง ซึ่งการซื้อสายสำเร็จเลย มันก็ดีครับ แต่ข้อเสียคือเราตัดต่อขนาดไม่ได้ มันจะเสียของครับ แต่ George L's เป็นสายที่ออกแบบมาเป็นชุดคิท สำหรับโมดิฟายหรือ ตัดต่อขนาดสายได้ง่าย ซึ่งสาย George L's มีคุณสมบัติหลักๆคือ Low
capacitance co - ax cable คือทำให้เสียงรบกวนน้อยมากครับ และทำให้สัญญาณวิ่งผ่านสายได้เต็มที่ครับ เหมาะกับนำมาพ่วง Effect จริงๆครับ เพราะตัดต่อง่าย เสียงไม่ drop ยิ่งพ่วง Effect หลายๆตัวล่ะก็ถ้าสายทั่วๆไปที่มี noise เยอะล่ะก็ เสียง drop เห็นๆครับ
ทดสอบ
ผมทดลองอยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ เพื่อทดสอบความแข็งแรงความทนทาน และคุณภาพของเสียง ได้ผลว่าเสียงที่ได้จากการผ่านตัว Effect และแบบ ต่อตรงกับตู้แอมป์ แทบไม่ต่างกันครับ คือการทดสอบนี้ผมใช้ Effect ที่มีคุณสมบัติ True by pass ครับเหมือนต่อตรงครับ และได้นำไปเล่นในที่ต่างๆต้องขนย้าย โดยผมไม่ได้ใช้เก็บใส่ใน Case คือยัดใส่กระเป๋าเลย หิ้วไปมาหลายที่ ก็สายก็ยังคงสภาพเดิมครับ ไม่ได้หลวมหรือคลอนเลย อาจจะเป็นเพราะการออกแบบที่ใช้ฝาปิดแบบ เกลียวหมุนก็เป็นไปได้ ทำให้มันยึดเคเบิ้ลกับหัวแจ็คได้แน่นหนามาก ซึ่งต่างกับการใช้ตะกั่วเชื่อมสายทั่วๆไปถ้าดึงแรงตะกั่วหลุดก็สัญญาณขาดครับ
สรุป
สาย George L's เป็นสายที่ลดเสียงรบกวน และติดตั้งง่าย ออกแบบได้ยอดเยี่ยม แก้ปัญหาการขาดหรือหลุดระหว่างสายเคเบิ้ลกับหัวแจ็คได้นี่ ถือว่าลดความเสี่ยงในการเล่นสดหรืออัดเสียงได้ดีเลยครับ ทำให้เบาใจไปเยอะ สายเคเบิ้ลมักชอบเจอปัญหานี้ครับ ผมว่าเรื่องสายเคเบิ้ลนี่เป็นส่วนนึงที่ต้องคำนึงถึงมากๆ ไม่น้อยกว่ากีตาร์หรือแอมป์เลยครับ
สนใจติดต่อที่
จิ้น เฮง หลี
73 ถนนอัษฎางค์ เขตพระนคร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ กรุงเทพฯ 10200
Tel . 221-6217, 222-4712, 622-0391-2 FAX 225-6172