สเกล (scale) โหมด (mode) และคอร์ด (chords) สำหรับผู้เริ่มต้น (ตอนที่ 2)

คราวนี้มาถึงเรื่อง MODE แบบเริ่มต้นกันบ้าง

- ความเดิมเมื่อตอนที่แล้ว เราจบตรงที่มี scale หลักๆ อยู่ 4 แบบ แต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์ (เรียกว่า signature) ที่เฉพาะตัว

- รู้กันอยู่ว่า Major scale นั้นใช้กันมาก ดังนั้นผมจะเริ่มสร้าง mode จาก Major scale (อย่าลืม 34 78 นะครับ)

- แต่ยังไงต้องย้ำกันก่อนว่า ที่เหลืออีก 3 scale นั้นก็ทำแบบนี้ได้ (หลักการเดียวกัน)

RST

24 ก.ค. 52 เวลา 0:18:00

พิมพ์

แจ้งลบ IP = 125.24.148.105

คำตอบที่ 1

Mode กับ chord สัมพันธ์กันโดยตรง โดย chord สร้างมาจาก mode อีกทีหนึ่ง ดังนั้นทุกครั้งที่เปลี่ยน chord ก็คือการเปลี่ยน mode นั่นเอง

- การกระโดดโลดเต้นของตัวโน้ตในแต่ละช่วงของเพลงนั้น แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเริ่มจากตัวที่ 1 ของ scale เสมอไป

- เอาละเรา "จะเริ่มต้นจากโน้ตตัวที่ 2 ของ scale" ไล่ไปจนถึงตัวที่ 2 อีก octave

- การไล่ที่ว่านี้คงต้องรักษาโน้ตของ Major scale เอาไว้ทุกตัว (ยึดไว้ตลอดเวลาแหละ) นั่นคือ 34 และ 78 ต้องติดกัน

- เราเรียกการไล่นี้ว่า "Mode ที่ 2" หรือ "Dorian mode" สังเกต (จากรูป) โน้ตทุกตัวตรงกันหมด ไม่ได้มีตัวไหนเพิ่มหรือลดจาก Major scale

- ตัวเริ่มต้นในที่นี้คือ "ตัวที่ 2 ของ scale" ในขณะเดียวกันก็เป็น "ตัวที่ 1 ของ mode"

- Mode ที่ 1 (ก็ Major scale นั่นแหละ) มีชื่อเรียกว่า "Ionian mode"

- Dorian mode มันก็มีเอกลักษณ์ของมันเอง แตกต่างจาก Ionian mode (ความจริงมันต่างแค่ตัวเริ่มเท่านั้น ตัวโน้ตนั้นยังเหมือนกันทุกตัวขอย้ำ)

RST

24 ก.ค. 52 เวลา 0:48:00 IP = 125.24.148.105

คำตอบที่ 2

เอาละถ้าเข้าใจ Dorian ที่เหลือก็หลักการเดียวกัน

- เริ่มจาก "Mode ที่ 3" ก็แค่เริ่มด้วยตัวที่ 3 ใน scale

- จนถึง "Mode ที่ 7" แต่ไม่มี mode ที่ 8 เพราะมันซ้ำกับ mode ที่ 1

ข้อสังเกต

1. ทุก mode ใช้โน้ต 8 ตัวเหมือนกันหมด (ถ้าเลขตรงกัน ต้องอยู่ตรงกัน)

2. Mode ที่ 6 มี signature เหมือนกับ Natural minor (ดูดีๆ เห็น 23 56 มั้ย)
(นั่นคือ Aeolian ของ Major ก็คือ Ionian ของ minor นั่นเอง แล้วถัดไป Locrian ของ Major ก็คือ Dorian ของ minor และตัวต่อๆ ไป)

3. ดังนั้นเราไม่มีความจำเป็นต้องสร้าง Mode ให้กับ Natural minor scale เพราะมันมีตัวเทียบทุกตัวใน Major scale อยู่แล้ว

4. ตัวที่ 3 ในแต่ mode (ต้องนับเอานะครับ ตัวที่ 3 คือที่ระบายสีเหลืองหรือแดงไว้) เป็นตัวกำหนดว่า mode นั้นเป็น Major หรือ minor (ถ้าห่าง 2 เสียงจากตัวแรกจะเป็น Major แต่ถ้าห่าง 1 เสียงครึ่งจะเป็น minor) ดังนั้น Mode ที่ 1 4 5 จะเป็น Major mode ที่เหลือเป็น minor mode

5. ตัวที่ 5 ของแต่ละ mode (ระบายสีเขียว) ในเกือบทุก mode (ยกเว้น mode ที่ 7) อยู่ห่างจากตัวที่ 1 ของ mode เท่ากันพอดี (ห่าง 3 เสียงครึ่ง ยกเว้น mode 7 จะห่างกันแค่ 3 เสียง)

RST

24 ก.ค. 52 เวลา 1:22:00 IP = 125.24.148.105

คำตอบที่ 3

Mode ไม่ใช่เรื่องเข้าใจยากนะครับ ความยากมันอยู่ตรงจำ(เสียง) signature มันให้ได้ต่างหาก

ความจริงถ้าเข้าใจแล้ว เราสามารถเขียนได้เลยด้วยช้ำ

> อย่างเช่น Mode ที่ 5 (Mixolydian) ก็จะเป็น 5 6 78 2 34 5 (ก็แค่เริ่มตัวที่ 5 แล้วเขียนตัวที่ 34 กับ 78 ติดกัน แล้วจบที่ 5)

> หรือจะหา Mode ที่ 5 ของ Natural minor บ้าง (รู้ว่า 6 ของ Major ตรงกับ 1 ของ minor ดังนั้นเอา minor บวกไป 5 จะได้ major) นั่นคือ 5+5 = 10->3 (ถ้าเกิน 7 ให้ลบด้วย 7)

RST

24 ก.ค. 52 เวลา 1:55:00 IP = 125.24.148.105

คำตอบที่ 4

[กลับมาเขียนต่อ]

- คราวนี้มาดูมุมมองใหม่ จัดให้ตัวที่ 1 ของทุก mode อยู่ตรงกัน (ตัวที่เหลือมันก็ตรงกันหมด)
(แต่ยังรักษา signature ของ mode ไว้)

- ดู "mode ที่ 2" ให้ดี แล้วคิดว่ามันดัดแปลงมาจาก "mode ที่ 1" ได้อย่างไร

- คำตอบคือ มันมาจากเอา mode ที่ 1 มาแล้วให้ "ตัวที่ 3 ติด flat และตัวที่ 7 ติด flat"
- จึงเขียนว่า "b3 b7" ที่ mode ที่ 2

- หรือลองดู mode ที่ 4 ด้วยหลักการเดียวกัน

- ก็จะเห็นว่ามันมาจากเอา mode ที่ 1 แล้วทำให้ตัวที่ "4 ติด sharp"
- จึงเขียนว่า "#4" ที่ mode ที่ 4

- ทำอย่างนี้กับทุก mode แล้วท่องให้ได้ (เค้าว่ากันว่า) เวลาอยากเล่น mode ไหน ก็ให้นึกถึง Major scale แล้วดัดแปลงตามกติกาที่ตั้งไว้ จะช่วยให้หา mode นั้นๆ ได้ง่ายขึ้น (หวังว่าไม่งง นะครับ)

RST

24 ก.ค. 52 เวลา 8:49:00 IP = 125.24.121.144

คำตอบที่ 5

สรุป

1. Mode เป็นการจัดเรียงลำดับ (ความห่าง ความชิด) ใหม่ ดังนั้นมันสร้าง signature ใหม่ให้เราเลือกมากมาย

2. ใน scale เดียวกัน ทุก mode ใช้ note ชุดเดียวกัน (7 ตัวเดียวกัน ไม่ขาด ไม่เกิน)

3. ทุก Mode สำหรับ Natural minor scale มีตัวเทียบใน Major scale รออยู่แล้ว

4. เราสร้าง Mode จาก signature ของ scale นั้นๆ เช่น
- mode 6 ของ Natural minor ก็คือ 6 7 8 23 4 56 (เริ่ม 6 จบ 6 แล้วให้ 23 และ 56 ติดกัน)
- mode ที่ 2 ของ Melodic minor ก็คือ 23 4 5 6 78 2 (ขาขึ้น เริ่ม 2 จบ 2 แล้วให้ 23 และ 78 ติดกัน) และ 2 8 7 65 4 32 (ขาลง ให้ 23 และ 56 ติดกัน)

แค่นั้นแหละครับ ส่วนตัวผมแล้ว ผมว่าฝึกให้เล่นและจำเสียงทุก scale ให้ได้ คราวนี้แต่ละ scale ไล่ mode ให้ได้ครบทุก mode (3 scale คูณ 7 mode = 21 แบบ) ใช้เวลาฝึกซัก 1 ปี สร้างความแตกต่างในการเล่นกีต้าร์ให้กับเราอย่างมหาศาลทีเดียว

RST

24 ก.ค. 52 เวลา 9:37:00 IP = 125.24.121.144

คำตอบที่ 6

ถึงตรงนี้อยากฝากถึง "ผู้รู้ ผู้เล่น" ทุกท่านครับ

> หากท่านได้มาอ่านสิ่งที่ผมเขียน แล้วเห็นว่าอยากเพิ่มหรือแก้ไขตรงไหน เชิญตามสบายเลยนะครับ

> เพื่อให้เรื่องนี้มันสมบูรณ์และถูกต้องที่สุด ไม่ต้องกลัวว่าผมจะคิดเป็นอย่างอื่น

> ผมมีเวลาอยู่แค่นี้ ก็ทำได้แค่นี้

> ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

RST

24 ก.ค. 52 เวลา 9:45:00 IP = 125.24.121.144

คำตอบที่ 7

นอกจากได้รับความรู้เรื่องโหมดที่ผมไม่เคยเรียนไม่เคยรู้มาก่อน พยายามอ่านบทเรียนที่หลายท่านนำมาเสนอไว้ก็มองไม่เห็นภาพ เมื่อได้มาอ่านบทเรียนของอาจารย์แล้ว ก็ได้ความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก

ที่เป็นโชคชั้นที่สองก็คือ "วิธีการนำเสนอ" ของอาจารย์ ทำให้ผมได้แนวทางในการนำเสนอความรู้สู่สังคมได้มากขึ้นกว่าที่เคยรู้เคยทำมาก่อน

ขอบคุณมากครับ

biospray 24 ก.ค. 52 เวลา 13:57:00 IP = 113.53.150.195

คำตอบที่ 8

เจ๋งเลยครับ

!!!

Redirect

25 ก.ค. 52 เวลา 8:04:00 IP = 125.27.48.168

คำตอบที่ 9

ถามครับ
"แค่นั้นแหละครับ ส่วนตัวผมแล้ว ผมว่าฝึกให้เล่นและจำเสียงทุก scale ให้ได้ คราวนี้แต่ละ scale ไล่ mode ให้ได้ครบทุก mode (3 scale คูณ 7 mode = 21 แบบ) ใช้เวลาฝึกซัก 1 ปี สร้างความแตกต่างในการเล่นกีต้าร์ให้กับเราอย่างมหาศาลทีเดียว "
3 สเกลที่ว่า มี เมเจอร์ ไมเนอร์ และ อะไรอีก 1 อันครับ แหะ ๆ อยากฝึกเหมือนกัน

ohmx

28 ก.ค. 52 เวลา 9:49:00 IP = 118.175.90.43

คำตอบที่ 10

ตอบคุณ ohmx

ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เข้าใจผิด "3 scale" ที่ว่าคือ

1. Major scale
2. Harmonic minor scale
3. Melodic minor scale

ที่ผมไม่นับ Natural minor เพราะทุก mode ของ minor มันมี mode ตัวเทียบอยู่ใน Major scale เรียบร้อยแล้ว

RST

28 ก.ค. 52 เวลา 19:26:00 IP = 118.173.99.49

คำตอบที่ 11

สุดยอดครับ ขอบคุณมาก

Mod carabao

31 ก.ค. 52 เวลา 8:25:00 IP = 58.97.59.33

คำตอบที่ 12

ขอบคุณมากครับ ผม

Mini_n3wz

11 ส.ค. 52 เวลา 23:36:00 IP = 58.8.117.45

คำตอบที่ 13

ขอบคุณครับ อาจารย์

ohmx

13 ส.ค. 52 เวลา 13:53:00 IP = 118.175.90.43

คำตอบที่ 14

ขอบคุณครับ

เรื่อยๆ

22 ก.ย. 52 เวลา 17:29:00 IP = 124.120.174.42

คำตอบที่ 15

ขอบคุณมากครับ
ที่ช่วยสละเวลาเพื่อส่วนรวม
-/\-

CL4SH

26 ก.ย. 52 เวลา 15:53:00 IP = 58.64.89.142

คำตอบที่ 16

ขอบคุณมากครับ

boatza555 23 ต.ค. 54 เวลา 16:26:00 IP = 58.11.188.194

คำตอบที่ 17

ขอบคุณครับ

kabinblueser

19 มี.ค. 56 เวลา 12:04:00 IP = 27.55.143.99

คำตอบที่ 18

ขอบคุณมากครับ เข้าใจได้ดีเลย

earthflea 11 พ.ค. 56 เวลา 21:38:00 IP = 58.11.193.125

คำตอบที่ 19

แย่มมากครับ ขอบคุณครับ

ตัวจี๊ด

29 ธ.ค. 56 เวลา 18:03:00 IP = 171.99.84.242

คำตอบที่ 20

แปะ

maxofseed 6 ก.ย. 57 เวลา 1:36:00 IP = 183.89.146.31

คำตอบที่ 21

อ่านเข้าใจง่าย ขอบคุณมากๆครับ

PuttRock

21 ก.ย. 57 เวลา 17:14:00 IP = 183.89.156.217

คำตอบที่ 22

ผมได้ทำเรื่องราวพวกนี้ใหม่ ในรูปแบบ VDO
ลองไปดูในกระทู้นี้นะครับ
http://www.guitarthai.com/lessonboard/question.asp?QID=4421

RST

21 มิ.ย. 58 เวลา 11:18:00 IP = 118.173.246.51

คำตอบที่ 23

รบกวนขอถามเพื่อความเข้าใจ mode ที่เกิดจาก scale C major ก้อคือพื้นที่ทำให้เกิด Harmonize C major ใช่หรือเปล่าวครับ รบกวนอาจารย์ หรือผู้รู้ช่วยตอบให้หน่อยครับ

toto96 14 พ.ค. 60 เวลา 0:00:00 IP = 171.99.156.14

คำตอบที่ 24

ปีนี้ปี 62 แล้ว ยังมาอ่านนะครับ
ได้ความรู้ เข้าใจง่ายเลยครับ ขอบคุณมากครับบ

lnwmax34 23 พ.ค. 62 เวลา 10:46:00 IP = 182.52.213.152